พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2669/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินบำเหน็จกับการจ่ายค่าชดเชย: ข้อตกลงไม่ขัดกฎหมาย แต่มีหลักเกณฑ์ต่างกัน
แม้ตามข้อ 46 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ซึ่งแก้ไขโดยประกาศฯ ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2521 จะมิได้ระบุ งานจ้างบางลักษณะที่นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชย อันเป็นข้อยกเว้น ดังที่เคยมีอยู่ก็ตาม ก็มิได้หมายความว่านายจ้างและลูกจ้างจะทำ สัญญาต่อกันเกี่ยวกับเงินค่าชดเชยไม่ได้เสียเลย ประกอบทั้งนายจ้าง ยังให้ประโยชน์แก่ลูกจ้างเพราะจ่ายให้มากกว่าเงินค่าชดเชยตาม กฎหมายเสียอีก ดังนี้ ข้อตกลงและระเบียบการจ่ายเงินบำเหน็จ พนักงานดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2613/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงรับผิดในหนี้สินของห้างหุ้นส่วน และขอบเขตความรับผิดของผู้ออกจากหุ้นส่วน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1068 ไม่ใช่เรื่องอายุความ แต่เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่ออกจากหุ้นส่วนให้รับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนพียงสองปีนับแต่เมื่อออกจากหุ้นส่วน บทบัญญัติดังกล่าวไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน คู่กรณีจึงอาจตกลงเป็นอย่างอื่นได้เมื่อจำเลยทำสัญญารับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนที่มีอยู่ก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนทั้งหมด ข้อตกลงดังกล่าวก็มีผลใช้บังคับได้
โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นลูกหนี้กรมสรรพากร การชำระหนี้ต้องชำระในนามของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้นำเงินส่วนตัวชำระหนี้แทนโจทก์ที่ 1 แล้วจำเลยจึงต้องรับชำระเงินตามจำนวนนั้นพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามสัญญา
โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นลูกหนี้กรมสรรพากร การชำระหนี้ต้องชำระในนามของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้นำเงินส่วนตัวชำระหนี้แทนโจทก์ที่ 1 แล้วจำเลยจึงต้องรับชำระเงินตามจำนวนนั้นพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2329-2330/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถ, การประนีประนอมยอมความมีเงื่อนเวลา, และผลของการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
จำเลยขับรถโดยใช้ความเร็วขณะฝนตกหนักและถนนลื่นจึงเสียหลักเข้าปะทะกับรถของโจทก์ซึ่งจอดคร่อมอยู่ในผิวจราจรถือได้ว่าเหตุเกิดขึ้นเพราะจำเลยขับรถโดยประมาท แม้จะฟังว่าโจทก์จอดรถอยู่ในผิวจราจร 90 เซนติเมตร แต่ถนนบริเวณนั้นผิวจราจรกว้างถึง 8 เมตร ยังเหลือผิวจราจรกว้างพอที่จำเลยจะขับรถผ่านไปได้โดยสะดวก จึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์มีส่วนประมาทด้วย
โจทก์และจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหายไว้ว่า จำเลยยินยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์ หากจำเลยชำระเงินภายในกำหนด โจทก์จะไม่เรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งต่อไป ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีเงื่อนเวลาสิ้นสุดกำหนดไว้ เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินภายในกำหนด ข้อตกลงย่อมสิ้นผลบังคับ มูลหนี้ละเมิดจึงไม่ระงับ และเมื่อจำเลยยกเรื่องข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นข้อต่อสู้ว่ามูลหนี้ละเมิดระงับ ศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าข้อตกลงตามเอกสารดังกล่าวมีผลให้มูลหนี้ละเมิดระงับหรือไม่ แม้โจทก์จะมิได้ยกประเด็นข้อนี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ก็ตาม
