คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อาวุธปืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นโทษ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กรณีมอบอาวุธปืนภายในเก้าสิบวัน แม้ไม่ยกขึ้นโต้แย้ง ศาลฎีกายกประโยชน์ให้ได้
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 6ยกเว้นโทษให้แก่ผู้ที่นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปมอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเก้าสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เมื่อปรากฏว่าขณะเจ้าพนักงานยึดอาวุธปืนและกระสุนปืนไปจากจำเลยนั้นยังอยู่ในระยะเวลาเก้าสิบวันดังกล่าว จำเลยย่อมได้รับยกเว้นโทษ และแม้ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยใน ข้อหามีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตและจำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อหานี้ก็ตามศาลฎีกาก็หยิบยกพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยได้เพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าจากใช้อาวุธปืน แม้กระสุนขัดลำกล้อง แต่มีเจตนาและเหตุการณ์อันตราย
จำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบโอโตเมติคบรรจุกระสุนปืน 2 นัดยิงเจ้าพนักงานตำรวจในระยะห่าง 1 เมตร แต่กระสุนปืนขัดลำกล้องจึงไม่ลั่น ปืนของกลางนี้เป็นปืนที่ใช้ยิงได้ไม่ชำรุด กระสุนปืนตั้ง 2 นัด ก็ใช้ยิงได้ ปืนและกระสุนปืนของกลางใช้ยิงด้วยกันได้ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 80,(ตามนัยฎีกาที่ 771/2513,147/2504 และ 980/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานป้องกันการถูกประทุษร้ายด้วยอาวุธปืน
ผู้ตายกับพวกเข้าไปในเขตรั้วบ้านของจำเลยในเวลาวิกาลในลักษณะที่จะลักทรัพย์ เมื่อภรรยาจำเลยฉายไฟไปเห็นผู้ตายก็ยกปืนจ้องไปทางภรรยาจำเลยเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง จำเลยย่อมมีสิทธิกระทำเพื่อป้องกันได้ และการที่จำเลยหยิบขวานด้ามไม้ยาวประมาณ 1 แขน ใบขวานเป็นเหล็กมีคม กว้าง 3 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว มาจากข้างฝาในขณะนั้นเองโดยมิได้เตรียมมาก่อน เหวี่ยงฟันผู้ตายไป 4 ทีติด ๆ กัน ในเวลาฉุกละหุกที่จำเลยไม่อาจคาดคิดได้ว่าจะต้องฟันหรือเหวี่ยงไปกี่ทีจึงจะพอยับยั้งผู้ตายมิให้ใช้อาวุธปืนยิงได้ จึงเป็นการกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นโทษอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 แม้ไม่นำปืนขึ้นทะเบียนหลังหมดกำหนด
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่เห็นว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 6 บัญญัติว่าถ้าผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่อาจขออนุญาตได้ตามกฎหมาย นำปืนมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ต่อมาโจทก์จะฎีกาว่าในขณะที่ศาลฎีกากำลังพิจารณาคดีนี้อยู่ ได้เลยกำหนดให้นำอาวุธปืนไปขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตแล้ว และจำเลยก็มิได้นำไปขึ้นทะเบียนภายในกำหนด จึงต้องมีความผิดฐานนี้อยู่ดังนี้ ฟังไม่ขึ้นเพราะเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาถูกต้องตามบทกฎหมายที่มีอยู่ในเวลาพิพากษาคดีแล้ว แม้จำเลยจะมิได้นำปืนไปขอรับใบอนุญาตภายใน 90 วัน ก็ไม่ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปศาลฎีกาไม่มีเหตุที่จะต้องแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นโทษอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 แม้ไม่นำปืนขึ้นทะเบียนภายใน 90 วัน ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่เห็นว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 6 บัญญัติว่า ถ้าผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่อาจขออนุญาตได้ตามกฎหมาย นำปืนมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ต่อมาโจทก์จะฎีกาว่าในขณะที่ศาลฎีกากำลังพิจารณาคดีนี้อยู่ได้เลยกำหนดให้นำอาวุธปืนไปขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตแล้วและจำเลยก็มิได้นำไปขึ้นทะเบียนภายในกำหนด จึงต้องมีความผิดฐานนี้อยู่ ดังนี้ ฟังไม่ขึ้นเพราะเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาถูกต้องตามบทกฎหมายที่มีอยู่ในเวลาพิพากษาคดีแล้ว แม้จำเลยจะมิได้นำปืนไปขอรับใบอนุญาตภายใน 90 วัน ก็ไม่ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปศาลฎีกาไม่มีเหตุที่จะต้องแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพยายามฆ่าด้วยอาวุธปืนที่บรรจุกระสุนไม่เต็มช่อง แม้กระสุนไม่ลั่น