พบผลลัพธ์ทั้งหมด 993 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: ต้องมีลักษณะคล้ายคลึงจนสับสน
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเลียนหรือลอกเครื่องหมายการค้าของโจทก์นั้น เมื่อปรากฏว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่มีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับของโจทก์ อันจะทำให้เกิดสับสนหรือหลงผิดว่าสินค้าของจำเลยเป็นของโจทก์แล้ว ก็ไม่มีเหตุที่โจทก์จะอ้างว่าโจทก์มีสิทธิดีกว่าและไม่มีเหตุที่ศาลจะบังคับให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียน หรือห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยแต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องตั๋วเงิน: ผู้สลักหลังฟ้องเองต้องใช้ตามมาตรา 1003
คดีที่โจทก์ฟ้องในฐานะผู้สลักหลังตั๋วเงินไล่เบี้ยเอาจากจำเลยซึ่งเป็นผู้สลักหลังด้วยกันต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้สลักหลัง หาใช่ผู้ทรงเช็คในขณะนั้นไม่อายุความฟ้องร้องจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1003หาใช่ มาตรา 1002 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างว่าความไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ฟ้องร้องได้แม้ไม่มีเอกสาร
สัญญาจ้างว่าความ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือก็ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเพื่อรักษาอายุความฟ้องร้องคดีเช็ค และการมีเจตนาออกเช็คโดยไม่ให้ธนาคารจ่ายเงิน
ผู้เสียหายแจ้งความว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงินขอแจ้งความให้เจ้าพนักงานทราบไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงจะขาดอายุความ เจ้าพนักงานตำรวจรับแจ้งความไว้ และเรียกจำเลยไปสอบถามบันทึกคำให้การ ต่อมาเรียกคู่กรณีไปเปรียบเทียบแต่ไม่ตกลงกัน ผู้เสียหายจึงฟ้องคดีต่อศาล ดังนี้ถือว่าคำแจ้งความนั้นเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2503 แต่แล้วถอนไป จึงไม่มีการลงมติ)
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องวัดในฐานะนิติบุคคลโดยมิได้ระบุผู้มีอำนาจลงนามสัญญา และการคิดดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
ในช่องคู่ความในฟ้องใส่ว่า วัดเป็นจำเลยที่ 1 ในคำบรรยายฟ้องมีความรวมๆ ว่าจำเลยจ้างเหมาโจทก์ โดยมิได้บรรยายว่าวัดซึ่งเป็นนิติบุคคลนั้นได้ทำสัญญาว่าจ้างโดยใครเป็นผู้แทน คำฟ้องเช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้ฟ้องวัดในสภาพนิติบุคคลให้มีความรับผิดตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ด้วยและวัดก็มิได้โต้แย้งว่าวัดมิได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์จึงไม่มีประเด็นว่าวัดไม่ต้องรับผิด เพราะมิได้เป็นคู่สัญญาแต่ประการใด
ฟ้องเรียกเงินและดอกเบี้ยตั้งแต่ผิดนัด เมื่อทางพิจารณาไม่ปรากฏวันผิดนัด ศาลตัดสินให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
ฟ้องเรียกเงินและดอกเบี้ยตั้งแต่ผิดนัด เมื่อทางพิจารณาไม่ปรากฏวันผิดนัด ศาลตัดสินให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับคดี: การฟ้องร้องตามสัญญา แม้มีคดีก่อน
คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ (คือจำเลยในคดีก่อน)ชำระเงิน 3 ล้านบาทเศษแก่จำเลย (คือโจทก์ในคดีก่อน) คดีอยู่ในระหว่าง อุทธรณ์ โจทก์ จำเลย ทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นหนังสือกันนอกศาลว่าจำเลยยอมรับเงินจากโจทก์เพียง 7 แสนบาท แทนการเรียกให้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา และได้รับเงิน 7 แสนบาทไปแล้ว ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ไม่มีฝ่ายใดฎีกาจำเลย (ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก่อน)จะขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษานั้นหาได้ไม่
ในกรณีข้างต้น เมื่อโจทก์ในคดีก่อนขอให้ศาลออกคำบังคับคดีตามคำพิพากษา และจำเลยในคดีก่อนอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นออกคำบังคับโดยอ้างสัญญาประนีประนอมดังกล่าวก็ดี จำเลยในคดีก่อนก็มีสิทธิมายื่นฟ้องโจทก์ในคดีก่อนขอให้บังคับโจทก์ในคดีก่อนปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวอีกได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะคดีก่อนเป็นการโต้เถียงกันชั้นบังคับคดี คดีใหม่เป็นเรื่องฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
