คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ครอบครองปรปักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการขาดอายุความฟ้องร้องคดีครอบครองที่ดิน
ป.สามีโจทก์ได้ทำสัญญาซื้อที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่ามีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วจากจำเลยโดยทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ป.ยังค้างชำระราคาส่วนหนึ่งแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา4ทวิประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่96ข้อ2ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษสิทธิครอบครองในที่พิพาทจึงโอนไปเป็นของป.ด้วยผลของกฎหมายไม่จำต้องมอบการครอบครองกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1378การที่จำเลยอยู่ในที่พิพาทต่อมาก็โดยอาศัยสิทธิของป.แต่ต่อมาวันที่31ธันวาคม2524จำเลยไปขอรับเงินค่าที่ดินที่ค้างจากป.แต่ถูกปฏิเสธจำเลยจึงบอกเลิกสัญญากับป.และว่าจะไม่ยอมออกจากที่พิพาทหากป.ต้องการให้ไปฟ้องเอาดังนี้แม้จะไม่เป็นผลให้สัญญาซื้อขายระหว่างป.กับจำเลยเลิกกันก็ตามแต่ก็เป็นการบอกกล่าวของจำเลยต่อป.ว่าไม่เจตนาจะยึดถือที่พิพาทแทนป.ต่อไปอันเป็นการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือว่าจำเลยมิได้ยึดถือที่พิพาทแทนป.ต่อไปตามมาตรา1381ป.ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่16พฤษภาคม2525การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมรดกที่พิพาทอันเป็นการสืบสิทธิจากป.เจ้ามรดกเพิ่งนำคดีมาฟ้องเพื่อเอาคืนซึ่งที่ดินดังกล่าวจากจำเลยเมื่อวันที่4มกราคม2526ซึ่งเป็นเวลาเกินกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่31ธันวาคม2524ซึ่งเป็นวันที่จำเลยแย่งการครอบครองโจทก์จึงขาดสิทธิฟ้องเอาคืนที่พิพาทตามมาตรา1375.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1564/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินส่วนบุคคล โดยการครอบครองอย่างสงบ เปิดเผย และต่อเนื่อง
ที่พิพาทเป็นถนนส่วนบุคคลและไหล่ถนนอยู่ในโฉนดของผู้คัดค้านบิดาผู้ร้องกับผู้ร้องครอบครองเป็นเจ้าของถนนสืบเนื่องกันมาอย่างสงบและเปิดเผยติดต่อกันมากว่า 10 ปีแล้ว ที่พิพาทจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์พาณิชย์มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1564/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินส่วนบุคคลต่อเนื่องเกิน 10 ปี
ที่พิพาทเป็นถนนส่วนบุคคลและไหล่ถนนอยู่ในโฉนดของผู้คัดค้านบิดาผู้ร้องกับผู้ร้องครอบครองเป็นเจ้าของถนนสืบเนื่องกันมาอย่างสงบและเปิดเผยติดต่อกันมากว่า10ปีแล้วที่พิพาทจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์พาณิชย์มาตรา1382.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ & สัญญาจะซื้อจะขายยังไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจากจำเลยข้อความในสัญญากำหนดว่าผู้จะขายยินยอมที่จะดำเนินการขายให้เสร็จภายใน12เดือนเพื่อโอนขายให้แก่ผู้จะซื้อการซื้อขายที่ดินพิพาทจึงยังต้องมีการโอนทางทะเบียนกันแม้จำเลยยอมให้โจทก์ครอบครองที่ดินไปได้ก่อนก็ตามแต่ตราบใดที่ยังไม่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์กรรมสิทธิ์ที่ดินยังเป็นของจำเลยการครอบครองที่ดินของโจทก์จึงเป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิของจำเลยเป็นการยึดถือที่พิพาทแทนจำเลยมิใช่ยึดถือในฐานะเป็นเจ้าของเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแม้โจทก์ครอบครองที่พิพาทเกิน10ปีโจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ โจทก์เคยฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะขาดอายุความโจทก์จึงมาร้องขอให้พิพากษาว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันไม่เป็นฟ้องซ้ำตามป.วิ.พ.มาตรา148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ แม้ครอบครองเกิน 10 ปี และเคยฟ้องร้องเรียกกรรมสิทธิ์ก่อนหน้านี้
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจากจำเลยข้อความในสัญญากำหนดว่าผู้จะขายยินยอมที่จะดำเนินการขายให้เสร็จภายใน12เดือนเพื่อโอนขายให้แก่ผู้จะซื้อการซื้อขายที่ดินพิพาทจึงยังต้องมีการโอนทางทะเบียนกันแม้จำเลยยอมให้โจทก์ครอบครองที่ดินไปได้ก่อนก็ตามแต่ตราบใดที่ยังไม่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์กรรมสิทธิ์ที่ดินยังเป็นของจำเลยการครอบครองที่ดินของโจทก์จึงเป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิของจำเลยเป็นการยึดถือที่พิพาทแทนจำเลยมิใช่ยึดถือในฐานะเป็นเจ้าของเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแม้โจทก์ครอบครองที่พิพาทเกิน10ปีโจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ โจทก์เคยฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะขาดอายุความโจทก์จึงมาร้องขอให้พิพากษาว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา148.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: การอ้างเขตโฉนดใหม่ขัดแย้งกับการครอบครองเดิม ย่อมฟังไม่ได้
