คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ล้มละลาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,913 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดทุนโดยโอนทรัพย์สินก่อนล้มละลายถือเป็นการโอนทรัพย์สินโดยไม่สุจริต ผู้ร้องมีสิทธิเพิกถอนได้
การที่ผู้คัดค้านทั้งห้าได้ตกลงนำที่ดินและตึกแภว มาลงหุ้นกันตั้งแต่ห้างหุ้นส่วนจำกัดลูกหนี้ที่ 1ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งลูกหนี้ที่ 1ยังไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคลนั้น ถือว่าขณะนั้นลูกหนี้ที่ 1เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1079 แล้ว เมื่อผู้คัดค้านทั้งห้านำที่ดินและตึกแถวมาลงหุ้น กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวจึงตกเป็นของลูกหนี้ที่ 1 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ผู้คัดค้านทั้งห้าจะไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกหนี้ที่ 1 เมื่อลูกหนี้ที่ 1เป็นนิติบุคคลแล้วก็ตาม ก็ไม่ทำให้ที่ดินและตึกแถวไม่เป็นของลูกหนี้ที่ 1 ไปได้ ส่วนมาตรา 1030 ที่ว่าความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกับห้างหุ้นส่วนในเรื่องส่งมอบ ให้บังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยการซื้อขายกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบตัวทรัพย์หาได้บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องกรรมสิทธิ์ไม่ ดังนั้น ในระหว่างผู้คัดค้านทั้งห้ากับลูกหนี้ที่ 1 ต้องถือว่ากรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกแถวได้ตกเป็นของลูกหนี้ที่ 1 ตั้งแต่เวลาที่นำมาลงหุ้นแล้ว การลดทุนโดยถอนหุ้นที่ลงหุ้นด้วยที่ดินและตึกแถวบางส่วนออกไป ในขณะที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดลูกหนี้ที่ 1กำลังประสบกับภาวะการขาดทุนซึ่งลูกหนี้ที่ 1 กับผู้คัดค้านทั้งห้าก็ทราบดี จึงเป็นการที่ลูกหนี้ที่ 1ได้โอนทรัพย์สินหรือยอมให้โอนทรัพย์สินไปในระหว่างระยะเวลา 3 ปี ก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ที่ 1 ล้มละลายโดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนเสียได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินเข้าเป็นหุ้นก่อนจดทะเบียน และการเพิกถอนการโอนเมื่อล้มละลาย
ผู้คัดค้านได้นำที่ดินและตึกแถวมาลงหุ้นตั้งแต่ลูกหนี้(จำเลย) ที่ 1 ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งยังไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคล แต่ถือได้ว่าลูกหนี้ที่ 1เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1079 กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวจึงตกเป็นของลูกหนี้ตั้งแต่เวลาที่นำมาลงหุ้น แม้หุ้นส่วนผู้จัดการจะมีหนังสือไปถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทว่าผู้คัดค้านจะไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกหนี้ที่ 1 เมื่อลูกหนี้เป็นนิติบุคคลแล้ว ก็ไม่ทำให้ที่ดินและตึกแถวไม่ตกเป็นของลูกหนี้ที่ 1 ไปได้ และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1030 ที่บัญญัติถึงความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกับห้างหุ้นส่วนในเรื่องส่งมอบให้บังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยการซื้อขายนั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบตัวทรัพย์ มิใช่เรื่องกรรมสิทธิ์ เมื่อกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกแถวได้ตกเป็นของลูกหนี้ที่ 1 ตั้งแต่วันที่นำมาลงหุ้น การลดทุนโดยถอนหุ้นที่ลงหุ้นด้วยที่ดินและตึกแถวบางส่วนออกไปในขณะที่ลูกหนี้ที่ 1 กำลัง ประสบกับภาวะการขาดทุนซึ่งลูกหนี้ที่ 1 กับผู้คัดค้านทราบดี จึงเป็นการที่ลูกหนี้ที่ 1 โอนทรัพย์สินหรือยอมให้โอนทรัพย์สินไปในระหว่างระยะเวลา 3 ปี ก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ที่ 1 ล้มละลายโดยไม่สุจริต และไม่มีค่าตอบแทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ดอกเบี้ยที่ศาลชั้นต้นคิดให้โดยนับตั้งแต่วันยื่นคำร้องยังไม่ถูกต้อง แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนการโอนจึง ถือว่ามีการผิดนัดอันจะคิดดอกเบี้ยได้นับแต่วันนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดทุนโดยการถอนหุ้นด้วยที่ดินและตึกแถวเข้าสู่ภาวะล้มละลาย ถือเป็นการโอนทรัพย์สินโดยไม่สุจริต
