พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11-13/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมต้องเพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์อื่น การฟ้องไม่ชัดแจ้ง และการสืบพยานสุขภาพ
อสังหาริมทรัพย์อาจตกอยู่ในภารจำยอมก็เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่นเท่านั้น จะอ้างว่าใช้ที่ดินนั้นเพื่อประโยชน์แก่การค้าน้ำแข็งหาได้ไม่
ผู้ที่ต้องยอมรับภารจำยอม คือ เจ้าของทรัพย์ จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินของวัด จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่จะเรียกวัดเข้ามาเป็นจำเลย
โจทก์ฟ้องอ้างภารจำยอม โดยกล่าวว่าโจทก์ได้ใช้ที่ดินนั้นเข้าออกเพื่อประโยชน์อื่น เช่นนี้ เป็นการฟ้องเคลือบคลุม ไม่แจ้งชัดว่าประโยชน์ใด โจทก์จะนำสืบมิได้เพราะไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง
ประเด็นในคดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของโจทก์ภายหลังการกั้นรั้วของจำเลยหรือเพราะเหตุที่กั้นรั้วนั้นว่าโจทก์ยังสุขสบายตามสมควรหรือไม่ เช่นนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องสืบพยานถึงความสุขสบายของโจทก์ตั้งแต่ครั้งที่จำเลยยังไม่กั้นรั้วและศาลยังไม่ไปเดินเผชิญสืบ
ผู้ที่ต้องยอมรับภารจำยอม คือ เจ้าของทรัพย์ จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินของวัด จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่จะเรียกวัดเข้ามาเป็นจำเลย
โจทก์ฟ้องอ้างภารจำยอม โดยกล่าวว่าโจทก์ได้ใช้ที่ดินนั้นเข้าออกเพื่อประโยชน์อื่น เช่นนี้ เป็นการฟ้องเคลือบคลุม ไม่แจ้งชัดว่าประโยชน์ใด โจทก์จะนำสืบมิได้เพราะไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง
ประเด็นในคดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของโจทก์ภายหลังการกั้นรั้วของจำเลยหรือเพราะเหตุที่กั้นรั้วนั้นว่าโจทก์ยังสุขสบายตามสมควรหรือไม่ เช่นนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องสืบพยานถึงความสุขสบายของโจทก์ตั้งแต่ครั้งที่จำเลยยังไม่กั้นรั้วและศาลยังไม่ไปเดินเผชิญสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148 แม้ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตแก้ฟ้องหรือสืบพยาน
เมื่อฟ้องของโจทก์ในคดีนี้มีประเด็นว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของใคร นิติกรรมซื้อขายเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ เป็นประเด็นเช่นเดียวกับที่ได้ฟ้องร้องกันมาแล้วในคดีก่อน และศาลได้วินิจฉัยประเด็นข้อโต้เถียงระหว่างโจทก์จำเลยแล้วทุกประเด็นจึงเป็นฟ้องซ้ำซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา148
การที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องและคำให้การในคดีเรื่องก่อนก็ดี สั่งงดไม่ให้สืบพยานก็ดี ล้วนแต่เป็นเรื่องดำเนินการพิจารณาในคดีทั้งสิ้น คำสั่งของศาลดังกล่าวจะเป็นการถูกต้อง ขอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันให้ถึงที่สุดไปด้วยการอุทธรณ์ฎีกา คู่ความจะหาวิธีแก้ด้วยการยืนคำฟ้องใหม่โดยหวังจะให้คำพิพากษาในคดีเรื่องใหม่นี้ลบล้างคำพิพากษาเรื่องก่อนซึ่งมีผลบังคับตามกฎหมายผูกพันคู่ความอยู่แล้วในประเด็นเดียวกันหาได้ไม่
การที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องและคำให้การในคดีเรื่องก่อนก็ดี สั่งงดไม่ให้สืบพยานก็ดี ล้วนแต่เป็นเรื่องดำเนินการพิจารณาในคดีทั้งสิ้น คำสั่งของศาลดังกล่าวจะเป็นการถูกต้อง ขอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันให้ถึงที่สุดไปด้วยการอุทธรณ์ฎีกา คู่ความจะหาวิธีแก้ด้วยการยืนคำฟ้องใหม่โดยหวังจะให้คำพิพากษาในคดีเรื่องใหม่นี้ลบล้างคำพิพากษาเรื่องก่อนซึ่งมีผลบังคับตามกฎหมายผูกพันคู่ความอยู่แล้วในประเด็นเดียวกันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 แม้ศาลไม่อนุญาตแก้ฟ้องหรือสืบพยาน
