คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สินสมรส

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 858 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแบ่งสินสมรส, ผลพินัยกรรม, ค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูบุตร และการหักค่าใช้จ่าย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 185 เป็นเรื่องของการขยายเวลาคือถ้าสิทธิเรียกร้องจะขาดอายุความสั้นกว่า 1 ปีก็ให้ขยายออกไป 1 ปี ส่วนที่กฎหมายกำหนดให้มีอายุความฟ้องร้องเกินกว่า 1 ปี ก็ต้องเป็นไปตามบทบัญญัตินั้น จะนำมาตรานี้มาใช้บังคับ โดยย่นเวลาให้สั้นเข้ามานั้นหาได้ไม่
โจทก์จำเลยหย่าขาดกันโดยคำพิพากษาของศาล โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์อันเป็นส่วนสินสมรส เป็นคดีฟ้องเรียกทรัพย์สิน มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
แม้บิดามารดาจะทำพินัยกรรมร่วมกันก็ดี แต่เมื่อบิดาตายก่อน พินัยกรรมก็มีผลบังคับเฉพาะส่วนของบิดาเท่านั้น
เงินผลประโยชน์อันเกิดจากสินสมรสนั้น จำเลยซึ่งถูกฟ้องขอแบ่งจะหักไว้ได้ก็เฉพาะค่ารักษาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน ส่วนเงินค่ากินอยู่ของจำเลยและบุตรโจทก์จำเลยนั้นเป็นคนละประเภท จำเลยไม่ได้ฟ้องแย้ง ก็หักให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแบ่งสินสมรสต้องระบุรายละเอียดสินเดิม หากไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสโดยกล่าวว่ามีสินเดิม แต่ไม่ได้ระบุว่ามีสินเดิมอะไรบ้างนั้น ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแบ่งสินสมรสต้องระบุสินเดิมชัดเจน หากไม่ระบุถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสโดยกล่าวว่ามีสินเดิม แต่ไม่ได้ระบุว่ามีสินเดิมอะไรบ้างนั้น ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
(อ้างฎีกาที่ 587/2487)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันสินบริคณห์หลังละทิ้งภรรยา: สิทธิในการบอกล้างสัญญาซื้อขายที่ดินสินสมรส
สามีขายฝากที่นาสินสมรสไว้หลังได้ละทิ้งภรรยา ๆ ไม่มีเงิน จึงต้องขายนานี้ขาดแก่ผู้รับ เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงบุตร+สัญญานี้จึงผูกพันธ์สินบริคนห์ตาม ป.พ.พ.ม.1480 - 1482 สามีจะบอกล้างมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันสินสมรสจากการขายฝากเพื่อเลี้ยงบุตร แม้สามีละทิ้งภรรยา
สามีขายฝากที่นาสินสมรสไว้ ภายหลังได้ละทิ้งภรรยา ภรรยาไม่มีเงิน จึงต้องขายนานี้ขาดแก่ผู้รับซื้อฝากเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงบุตร ดังนี้ สัญญาขายนี้จึงผูกพันสินบริคณห์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480-1482 สามีจะบอกล้างมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องสินสมรสของภริยาหลวงเมื่อภริยาอีกคนฟ้องแบ่งสินสมรสก่อน แม้จะเคยเบิกความคัดค้าน
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5ภริยาคนหนึ่งฟ้องเรียกเอาสินสมรสในภาคภริยาเสียทั้งหมดดังนี้ ภริยาอีกคนหนึ่งซึ่งมีส่วนได้อยู่ด้วย ย่อมมีสิทธิติดตามฟ้องเรียกเอาส่วนของตนจากภริยาคนที่ฟ้องนั้นได้ภายในกำหนดอายุความ แม้ในขณะที่ภริยาคนหนึ่งฟ้องเรียกสินสมรสในคดีเรื่องก่อนนั้น ภริยาคนนี้จะมิได้เข้าร่วมเป็นโจทก์ด้วย และกลับเข้าเบิกความเป็นปฏิปักษ์ต่อภริยาคนนั้น ในคดีเรื่องนั้นก็ดีก็จะถือว่าเป็นข้อปิดปากภริยาคนนี้ หรือจะถือว่าภริยาคนนี้มาฟ้องคดีโดยใช้สิทธิไม่สุจริตไม่ได้ เพราะการที่จะเข้าร่วมเป็นคู่ความในคดีก่อน เพื่อบังคับตามสิทธิของตนหรือไม่นั้นเป็นสิทธิของผู้มีส่วนได้เสีย จะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 มิใช่เป็นบทบังคับให้ต้องเข้าร่วมเป็นคู่ความด้วยเสมอไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานนอกประเด็นในคดีแบ่งสินสมรส: การขัดแย้งกับคำให้การเดิม