โจทก์และจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหายไว้ว่า จำเลยยินยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์ หากจำเลยชำระเงินภายในกำหนด โจทก์จะไม่เรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งต่อไป ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีเงื่อนเวลาสิ้นสุดกำหนดไว้ เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินภายในกำหนด ข้อตกลงย่อมสิ้นผลบังคับ มูลหนี้ละเมิดจึงไม่ระงับ และเมื่อจำเลยยกเรื่องข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นข้อต่อสู้ว่ามูลหนี้ละเมิดระงับ ศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าข้อตกลงตามเอกสารดังกล่าวมีผลให้มูลหนี้ละเมิดระงับหรือไม่ แม้โจทก์จะมิได้ยกประเด็นข้อนี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2060/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเลิกคดีโดยมีเงื่อนไข: การประกาศข้อความในหนังสือพิมพ์เป็นเงื่อนไขให้ถอนฟ้อง ไม่ใช่ข้อตกลงผูกพัน
คู่ความตกลงกันว่า ให้ฝ่ายจำเลยจัดการนำข้อความตามที่กำหนดไปประกาศลงในหนังสือพิมพ์ โจทก์แถลงว่า เมื่อจำเลยลงประกาศในหนังสือพิมพ์ครบกำหนดแล้ว โจทก์จะขอถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นออกคำสั่งให้จำเลยนำข้อความตามที่ตกลงกันไปประกาศหนังสือพิมพ์โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง แปลความหมายได้ว่า โจทก์ประสงค์จะเลิกคดีด้วยการถอนฟ้องโดยมีเงื่อนไขให้ฝ่ายจำเลยลงประกาศในหนังสือพิมพ์เสียก่อน การประกาศหนังสือพิมพ์เป็นเงื่อนไขในการถอนฟ้องเท่านั้น ไม่ใช่ลักษณะข้อตกลงโดยมิได้มีการถอนฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข โดยไม่ลงประกาศข้อความในหนังสือพิมพ์ ย่อมมีผลว่าโจทก์ไม่ผูกพันที่จะต้องถอนฟ้อง ซึ่งโจทก์ก็ไม่ถอนฟ้องเท่ากับว่าคู่ความเลิกคดีกันไม่ได้ ศาลชั้นต้นต้องทำการพิจารณาต่อไปเสมือนกับว่าไม่มีข้อตกลงใดๆ กันมาก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2060/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเลิกคดีโดยมีเงื่อนไข: การประกาศข้อความในหนังสือพิมพ์เป็นเงื่อนไขในการถอนฟ้อง ไม่ใช่ข้อตกลงให้เลิกคดี
คู่ความตกลงกันว่า ให้ฝ่ายจำเลยจัดการนำข้อความตามที่กำหนดไปประกาศลงในหนังสือพิมพ์ โจทก์แถลงว่า เมื่อจำเลยลงประกาศในหนังสือพิมพ์ครบกำหนดแล้ว โจทก์จะขอถอนฟ้องศาลชั้นต้นออกคำสั่งให้จำเลยนำข้อความตามที่ตกลงกันไปประกาศหนังสือพิมพ์โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง แปลความหมายได้ว่า โจทก์ประสงค์จะเลิกคดีด้วยการถอนฟ้องโดยมีเงื่อนไขให้ฝ่ายจำเลยลงประกาศในหนังสือพิมพ์เสียก่อน การประกาศหนังสือพิมพ์เป็นเงื่อนไขในการถอนฟ้องเท่านั้น ไม่ใช่ลักษณะข้อตกลงโดยมิได้มีการถอนฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข โดยไม่ลงประกาศข้อความในหนังสือพิมพ์ ย่อมมีผลว่าโจทก์ไม่ผูกพันที่จะต้องถอนฟ้อง ซึ่งโจทก์ก็ไม่ถอนฟ้องเท่ากับว่าคู่ความเลิกคดีกันไม่ได้ศาลชั้นต้นต้องทำการพิจารณาต่อไปเสมือนกับว่าไม่มีข้อตกลงใด ๆ กันมาก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรหลังหย่า: บังคับใช้ได้จนกว่าศาลจะสั่งเปลี่ยนแปลง
ข้อตกลงตามบันทึกหลังทะเบียนหย่าที่ว่า โจทก์รับหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรและธิดาทั้งสาม เป็นผู้ส่งเสียให้การศึกษาเอง โดยจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบส่งเสียเลี้ยงดูแต่อย่างใด ทั้งปัจจุบันและอนาคต เป็นอันบังคับได้จนกว่าศาลจะสั่งเปลี่ยนแปลง มิใช่เป็นเรื่องสละสิทธิที่จะได้ค่าอุปการะเลี้ยงดู ไม่ขัดต่อกฎหมายและไม่เป็นโมฆะ โจทก์จะมาฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาบุตรที่โจทก์ได้จ่ายไปหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงใหม่แทนการแบ่งมรดก: การสละสิทธิเรียกร้องเดิมเมื่อรับชำระหนี้เป็นอย่างอื่น