เมื่อฟ้องของโจทก์ในคดีนี้มีประเด็นว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของใคร นิติกรรมซื้อขายเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ เป็นประเด็นเช่นเดียวกับที่ได้ฟ้องร้องกันมาแล้วในคดีก่อน และศาลได้วินิจฉัยประเด็นข้อโต้เถียงระหว่างโจทก์จำเลยแล้วทุกประเด็น จึงเป็นฟ้องซ้ำซึ่งต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
การที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องและคำให้การในคดีเรื่องก่อนก็ดี สั่งงดไม่ให้สืบพยานก็ดีล้วนแต่เป็นเรื่องดำเนินการพิจารณาในคดีทั้งสิ้น คำสั่งของศาลดังกล่าวจะเป็นการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันให้ถึงที่สุดไปด้วยการอุทธรณ์ฎีกาคู่ความจะหาวิธีแก้ด้วยการยื่นคำฟ้องใหม่โดยหวังจะให้คำพิพากษาในคดีเรื่องใหม่นี้ลบล้างคำพิพากษาเรื่องก่อนซึ่งมีผลบังคับตามกฎหมายผูกพันคู่ความอยู่แล้วในประเด็นเดียวกันหาได้ไม่
การที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องและคำให้การในคดีเรื่องก่อนก็ดี สั่งงดไม่ให้สืบพยานก็ดีล้วนแต่เป็นเรื่องดำเนินการพิจารณาในคดีทั้งสิ้น คำสั่งของศาลดังกล่าวจะเป็นการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันให้ถึงที่สุดไปด้วยการอุทธรณ์ฎีกาคู่ความจะหาวิธีแก้ด้วยการยื่นคำฟ้องใหม่โดยหวังจะให้คำพิพากษาในคดีเรื่องใหม่นี้ลบล้างคำพิพากษาเรื่องก่อนซึ่งมีผลบังคับตามกฎหมายผูกพันคู่ความอยู่แล้วในประเด็นเดียวกันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินเฉพาะส่วน การสืบพยานเพื่อแก้ไขข้อตกลงในสัญญาขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
จำเลยทำหนังสือสัญญาขายที่ดินให้โจทก์มีข้อความว่า"การขายรายนี้เป็นการขายเฉพาะส่วนของผู้ขายเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ของผู้มีส่วนร่วมอื่น ทั้งไม่ทราบเขตและเนื้อที่มากน้อยเพียงใดด้วย" ซึ่งปรากฏว่าจำเลยมีส่วนอยู่ 1 ใน 4 อันเป็นส่วนเฉพาะในโฉนดที่ดินแปลงนั้นดังนี้ จำเลยจะขอสืบว่าได้ตกลงจะขายเป็นบางส่วนของตนไม่ได้ เพราะเป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประทับฟ้องและการสืบพยานจำกัดสิทธิโจทก์ในการฟ้องคดีอาญาซ้ำ
ผู้ว่าคดีได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยตั้งข้อหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ชั้นไต่สวนมูลฟ้องจำเลยรับในข้อหารับของโจร ศาลแขวงสั่งคดีมีมูล ประทับฟ้องฐานรับของโจร ส่วนข้อหาฐานลักทรัพย์ไม่ประทับฟ้อง โจทก์ก็ไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านประการใด เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์ก็แถลงไม่สืบพยาน ดังนี้คดีไม่มีทางลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้อีก โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีการับฟ้องฐานลักทรัพย์อีกด้วย ข้อฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีตาม ป.วิ.อ. มาตรา 214, 15 และ ป.วิ.พ. มาตรา 242 (1) ต้องยกฎีกาโจทก์เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนขายฝาก - เพิกถอนนิติกรรม - จำเลยเพทุบาย - ศาลอนุญาตให้สืบพยานได้
ในกรณีทำสัญญาขายฝากต่อกันโจทก์ย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ว่า โจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนทรัพย์ก่อนพ้นกำหนดเวลา จำเลยเพทุบายหลีกเลี่ยงเบี่ยงบ่ายไม่ให้ไถ่ โจทก์จึงไม่ได้ไถ่ ดังนี้ โจทก์ย่อมนำสืบได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับเงินตามจำนวนที่ทำสัญญาขายฝากกันและโอนทรัพย์ที่ขายฝากคืนให้โจทก์นั้น ย่อมเป็นการขอให้ยกเลิกเพิกถอนนิติกรรมขายฝากอยู่ในตัวแล้ว โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องขอให้ทำลายสัญญาขายฝากก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับเงินตามจำนวนที่ทำสัญญาขายฝากกันและโอนทรัพย์ที่ขายฝากคืนให้โจทก์นั้น ย่อมเป็นการขอให้ยกเลิกเพิกถอนนิติกรรมขายฝากอยู่ในตัวแล้ว โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องขอให้ทำลายสัญญาขายฝากก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานที่ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาคดี ศาลต้องให้สืบพยานในประเด็นที่ยังโต้เถียงกันอยู่
