คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อตกลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2952/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีสินสมรสหลังแก้ไขกฎหมาย และฟ้องซ้อนจากประเด็นข้อตกลงทางเดิน
หญิงมีสามีฟ้องคดีภายหลังที่บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่แก้ไขใหม่มีผลใช้บังคับแล้วอำนาจจัดการสินสมรสต้องใช้บทบัญญัติในบรรพ 5 ใหม่บังคับซึ่งมาตรา 1476 ได้บัญญัติให้สามีและภรรยาเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกัน
โจทก์เป็นหญิงมีสามีได้ยื่นฟ้องคดีเกี่ยวกับการจัดการสินสมรสโดยลำพังแต่ปรากฏในสำนวนว่าสามีโจทก์มาเบิกความเป็นพยานต่อศาลว่า "ได้ให้ความยินยอมแก่โจทก์ในการฟ้องคดีนี้ตามกฎหมายแล้วตลอดมา" จึงถือได้ว่าสามีโจทก์อนุญาตหรือยินยอมให้โจทก์ฟ้องคดีโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือในสำนวนความแล้วและถือได้ว่าเป็นการแก้ไขในเรื่องความสามารถของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 แล้วด้วยโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 1 เคยฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลย ขอให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายโดยรื้อถอนสิ่งปิดกั้นทางเดินทางเดียวกันกับคดีนี้ขณะที่คดีดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นจำเลยที่ 1 ที่ 2 ก็นำเรื่องเดียวกันนั้นมาฟ้องแย้งในคดีนี้อีกแม้คดีก่อนจำเลยที่ 2 จะมิได้ร่วมเป็นโจทก์ด้วยแต่จำเลยที่ 2 ก็อยู่ในฐานะที่จะได้รับประโยชน์หรือโทษจากผลแห่งคำพิพากษาในคดีก่อนเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และการที่ฟ้องแย้งมีคำขอบังคับให้จดทะเบียนทางเดินเป็นทางภารจำยอมอันเป็นคำขอให้บังคับเพิ่มเติมจากคดีก่อนประเด็นที่พิพาทกันในคดีก่อนกับที่จำเลยฟ้องแย้งก็คงมีอยู่อย่างเดียวกันฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองจึงเป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ การส่งมอบ/ชำระราคาก่อนทำสัญญาไม่ถือเป็นข้อตกลงซื้อขายที่สมบูรณ์
โจทก์จำเลยเจรจาซื้อขายกระดาษโดยตกลงกันว่าจะต้องมีการทำสัญญาซื้อขาย โจทก์พิมพ์สัญญาหมาย จ.56 มาให้จำเลยลงนาม แต่จำเลยขอแก้รายละเอียดเป็นสัญญาหมาย จ.57 สัญญาตัวจริงจึงเป็นสัญญาหมาย จ.57 สัญญาหมาย จ.56 ซึ่งโจทก์นำมาฟ้องเป็นเพียงร่างที่จำเลยไม่ได้ลงนามเป็นคู่สัญญา จึงถือว่าไม่มีการทำสัญญาหมาย จ.56 ที่โจทก์อ้างมาเป็นหลักแห่งข้อหา โจทก์จะกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาที่นำมาฟ้องนั้นไม่ได้
แม้กฎหมายจะกำหนดวิธีการซื้อขายไว้หลายอย่างก็ตามเมื่อคู่สัญญาตกลงจะทำกันโดยวิธีทำเป็นหนังสือสัญญา จะนำเอาวิธีอื่นเช่นการส่งมอบหรือชำระราคาบางส่วนมาวินิจฉัยว่าเป็นข้อตกลงจะซื้อขายกันแล้วโดยสมบูรณ์หาได้ไม่
(อ้างฎีกาที่ 1541/2509 และ 520/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินบำเหน็จกับการจ่ายค่าชดเชย: ข้อตกลงที่ขัดต่อกฎหมายแรงงาน
จำเลยมีข้อบังคับให้จ่ายบำเหน็จเมื่อพนักงานมีอายุงานครบ5 ปี หรือกว่านั้นแต่ค่าชดเชยนั้นลูกจ้างประจำซึ่งทำงานติดต่อกันครบหนึ่งร้อยยี่สิบวันก็มีสิทธิได้รับแล้ว การคำนวณบำเหน็จก็อาศัยค่าจ้างสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปีของอายุงานและตัวประกอบอื่นอีก และ ยังจ่ายให้ในกรณีลาออกและถึงแก่กรรมอีกด้วย เงินบำเหน็จจึงมีลักษณะเป็นการสงเคราะห์ตอบแทนการที่ลูกจ้างทำงานด้วยดีจนออกจากงานหรือถึงแก่กรรมถือได้ว่าเป็นเงินประเภทอื่นซึ่งนายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง มิใช่ค่าชดเชย ดังนั้น การที่นายจ้างกับลูกจ้างตกลงกันให้เงินบำเหน็จนี้เป็นค่าชดเชย จึงเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อตกลงนั้นจึงไม่มีผลผูกพันลูกจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2113/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงปรับเงินเดือนตามมติรัฐบาล: ไม่ผูกพันตามจำนวนที่รัฐบาลกำหนด