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสจากจำเลย ๆ ต่อสู้ว่าเป็นสินส่วนตัว หรือ สินเดิม เพราะได้มาก่อนเป็นภรรยาโจทก์ ครั้นถึงวันพิจารณา จำเลยแถลงว่าทรัพย์ที่อ้างว่าเป็นสินส่วนตัวหรือสินเดิมนั้น จำเลยได้มาภายหลัง เมื่อขาดจากเป็นสามีภรรยากับโจทก์แล้ว และจะขอสืบพยานตามที่แถลงไว้ ดังนี้เป็นเรื่องขัดกับข้อเท็จจริงที่จำเลยต่อสู้ไว้ จึงเป็นเรื่องขอสืบนอกประเด็น ศาลย่อมไม่ยอมให้สืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานนอกประเด็นในคดีแบ่งสินสมรส การเปลี่ยนแปลงคำให้การต้องทำตามขั้นตอน
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าเป็นสินส่วนตัวหรือสินเดิม เพราะได้มาก่อนเป็นภรรยาโจทก์ครั้นถึงวันพิจารณา จำเลยแถลงว่าทรัพย์ที่อ้างว่าเป็นสินส่วนตัวหรือสินเดิมนั้น จำเลยได้มาภายหลัง เมื่อขาดจากเป็นสามีภรรยากับโจทก์แล้วและจะขอสืบพยานตามที่แถลงไว้ดังนี้ เป็นเรื่องขัดกับข้อเท็จจริงที่จำเลยต่อสู้ไว้ จึงเป็นเรื่องขอสืบนอกประเด็น ศาลย่อมไม่ยอมให้สืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงปิดคดีหน้าศาลมีผลผูกพัน, การหย่า, และการสันนิษฐานเรื่องสินสมรส
วันนัดพิจารณาคู่ความโต้เถียง+ หน้าที่นำสืบแล้ว ต่างแถลง+ ว่าต่างฝ่ายไม่ติดใจสืบพยาน + ขอให้ศาลสินิจฉัยคดีตลอด + จะขอแถลงการ์ประกอบภายใน 7 วัน ถ้าถึงกำหนดไม่ + ขอให้ถือว่าไม่ติดใจแถลง+ ถือว่าคู่ความขอปิดคดีของตน+แล้ว ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแถลง+พยายในภายหลัง ศาลก็ไม่มี +ใดจะอนุญาตได้ + เลยรับว่าเป็นสามีภรรยากับ + แต่หย่ากันแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของจำเลย +สืบ ว่าหย่ากันแล้ว เมื่อจำเลย+ ก็ต้องถือตามคำฟ้องของโจทก์ว่า +จำเลยเป็นสามีภรรยากัน + เหตุที่โจทก์จะหย่าขาดจากจำเลยได้ + ไม่นั้น โจทก์มีหน้าที่นำสืบ แต่จำเลย +ได้หย่าขาดกับโจทก์ 5 ปี และจำเลยแต่งงานกับหญิงอื่น เป็นการกระทำอัน+ปฎิปักษ์ต่อโจทก์ และทอดทิ้งขาดการ+ต่อโจทก์ ถึง 5 ปี ทั้งจำเลย+ว่าได้หย่าขาดจากโจทก์แล้วดังนี้ +มีเหตุอันควรหย่าได้ตาม ป.พ.พ.+00(3)
ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ตนมีสินเดิมอีกฝ่าย+ไม่มี แต่ต่างฝ่ายก็ไม่สืบพยายตามข้ออ้าง ต้องถือว่าไม่มีสินเดิมทั้ง 2 ฝ่าย โจทก์ว่านาเป็นสินสมรส จำเลยว่าเป็น+ ของจำเลย โจทก์ว่าสวนยางเป็นสินสมรส
จำเลยไม่ให้การถึงเลย ดังนี้ต้องสันนิษฐานว่า นาและสวนยางเป็นสินสมรสตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา1466 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดคดีหน้าศาล การนำสืบหน้าที่ และการแบ่งสินสมรสเมื่อหย่า
ในวันนัดพิจารณาคู่ความโต้เถียงกันเรื่องหน้าที่นำสืบแล้วต่างแถลงต่อศาลว่าต่างฝ่ายไม่ติดใจสืบพยานด้วยกัน ขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตลอดถึงเรื่องจะขอแถลงการณ์ประกอบภายใน 7 วัน ถ้าถึงกำหนดไม่แถลงขอให้ถือว่าไม่ติดใจแถลงดังนี้ถือว่าคู่ความขอปิดคดีของตนเสร็จแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแถลงขอสืบพยานในภายหลัง ศาลก็ไม่มีเหตุอันใดจะอนุญาตได้
จำเลยรับว่าเป็นสามีภรรยากับโจทก์ แต่หย่ากันแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยจะนำสืบว่าหย่ากันแล้ว เมื่อจำเลยไม่นำสืบก็ต้องถือตามคำฟ้องของโจทก์ว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากัน
เหตุที่โจทก์จะหย่าขาดจากจำเลยได้หรือไม่นั้น โจทก์มีหน้าที่นำสืบ แต่จำเลยรับว่าได้หย่าขาดกับโจทก์ 5 ปี และจำเลยได้แต่งงานกับหญิงอื่นเป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อโจทก์ และทอดทิ้งขาดการอุปการะต่อโจทก์ ถึง 5 ปีทั้งจำเลยก็ถือว่าได้หย่าขาดจากโจทก์แล้วดังนี้ โจทก์มีเหตุอันควรหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์1500(3)
ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ตนมีสินเดิมอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่มีแต่ต่างฝ่ายก็ไม่สืบพยานตามข้อกล่าวอ้าง ต้องถือว่าไม่มีสินเดิมทั้ง 2 ฝ่ายโจทก์ว่านาเป็นสินสมรส จำเลยว่าเป็นสินเดิมของจำเลย โจทก์ว่าสวนยางเป็นสินสมรสจำเลยไม่ให้การถึงเลยดังนี้ ต้องสันนิษฐานว่า นาและสวนยางเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1466 วรรค 2
of 86