ผู้คัดค้านทั้งห้าตกลงนำที่ดินและตึกแถวมาลงหุ้นตั้งแต่ลูกหนี้ที่ 1 ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งยังไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคลนั้น ถือว่าลูกหนี้ที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1079 แม้ยังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แต่ในระหว่างผู้คัดค้านทั้งห้าและลูกหนี้ที่ 1 ต้องถือว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวตกเป็นของลูกหนี้ที่ 1 ตั้งแต่เวลาที่นำมาลงหุ้นเป็นต้นมาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1030บัญญัติว่าด้วยความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกับห้างหุ้นส่วนในเรื่องส่งมอบให้บังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยการซื้อขายนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบตัวทรัพย์ หาได้บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องกรรมสิทธิ์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เกิดจากเจตนาช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามกฎหมายล้มละลาย
ลูกหนี้เป็นบริษัทจำกัดที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ การที่ลูกหนี้ประกอบธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาตแล้วเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินถึงขนาดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งมีหน้าที่คอย ควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจของลูกหนี้และสมาคมไทยเงินทุนและหลักทรัพย์ต้องขอร้องให้เจ้าหนี้ทั้งสามรายเข้าไปช่วยเหลือย่อมแสดงว่าในขณะนั้นลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และขาดความเชื่อถือจากสถาบันการเงินอื่น จึงไม่สามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินอื่น ๆ โดยลำพังตนเองเพื่อมาพยุงฐานะของตนได้ การที่เจ้าหนี้ทั้งสามให้ลูกหนี้กู้ยืมเงินแม้จะเป็นการกระทำโดยสุจริตเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ตามที่ได้รับการขอร้อง แต่ก็เป็นการยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้เพิ่มขึ้นทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ไม่ได้ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ปัญหาที่ว่าหนี้รายใดจะต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ในคดี ล้มละลายหรือไม่ เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นเจ้าหนี้ผู้โต้แย้งก็ชอบที่จะหยิบยกปัญหาดังกล่าวขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 วรรคสอง ประกอบกับพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ก่อนล้มละลายเพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้รายอื่น ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 115
ศาลนัดสืบพยานผู้คัดค้านรวม 6 นัด ผู้คัดค้านไม่เคยมาศาลเลย ได้สืบพยานผู้คัดค้านคือทนายผู้คัดค้านได้เพียงปากเดียวในนัดที่ 2 ส่วนนัดแรกและนัดที่ 3 ถึงนัดที่ 6 ทนายผู้คัดค้านขอเลื่อนคดี 4 นัดติดต่อกัน ถือได้ว่าผู้คัดค้านมีเจตนาประวิงคดี การที่ลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความชำระหนี้ให้ผู้คัดค้านในระหว่างระยะ 3 เดือน ก่อนที่ลูกหนี้จะถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลาย โดยที่ลูกหนี้มีเจ้าหนี้รายอื่นอีกจำนวนมากซึ่งขอรับชำระหนี้ไว้ในคดีนี้ถึง 15 ราย การชำระหนี้ดังกล่าวเป็นการกระทำที่มุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 115 ศาลให้เพิกถอนการชำระหนี้ได้ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าผู้คัดค้านรับชำระหนี้ไว้โดยสุจริตหรือไม่ การเพิกถอนการชำระหนี้เป็นไปโดยผลของคำพิพากษา ระหว่างที่ศาลยังมิได้พิพากษาให้เพิกถอนการชำระหนี้ถือว่าเป็นการชำระหนี้โดยชอบ ยังถือไม่ได้ว่ามีการผิดนัดตั้งแต่วันยื่นคำร้อง สิทธิเรียกดอกเบี้ยเริ่มนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และถือว่าเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7348/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการในหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัด และการพิสูจน์สถานะผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องให้จำเลยทั้งสองล้มละลายเป็นหนี้ตามคำพิพากษา ซึ่งสืบเนื่องจากห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 ก่อขึ้นในขณะที่จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่จำกัดความรับผิด ต้องรับผิดในหนี้สินแทนจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1070และ 1077 โดยไม่จำกัดจำนวน จำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจต่อสู้หรือนำสืบว่าตนมีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 หรือมิใช่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 7