ที่พิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ทั้งสองคนละประมาณ7 ไร่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งจำเลยครอบครองอยู่ เมื่อโจทก์ไปขอแบ่งที่พิพาท โจทก์จำเลยได้ตกลงกันโดยจำเลยให้กระบือ 1 ตัว กับเงิน4,000 บาทแก่โจทก์แทน แต่จำเลยยังไม่มีเงินได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ โจทก์ทั้งสองยอมรับเอาเงินและกระบือแทนการขอแบ่งที่ดิน ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ทั้งสองได้สละสิทธิเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทแล้วโดยตกลงรับชำระหนี้เป็นเงินและกระบือแทน เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามโจทก์จะกลับมาฟ้องเรียกร้องขอแบ่งที่พิพาทให้ผิดไปจากข้อตกลงนั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินตามข้อตกลงก่อนการโอนสิทธิ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
จำเลยปลูกตึกของจำเลยตามข้อตกลงระหว่างจำเลยกับ ส. แม้จะมีส่วนรุกล้ำอยู่บ้าง ก็ไม่เป็นการทำละเมิดต่อ ส. เมื่อโจทก์รับโอนที่ดินของ ส. มาในสภาพที่มีการรุกล้ำอยู่ก่อนแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเกี่ยวกับการรุกล้ำนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงจดทะเบียนภารจำยอมมีผลผูกพัน แม้ยังมิได้จดทะเบียน เพราะเป็นการตกลงเพื่อให้ได้มาซึ่งภารจำยอม
การที่จำเลยตกลงจะจดทะเบียนภารจำยอมให้แก่โจทก์นั้นก็เป็นการตกลงเพื่อให้ได้มาซึ่งภารจำยอมนั่นเอง จำเลยจึงต้องผูกพันตามข้อตกลงนั้น และโจทก์สามารถบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามข้อตกลงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1498/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าพิสูจน์ทางรังวัดเป็นข้อยุติ ศาลต้องใช้ผลรังวัดตัดสินคดี แม้มีข้อสงสัยเรื่องเนื้อที่
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อถอนบ้านเรื่อนและสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การว่าที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนอยู่ ไม่ได้อยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ ดังฟ้อง คู่ความตกลงท้ากันให้เจ้าหน้าที่ดินสอบเขตโฉนดที่ดินของโจทก์ ถ้าปรากฏว่าเรือนที่จำเลยปลูกอยู่ ปลูกอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ดังกล่าว หรือแต่บางส่วน จำเลยยอมแพ้ ถ้าสอบแล้ว ปรากฏว่าเรือนที่จำเลยอยู่ไม่ได้ปลูกอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาล โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดสอบเขตของเจ้าพนักงานที่ดินเป็นข้อแพ้ชนะระหว่างกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการรับวัดส่งแผนที่มายังศาลปรากฏว่าเรือนที่จำเลยปลูกอยู่ปลูกอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ อันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้ว ศาลก็ต้องพิพากาาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยจะอ้างว่าเนื้อที่ดินที่เจ้าพนักงานรังวัดสอบเขตเกินไปจากเนื้อที่ในโฉนด 54 ตารางวา กรณีเป็นที่สงสัยว่าเรือนของจำเลยปลูกอยู่ในที่ดินส่วนที่เกินจะต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปหาได้ไม่ เพราะที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่เท่าใดไม่เป็นประเด็นในคำท้า ข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้านั้นแล้ว