บันทึกข้อตกลงระหว่างผู้แทนนายจ้างกับผู้แทนลูกจ้างมีความว่า การที่พนักงานขอให้ปรับเงินเดือนขึ้นอีก 20เปอร์เซ็นต์ นั้น เรื่องนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาให้แก่ข้าราชการอยู่ และในการนี้ก็จะพิจารณาปรับปรุงให้แก่รัฐวิสาหกิจเช่นเดียวกัน ซึ่งรวมทั้งบริษัทของนายจ้างด้วย และจะมีผลใช้บังคับในระยะเวลาพร้อมกัน ข้อตกลงดังนี้หมายความเพียงแต่ว่ารัฐบาลซึ่งเป็นนายจ้างจะปรับปรุงเงินเดือนให้เพียงใดนั้น ไม่มีการระบุไว้แน่ชัดเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะพิจารณา จะถือว่าบริษัทนายจ้างได้ตกลงรับเป็นข้อผูกพันว่า เมื่อรัฐบาลปรับปรุงเงินเดือนให้แก่ข้าราชการแล้ว จะปรับปรุงเงินเดือนให้ลูกจ้างขึ้นจากเดิม 20 เปอร์เซ็นต์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1841/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความเช็ค - การลงวันที่เช็คโดยสุจริตตามข้อตกลง - การถอนฟ้องจำเลยที่ 5 ไม่เป็นการปลดหนี้
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2519 จำเลยที่ 1 ออกเช็คโดยไม่ลงวันที่แล้วนำไปขายให้โจทก์โดยขอเวลาไว้ 3 ปี จึงให้โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินระหว่างนี้จำเลยที่ 1 ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ตลอดมาจนถึงเดือนตุลาคม2520 จึงหยุดชำระ โจทก์จึงลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2520 ในเช็คแล้วเก็บรอไว้จนครบ 3 ปี จึงนำเช็คไปเรียกเก็บเงินเมื่อวันที่ 3มกราคม 2521 การที่โจทก์ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2520 ในเช็คจึงเป็นการกระทำโดยสุจริตตามข้อตกลง และเป็นกรณีจำเลยที่ 1ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
โจทก์ยื่นคำบอกกล่าวขอถอนฟ้องว่า "จำเลยที่ 5 ถึงแก่กรรมเสียแล้วโจทก์จึงขอถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 5" ดังนี้ หาใช่เป็นการแสดงความประสงค์ปลดหนี้ให้จำเลยที่ 5 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินโดยปราศจากข้อตกลงพิเศษ และสิทธิในการขับไล่เมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ
จำเลยให้การรับว่าโอนทรัพย์พิพาทยกให้โจทก์ แต่มิได้ต่อสู้ว่าการแสดงเจตนาของจำเลยมิใช่เจตนาอันแท้จริงนิติกรรมย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิเรียกทรัพย์พิพาทคืนจากโจทก์ คดีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์เพื่อตีใช้หนี้หรือให้โดยเสน่หา เพราะถึงแม้จะวินิจฉัยเป็นประการใด กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทก็ไม่มีทางกลับคืนมาเป็นของจำเลยได้