แต่ยังถือเป็นความพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนพกลูกโม่ชนิดทำเองยิงผู้เสียหาย ปืนนี้ใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตได้มีช่องบรรจุกระสุน 7 ช่อง แต่ จำเลยบรรจุไว้เพียง 4 ช่อง ช่องที่ตรงกับเข็มแทงชนวนอาจเป็นช่องว่าง เมื่อจำเลยสับนกลงไปจึงมีเสียงดังเพียะเท่านั้น กระสุนปืนไม่ลั่นและปืนนี้เวลายิงต้องใช้มือหมุนลูกโม่ จำเลยยิงซ้ำโดยไม่ได้หมุนลูกโม่ให้ช่องที่บรรจุกระสุนตรงกับเข็มแทงชนวนอาจเป็นเพราะความรีบร้อนหรือตกตะลึง ถ้าจำเลยได้บรรจุกระสุนไว้ในช่องที่ตรงกับเข็มแทงชนวนเมื่อยิงครั้งแรก หรือหมุนลูกโม่ให้เข็มแทงชนวนตรงกับช่องที่บรรจุกระสุนเมื่อยิงซ้ำ กระสุนปืนจะต้องลั่น และผู้เสียหายก็น่าจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายได้ ต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทจากการยึดปืน-ความผิดพ.ร.บ.อาวุธปืน: จำเลยไม่ประมาท ปืนลั่นจากความเสี่ยงของผูปฏิบัติ
จำเลยเมาสุราอยู่ร้านขายสุรา ผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนบอกให้จำเลยกลับบ้าน จำเลยว่าไม่เมา จะกลับเองแต่ลุกไม่ขึ้น ผู้เสียหายจึงพยุงให้จำเลยลุกขึ้นและผู้เสียหายว่าจำเลยพกปืนอยู่จึงบอกจำเลยว่าขอปืนมาเก็บ จำเลยจะชักปืนออมาให้ แต่ผู้เสียหายกลับไปกดมือจำเลยไว้ไม่ให้จำเลยดึงออกมา ปืนของจำเลยอยู่สภาพที่ลั่นได้ง่ายถ้าใช้ไม่เป็น การปลดปืนออกจากซองต้องใช้นิ้วสอดเข้าไปที่โกร่งไกปืน กดสปริงพร้อมกับดึงปืนขึ้น การที่ผู้เสียหายเสี่ยงภัยกดมือจำเลยไว้ไม่ยอมให้จำเลยดึงปืนออกมาแล้วปืนเกิดลั่นขึ้นถูกขาผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัสนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทขาดความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์
จำเลยได้ซื้ออาวุธปืนตามแบบ ป.3 แล้ว แต่มิได้นำปืนไปจดทะเบียนรับใบอนุญาต ป.4 ภายในกำหนดเวลา จำเลยจึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่ไม่มีเครื่องหมายของพนักงานประทับไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาวุธปืนต้องถูกริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2279/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ใบอนุญาตอาวุธปืนครอบคลุมถึงเครื่องกระสุนปืน การมีกระสุนปืนไม่ผิดหากมีใบอนุญาตปืน
จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนสั้นขนาด 11 มม.ไว้แล้ว จำเลยย่อมมีกระสุนปืนขนาด 11 มม. เพื่อใช้กับอาวุธปืนดังกล่าวได้โดยชอบ (แม้จะมีอยู่ถึง 1,000 นัด) เพราะการที่จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนนั้น เป็นการอนุญาตให้มีและใช้กระสุนปืนไปด้วยในตัว
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 875/2494 และ 615/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211-212/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษอาญาคดีใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น ศาลฎีกาพิจารณาความร้ายแรงของอาวุธและบาดแผล
จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งมีลูกกระสุนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 มิลลิเมตร ยิงนาย ค. ในระยะ 3 วา มีรอยกระสุนปืน 4 แห่ง ๆ ละ 1 แผลคือที่แขนซ้าย ก้นกบ ข้างตะโพกซ้าย และที่ขาขวา จากการถ่ายภาพรังษีพบมีกระสุนปืนในเนื้อเยื่อแห่งละ 1 นัด รักษาตัวในโรงพยาบาล 4 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนจะหายใน 14 วัน และจำเลยได้ยิงนาย ส. มีรอยกระสุนหลายรอยที่บริเวณตะโพกซ้าย บริเวณรอบแผลบวมและช้ำ รักษาตัวในโรงพยาบาล 7 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนจะหายใน 20 วัน และได้ความจากแพทย์ว่าถ้าผู้เสียหายทั้งสองไม่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันทีและมีโลหิตออกมากเกินควรอาจถึงแก่ชีวิตได้แสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงมีประสิทธิภาพร้ายแรง อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ แม้จะถูกอวัยวะในที่ซึ่งไม่สำคัญ กรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนเถื่อนและพกพาในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร เป็นความผิดหลายกรรม
การมีปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของนายทะเบียนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และยังได้พกปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนนั้นไปในทางสาธารณะในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร ย่อมเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 เป็นสองกรรมต่างกันหาใช่กรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทไม่
of 103