คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หมิ่นประมาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 856 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องหมิ่นประมาทในคดีหย่า: ไม่ต้องระบุถ้อยคำโดยละเอียดเหมือนคดีอาญา
คำฟ้องซึ่งกล่าวอ้างถึงการหมิ่นประมาท อันเป็นเหตุหย่าตามกฎหมายแพ่งนั้น ไม่เหมือนฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ก.ม.ลักษณะอาญาซึ่งมี ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) วรรค 2 บัญญัติไว้เป็นพิเศษว่า ในคดีหมิ่นประมาทถ้อยคำพูดให้กล่าวไว้โดยบริบูรณ์ฉะนั้น เมื่อฟ้องของโจทก์บรรยายว่า "จำเลยได้บังอาจกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทด่าถึงโคตรวงษ์บิดามารดาโจทก์อย่างร้ายแรงต่าง ๆ นาๆ " จึงเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา และกรณีข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 172 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายคำฟ้องหมิ่นประมาทในคดีหย่า: ข้อแตกต่างจากคดีอาญา
คำฟ้องซึ่งกล่าวอ้างถึงการหมิ่นประมาท อันเป็นเหตุหย่าตามกฎหมายแพ่งนั้น ไม่เหมือนฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทตามกฎหมายลักษณะอาญา ซึ่งมีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) วรรคสองบัญญัติไว้เป็นพิเศษว่า ในคดีหมิ่นประมาท ถ้อยคำพูดให้กล่าวไว้โดยบริบูรณ์ ฉะนั้นเมื่อฟ้องของโจทก์บรรยายว่า "จำเลยได้บังอาจกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทด่าถึงโคตรวงศ์บิดามารดาโจทก์อย่างร้ายแรงต่างๆ นาๆ " จึงเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและกรณีข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างทนายในศาล ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท
โจทก์เป็นนายกเทศมนตรีและเป็นทนายฝ่ายโจทก์ในคดีเรื่องหนึ่ง จำเลยเป็นทนายฝ่ายจำเลยในคดีนั้น ในระหว่างสืบพะยานจำเลยได้กล่าวว่า "ถามพะยานอย่างโง่ ถามอย่างนั้นไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นอะไร เป็นเทศมนตรีไม่เห็นดีอะไร" ดังนี้ เป็นถ้อยคำต่ำช้าอันสามัญชนไม่พึงกล่าว แต่ยังไม่ถึงขั้นใส่ความ หรือเป็นถ้อยคำหมิ่นประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างทนายในศาล ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท
โจทก์เป็นนายกเทศมนตรีและเป็นทนายฝ่ายโจทก์ในคดีเรื่องหนึ่ง จำเลยเป็นทนายฝ่ายจำเลยในคดีนั้นในระหว่างสืบพยานจำเลยได้กล่าวว่า"ถามพยานอย่างโง่ ถามอย่างนั้นไม่ได้ไม่เกี่ยวกับประเด็นอะไร เป็นเทศมนตรีไม่เห็นดีอะไร" ดังนี้ เป็นถ้อยคำต่ำช้าอันสามัญชนไม่พึงกล่าว แต่ยังไม่ถึงขั้นใส่ความ หรือเป็นถ้อยคำหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อหน้าสาธารณชน
กล่าววาจาว่า ผู้เสียหายต่อหน้าประชาชนว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเป็นสุนักข์ลิง เอาสุนักข์ขึ้นนั่งแท่นหางงอกแล้ว ดังนี้เป็นผิดฐานโฆษณาหมิ่นประมาทตามมาตรา 339 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อหน้าประชาชน ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
กล่าววาจาว่า ผู้เสียหายต่อหน้าประชาชน ว่าผู้เสียหายเป็นนายกเทศมนตรีเป็นสุนัข ลิงเอาสุนัขขึ้นนั่งแท่นหางงอกแล้ว ดังนี้เป็นผิดฐานโฆษณาหมิ่นประมาทตามมาตรา 339(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตและมีเหตุผลสมควรเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับผิดในคดีหมิ่นประมาท แม้ข้อเท็จจริงบางส่วนผิดพลาด
จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจและมีเหตุผลสมควรว่าโจทก์หมิ่นประมาทจำเลย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน จึงแจ้งต่อนายอำเภอจนโจทก์ถูกจับกุมฟ้องร้องนั้น แม้ภายหลัง ศาลจะชี้ขาดว่าถ้อยคำของโจทก์ไม่ถึงเป็นหมิ่นประมาทก็ดีหรือปรากฎว่า จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานเพราะผู้ตั้งไม่มีอำนาจตั้งก็ดี ก็ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตและมีเหตุผลสมควรเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับผิดในความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจและมีเหตุผลสมควรว่าโจทก์หมิ่นประมาทจำเลย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน จึงแจ้งต่อนายอำเภอจนโจทก์ถูกจับกุมฟ้องร้องนั้นแม้ภายหลัง ศาลจะชี้ขาดว่าถ้อยคำของโจทก์ไม่ถึงเป็นหมิ่นประมาทก็ดีหรือปรากฏว่า จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานเพราะผู้ตั้งไม่มีอำนาจตั้งก็ดีก็ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทต้องเจาะจงตัวบุคคลชัดเจน การกล่าวถึงพรรคการเมืองรวมไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามกฏหมายนั้นถ้อยคำที่กล่าวจะต้องมุ่งเจาะจงตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยฉะเพาะ
กล่าวความว่า คำโฆษณาของพวกและพรรคประชาธิปัตย์เป็นการหลอกลวงราษฎรให้หลงเชื่อ ดังนี้ แม้โจทก์จะแสดงได้ว่า โจทก์เป็นพรรคประชาธิปัตย์ด้วยคนหนึ่ง ก็ไม่ถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาทเพราะถ้อยคำนั้นมิได้มุ่งหมายถึงโจทก์โดยเฉพาะ
ฟ้องรัฐมนตรีหาว่าใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ทางทุจจริตและผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งโดยออกคำสั่งกล่าวถึงการกระทำของคณะประชาธิปัตย์บางคนกระทำการไม่ชอบต่างๆ แต่มิได้เจาะจงตัวผู้ใดนั้น ไม่ถือว่าเป็นการเจาะจงตัวบุคคลหนึ่งบุคคลใดในคณะประชาธิปัตย์ ฉนั้นคนหนึ่งคนใดในคณะนั้น จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทต้องเจาะจงตัวบุคคล คำกล่าวทั่วไปถึงพรรคการเมืองไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทต่อสมาชิก
การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามกฎหมายนั้นถ้อยคำที่กล่าวจะต้องมุ่งเจาะจงตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
กล่าวความว่า คำโฆษณาของพวกและพรรคประชาธิปัตย์เป็นการหลอกลวงราษฎรให้หลงเชื่อ ดังนี้ แม้โจทก์จะแสดงได้ว่าโจทก์เป็นพรรคประชาธิปัตย์ด้วยคนหนึ่ง ก็ไม่ถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาทเพราะถ้อยคำนั้นมิได้มุ่งหมายถึงโจทก์โดยเฉพาะ
ฟ้องรัฐมนตรีหาว่าใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ทางทุจริตและผิดพระราชบัญญัติการเลือกตั้งโดยออกคำสั่งกล่าวถึงการกระทำของคณะประชาธิปัตย์บางคนกระทำการไม่ชอบต่างๆ แต่มิได้เจาะจงตัวผู้ใดนั้นไม่ถือว่าเป็นการเจาะจงตัวบุคคลหนึ่งบุคคลใดในคณะประชาธิปัตย์ ฉะนั้นคนหนึ่งคนใดในคณะนั้น จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง
of 86