ตามหนังสือสัญญาให้ที่ดินพิพาทไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงว่าโจทก์จะต้องโอนทรัพย์พิพาทบางส่วนให้แก่บุตรจำเลยเมื่อเติบโตพอสมควร และโจทก์จะต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรจำเลยด้วยดังที่จำเลยกล่าวอ้างแต่อย่างใด ในกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงเช่นนี้ จำเลยจะนำสืบพยานบุคคลเพิ่มเติม ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้นหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คดีนี้พิพาทกันระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยเฉพาะ เมื่อทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้ หากบุตรของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมีสิทธิเรียกให้โจทก์ชำระหนี้ประการใด ก็ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวเป็นคดีต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดหนี้โดยผู้แทนโดยชอบธรรมต้องได้รับความยินยอมจากผู้รับประโยชน์ มิฉะนั้นข้อตกลงไม่ผูกพัน
โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 + ตามคำพิพากษาให้แก่จำเลย โดยโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ไม่ได้ยินยอมด้วย ดังนี้ ข้อตกลงดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 แม้โจทก์ที่ 1 จะฟ้องคดีแทนโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ซึ่งเป็นผู้เยาว์แต่คำแถลงต่อศาลเรื่องลดหนี้ให้จำเลยเป็นคำแถลงของโจทก์ที่ 1 โดยเฉพาะ ถือไม่ได้ว่าเป็นคำแถลงแทนโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ด้วย
เมื่อจำเลยยังชำระหนี้ตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ย่อมร้องขอให้บังคับคดีต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับผลการพิสูจน์ลายมือชื่อเป็นข้อตกลงแพ้ชนะคดี
โจทก์จำเลยท้ากันว่า ถ้าผลการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของบิดาจำเลยในเอกสารที่โจทก์ฟ้องเป็นลายมือชื่อบุคคลคนเดียวกันกับเอกสารที่จำเลยอ้างจำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่ใช่ โจทก์ยอมแพ้ การท้าเอาแพ้ชนะกันในผลแห่งการพิสูจน์ดังกล่าว ย่อมหมายถึงแพ้ชนะในผลแห่งคดีโดยสละประเด็นข้ออื่นอยู่ในตัว เมื่อผลการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน จำเลยก็ต้องแพ้คดีตามคำท้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2914-2915/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากผลงานไม่เป็นที่พอใจ และการปฏิบัติตามข้อตกลงสภาพการจ้าง
เมื่อข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีใจความว่า หากพนักงานที่บริษัทพิจารณาเห็นว่ามีผลงานประจำปีไม่เป็นที่พอใจพนักงานผู้นั้นจะไม่ได้รับการขึ้นเงินเดือนตามผลงานพนักงานจะได้รับการตักเตือนหรือบอกกล่าวถึงข้อบกพร่องของตนเพื่อให้มีโอกาสปรับปรุงแก้ไขตนเอง หากยอมปรับปรุงก็จะได้รับการพิจารณาขึ้นเงินเดือนในปีถัดไป ส่วนผู้ที่มีผลงานไม่เป็นที่พอใจอย่างยิ่งหรือมีผลงานไม่ดีติดต่อกันเป็นเวลานานอาจถูกปลดออกจากงานได้นั้น การที่ลูกจ้างมีผลงาน ไม่เป็นที่พอใจนายจ้าง ได้ถูกตักเตือนถึงข้อบกพร่องหลายครั้งหลายหนตลอดมาเป็นเวลาถึง 5 ปี โดยนายจ้างได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นหนังสือแล้วหลายครั้ง หลังจากนั้นนายจ้างจึงได้ปลดลูกจ้างออกจากงาน ถือได้ว่าลูกจ้าง ฝ่าฝืนข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้าง โดยนายจ้างได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นหนังสือแล้วตามมาตรา 123(3) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงราคาขายทรัพย์สิน: จำเลยมีหน้าที่ส่งมอบเงินตามราคาที่ตกลงกัน แม้ราคาจะต่ำกว่าราคาตลาด
การที่ตัวแทนโจทก์ตกลงให้จำเลยจัดการขายสร้อยเพชรและแหวนเพชรโดยกำหนดราคาขายไว้ จำเลยมีหน้าที่จะต้องส่งเงินค่าขายให้โจทก์ตามราคาที่กำหนดโจทก์จะตีราคาปานกลางให้จำเลยชดใช้หาได้ไม่
of 118