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ก่อนล้มละลายไม่ถือว่าเจตนาให้เจ้าหนี้รายหนึ่งได้เปรียบ
ก่อนมีการฟ้องคดีล้มละลายประมาณ 4 เดือน ลูกหนี้จ้างผู้คัดค้านให้รื้อห้องสำนักงานของบริษัทลูกหนี้เป็นเงิน 85,000 บาท ผู้คัดค้านได้รื้อห้องให้เสร็จแล้ว ต่อมาหลังจากมีการฟ้องคดีล้มละลายไม่ถึงเดือน ลูกหนี้ได้ชำระหนี้ค่าจ้างให้แก่ผู้คัดค้านจำนวน45,000 บาท เป็นการชำระหนี้ตอบแทนในทันทีตามสัญญาจ้างปกติ อีกทั้งเป็นการชำระเพียงบางส่วน จำนวนเงินที่ชำระมีจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ที่มีอยู่ถึง 25 ล้านบาท กรณียังถือไม่ได้ว่าลูกหนี้ได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงขอให้เพิกถอนการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ก่อนฟ้องล้มละลาย: การชำระหนี้ตามปกติและการไม่เจตนาให้เจ้าหนี้รายหนึ่งได้เปรียบ
ก่อนโจทก์ฟ้องคดีล้มละลายประมาณ 4 เดือน ลูกหนี้จ้างผู้คัดค้านรื้อห้องสำนักงานของบริษัทลูกหนี้เป็นเงิน 85,000 บาท เมื่อผู้คัดค้านรื้อห้องเสร็จ ลูกหนี้ชำระค่าจ้างจำนวน 45,000 บาท ให้แก่ผู้คัดค้านเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2532 อันเป็นเวลาภายหลังฟ้องคดีล้มละลายไม่ถึงเดือน การกระทำของลูกหนี้เป็นการชำระหนี้ตอบแทนในทันทีตามสัญญาจ้างตามปกติ การชำระค่าจ้างก็เป็นเพียงบางส่วนและนับว่าเป็นจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหนี้ที่โจทก์ฟ้องซึ่งมีจำนวนถึง 25 ล้านบาท กรณียังถือไม่ได้ว่าลูกหนี้กระทำการชำระหนี้โดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องจึงขอเพิกถอนการชำระหนี้ของลูกหนี้ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 115 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังยกเลิกการล้มละลาย และผลกระทบต่อการจัดการทรัพย์สิน
เมื่อศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายเนื่องจากหนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวน โดยบุคคลภายนอกเป็นผู้ชำระแทนจำเลย และคำสั่งดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ลูกหนี้ผู้ล้มละลายย่อมหลุดพ้นจากการล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมหมดอำนาจในการจัดการรวบรวมและจำหน่ายทรัพย์สินของบุคคลล้มละลายทั้งนี้โดยไม่ต้องคำนึงว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะได้ประกาศโฆษณาคำสั่งยกเลิกการล้มละลายในราชกิจจานุเบกษาแล้วหรือไม่ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิ้นสุดอำนาจในการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้แล้วผู้ร้องจึงไม่อาจขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อายัดหรือระงับการจ่ายเงินที่บุคคลภายนอกนำมาชำระหนี้แทนจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายเนื่องจากชำระหนี้ครบถ้วน
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายเนื่องจากหนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้วตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 135(3) และคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวถึงที่สุดโดยผู้ร้องมิได้โต้แย้งและไม่อาจโต้แย้งคำสั่งของศาลดังกล่าวได้ลูกหนี้ผู้ล้มละลายย่อมหลุดพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลายอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการจัดการ รวบรวมและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายย่อมหมดไปโดยไม่ต้องคำนึงว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งยกเลิกการล้มละลายในราชกิจจานุเบกษาดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 138แล้วหรือไม่ เพราะการประกาศโฆษณาดังกล่าวเพียงเพื่อให้บุคคลทั่วไปทราบถึงสถานะของจำเลยซึ่งเคยเป็นบุคคลล้มละลายว่ามีการยกเลิกการล้มละลายแล้วเท่านั้น อำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายสิ้นสุดลง เมื่อศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลาย หาใช่สิ้นสุดลงเมื่อมีการโฆษณาคำสั่งดังกล่าวไม่เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิ้นสุดอำนาจในการจัดการทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องจึงไม่อาจขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อายัดหรือระงับการจ่ายเงินตามที่ร้องขอได้
of 192