คดีที่มีหลายประเด็นศาลสั่งงดสืบพยานในประเด็นข้อใด โดยคู่ความไม่ได้แถลงติดใจสืบพยานเองศาลจะวินิจฉัยให้เป็นโทษแก่คู่ความฝ่ายใดว่าไม่นำพยานสืบหรือยกเอาคำพยานที่ได้สืบในประเด็นข้ออื่นมาวินิจฉัยในประเด็นที่สั่งให้งดสืบพยานด้วยนั้นหาชอบด้วยวิธีพิจารณาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานต่างประเด็น และอำนาจศาลในการไม่อนุญาตเลื่อนคดี
เหตุที่กฎหมายบัญญัติให้ฝ่ายที่นำสืบภายหลังถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนเพื่อที่ตนจะนำพยานสืบหักล้างหรือเพื่อพิสูจน์ไว้เสียก่อนนั้น ก็เพื่อให้พยานของฝ่ายที่ต้องนำสืบก่อนมีโอกาศอธิบายถึงข้อความเหล่านั้น แต่ถ้าพยานของแต่ละฝ่ายต่างอ้างว่าอยู่คนละแห่ง คนละฐานที่ รู้เห็นเหตุการณ์คนละอย่าง ต่างประเด็นกัน เช่นนี้ ฝ่ายที่นำสืบภายหลังก็ไม่ต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนดังกล่าวข้างต้น
การขอเลื่อนคดี แม้อีกฝ่ายไม่คัดค้าน แต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นพอที่จะเลื่อนคดี จะไม่อนุญาตให้เลื่อนก็ได้
ทนายโจทก์ลงชื่อรับรองในคำร้องที่ขอเลื่อนว่า "รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" เช่นนี้ ถือได้ว่าทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาติให้เลื่อนคดีในวันที่ศาลสั่งนั้น
การขอเลื่อนคดี แม้อีกฝ่ายไม่คัดค้าน แต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นพอที่จะเลื่อนคดี จะไม่อนุญาตให้เลื่อนก็ได้
ทนายโจทก์ลงชื่อรับรองในคำร้องที่ขอเลื่อนว่า "รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" เช่นนี้ ถือได้ว่าทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาติให้เลื่อนคดีในวันที่ศาลสั่งนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางสัญญาเช่า: ศาลอนุญาตให้จำเลยสืบพยานเพื่อพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงของสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญาขายฝากที่ดิน แล้วจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินนั้นในวันเดียวกัน ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดไถ่คืนแล้ว โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าที่ดิน จำเลยต่อสู้ว่า ความจริงเป็นเรื่องกู้เงินโดยเอาที่ดินเป็นประกัน ส่วนการเช่าที่ดินนั้นเป็นการเลี่ยงกฎหมาย เผื่อถ้าจำเลยไถ่ที่ดินจะได้คิดแทนดอกเบี้ยซึ่งเกินกว่าอัตราในกฎหมาย คดีนี้จำเลยไม่ได้ไถ่ที่ดินคืน และจำเลยไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่เช่าที่ดินที่เช่าเป็นที่ว่างเปล่าไม่ควรมีค่าเช่าถึงอัตราที่กำหนดเป็นค่าเช่ากันไว้ เช่นนี้ เท่ากับจำเลยต่อสู้ว่า สัญญาเช่าไม่สมบูรณ์ เพราะมิได้มีเจตนาที่จะให้ผูกพันด้วยการเช่ากันจริง ๆ จำเลยมีสิทธิที่จะนำพยานมาสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการตัดสิทธิการสืบพยานจำเลย ศาลพิจารณาคำร้องขอพิจารณาใหม่โดยการสอบถามได้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ก่อนวันนัดสืบพยานจำเลย ๆ ยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลสั่งให้มาพูดกันวันนัด ครั้นถึงวันนัด ่จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลสั่งยกคำร้องและถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้น เป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้ง ๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัด จะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้น เป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้ง ๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัด จะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้