ในกรณีข้างต้น เมื่อโจทก์ในคดีก่อนขอให้ศาลออกคำบังคับคดีตามคำพิพากษา และจำเลยในคดีก่อนอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นออกคำบังคับโดยอ้างสัญญาประนีประนอมดังกล่าวก็ดี จำเลยในคดีก่อนก็มีสิทธิมายื่นฟ้องโจทก์ในคดีก่อนขอให้บังคับโจทก์ในคดีก่อนปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวอีกได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะคดีก่อนเป็นการโต้เถียงกันชั้นบังคับคดี คดีใหม่เป็นเรื่องฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความกับสิทธิรับบำนาญ: การฟ้องขอสถานะภรรยาไม่ขัดต่อสัญญา
โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นภริยาของขุนนิทเทศฯ โดยได้สมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ฝ่ายจำเลยก็อ้างว่าจำเลยเป็นภริยาขุนนิทเทสฯ โดยจดทะเบียนสมรส โจทก์มิใช่ภริยา หลังจากขุนนิทเทสฯ ตายแล้ว จำเลยร้องขอจัดการมรดก โจทก์คัดค้าน ในที่สุดโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งทรัพย์มรดกกัน เงินบำนาญตกทอดในภาคภรรยาตกลงกันให้ตกแก่โจทก์ ครั้นเมื่อโจทก์ขอรับเงินนี้ จำเลยก็ไปยื่นขอรับบำนาญตกทอดทั้งภาคภริยาและภาคบุตรอีก โดยแสดงทะเบียนสมรส กระทรวงการคลังจึงงดจ่ายเงินไว้จนกว่าศาลจะได้วินิจฉัยว่าใครเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน แม้ในสัญญาประนีประนอมจะมีว่าโจทก์จะไม่เรียกร้องทรัพย์สินสิทธิอย่างใดๆ จากกองมรดกของขุนนิทเทสฯ นอกจากที่ได้ตกลงกันแล้วนั้นอีก โจทก์ก็ยังมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิที่จะได้รับบำนาญตกทอดในภาพภรรยาแต่ผู้เดียวได้ เพราะไม่ใช่เป็นกรณีฟ้องเรียกทรัพย์สินกองมรดกหรือสิทธิในกองมรดกเพราะบำนาญตกทอดไม่ใช่เป็นมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในบำนาญตกทอดภาคภรรยา แม้มีสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว โจทก์ยังฟ้องยืนยันสิทธิได้ หากมิใช่การเรียกร้องจากกองมรดก
โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นภริยาของขุนนิทเทสสุขกิจ โดยได้สมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ฝ่ายจำเลยก็อ้างว่าจำเลยเป็นภริยาขุนนิทเทสฯโดยจดทะเบียนสมรส โจทก์มิใช่ภริยา หลังจากขุนนิทเทสฯตายแล้ว จำเลยร้องขอจัดการมรดก โจทก์คัดค้าน ในที่สุดโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งทรัพย์มรดกกัน เงินบำนาญตกทอดในภาคภรรยาตกลงกันให้ตกแก่โจทก์ครั้นเมื่อโจทก์ขอรับเงินนี้ จำเลยก็ไปยื่นขอรับบำนาญตกทอดทั้งภาคภริยาและภาคบุตรอีก โดยแสดงทะเบียนสมรส กระทรวงการคลังจึงงดจ่ายเงินไว้จนกว่าศาลจะได้วินิจฉัยว่าใครเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความจะมีว่าโจทก์จะไม่เรียกร้องทรัพย์สินสิทธิอย่างใดๆ จากกองมรดกของขุนนิเทสฯ นอกจากที่ได้ตกลงกันแล้วนั้นอีก โจทก์ก็ยังมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิที่จะได้รับบำนาญตกทอดในภาคภรรยาแต่ผู้เดียวได้ เพราะไม่ใช่เป็นกรณีฟ้องเรียกทรัพย์สินกองมรดกหรือสิทธิในกองมรดก เพราะบำนาญตกทอดไม่ใช่เป็นมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องคดีละเมิดและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอาญาที่ใช้บังคับ
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งขอให้จำเลยชดใช้เงินของโจทก์ที่จำเลยยักยอกเอาไปตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2494 อันเป็นมูลความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดและมีอายุความฟ้องร้อง 20 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78(1) แต่ต่อมากฎหมายลักษณะอาญาได้ถูกยกเลิก และมีประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับแทน มูลความผิดของจำเลย ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งใช้ในภายหลังและมีอัตราโทษก่อนแก้ไขเบากว่าอัตราโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131 อันเป็นกฎหมายซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยซึ่งมีอายุความฟ้องร้อง 15 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(2) อายุความฐานละเมิดในทางแพ่งจึงต้องถืออายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(2) ดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคสอง แม้จำเลยผู้ยักยอกจะยังมิได้ถูกฟ้องในคดีอาญาก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกคืนทรัพย์หรือราคา มิใช่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย อายุความไม่ผูกพันมาตรา 448
กรณีฟ้องเรียกให้จำเลยคืนทรัพย์ ถ้าคืนไม่ได้ก็ให้ใช้ราคานั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องเอาค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 จึงไม่ถืออายุความตามมาตรา 448 นั้น แม้โจทก์ฟ้องเกิน 1 ปี ก็ไม่ขาดอายุความ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2504)