เมื่อจำเลยให้การว่าจำเลยได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปี อันเป็นข้อต่อสู้ของจำเลยว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์โดยทางปรปักษ์ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ในตัวว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของจำเลย ฉะนั้นจำเลยจะอ้างว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของตน โดยนำสืบว่าจำเลยได้ทำคันนาขึ้นใหม่ในที่ดินของจำเลยตลอดเขตที่ดินของจำเลยซึ่งรวมทั้งที่พิพาทด้วยจึงรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: จำเลยอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยอิงการครอบครอง แต่ขัดแย้งกับแนวเขตเดิมที่แสดงในแผนที่
เมื่อจำเลยให้การว่าจำเลยได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า10ปีอันเป็นข้อต่อสู้ของจำเลยว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์โดยทางปรปักษ์ซึ่งแสดงให้เห็นได้ในตัวว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของจำเลยฉะนั้นจำเลยจะอ้างว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของตนโดยนำสืบว่าจำเลยได้ทำคันนาขึ้นใหม่ในที่ดินของจำเลยตลอดเขตที่ดินของจำเลยซึ่งรวมทั้งที่พิพาทด้วยจึงรับฟังไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์หลังสัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์ จำเลยสละการครอบครอง โจทก์ยึดถือเพื่อตน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่นาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าให้แก่ ก. สามีโจทก์ และได้ส่งมอบการครอบครองให้ตั้งแต่วันทำสัญญาแล้ว โดยมีข้อตกลงกันว่าจะไปขอออก น.ส.3 แล้วจดทะเบียนโอนในภายหลัง. ต่อมาจำเลยและสามีโจทก์ไปยื่นเรื่องราวขอขายและขอออก น.ส.3 ต่อทางการ แต่ในที่สุดทางการไม่ออก น.ส.3 ให้จึงยังมิได้จดทะเบียนโอนตามที่ตกลงกันไว้ แม้สามีโจทก์เข้าครอบครองที่นาพิพาทตอนแรกตามสัญญาจะซื้อขายเป็นการครอบครองแทนจำเลยผู้ขายก็ตาม แต่ภายหลังจากที่ไม่สามารถออก น.ส.3 ได้ สามีโจทก์ก็ได้ไปแจ้งการครอบครองและนำสำรวจเสียภาษีบำรุงท้องที่ เมื่อสามีโจทก์ตายโจทก์ได้เอาที่นาพิพาทให้จำเลยเช่า พฤติการณ์แห่งคดีเช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่า เมื่อจำเลยไม่สามารถที่จะออก น.ส.3 สำหรับที่พิพาทเพื่อจดทะเบียนสิทธิโอนที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์แล้ว ทั้งจำเลยและสามีโจทก์ก็ไม่ได้คำนึงถึงการที่จะทำการจดทะเบียนสิทธิที่นาพิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ถือได้ว่าจำเลยสละการครอบครองที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์และโจทก์โดยเด็ดขาดแล้ว สามีโจทก์และโจทก์ได้ยึดถือที่นาพิพาทโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนจึงเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่นาพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4072/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการบอกกล่าวเจตนาไม่ยึดถือการครอบครองเดิม ทำให้สิทธิครอบครองเดิมสิ้นสุดและเริ่มนับอายุความใหม่
เดิมจำเลยอาศัยที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าของโจทก์อยู่ เมื่อโจทก์ทั้งสามไปขอให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) สำหรับที่ดินของโจทก์รวมถึงที่ดินพิพาทด้วยจำเลยคัดค้านจึงออก หนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทไม่ได้การที่จำเลยคัดค้าน ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสามแล้วว่าจำเลย ไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนผู้ครอบครองต่อไปโดยตนเป็น ผู้ครอบครองเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งโจทก์จะต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่ง การครอบครอง เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยคัดค้าน การรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออก น.ส.3 ก.ให้โจทก์ โจทก์จึงหมดสิทธิ ที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาท แม้โจทก์จะคัดค้าน การออก น.ส.3 ก. ของจำเลยในที่ดินพิพาทก็ไม่ทำให้สิทธิ การครอบครองของจำเลยเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3094/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้เนื่องจากชื่อผู้เยาว์
ธ. เป็นบิดาและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของจำเลย ธ.ซื้อที่ดินพิพาทมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง แต่ใส่ชื่อจำเลยผู้เยาว์ไว้ในโฉนดแทนแล้วได้ขายที่ดินและตึกพิพาทให้โจทก์ แม้ ธ.จะขายให้โจทก์โดยมิได้รับอนุญาตจากศาล ก็ไม่ทำให้สิทธิการได้มาของโจทก์เสียไป เพราะจำเลยเพียงแต่มีชื่อในโฉนดเป็นการถือกรรมสิทธิ์แทน ธ. เท่านั้นหาใช่ทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลยผู้เยาว์ไม่
หลังจากที่โจทก์ซื้อทรัพย์พิพาทจาก ธ. ธ. ไม่อาจโอนให้ได้เพราะโฉนดมีชื่อจำเลยซึ่งเป็นบุตรผู้เยาว์ ก็มิได้มีการตกลงกันเรื่องการโอนทางทะเบียนอีกเป็นการแน่นอนว่าจะโอนกันหรือไม่เมื่อใดโจทก์เข้าครอบครองทำประโยชน์ใช้เป็นสำนักงานสาขาสำเพ็ง ลงบัญชีว่าเป็นทรัพย์สินของโจทก์ เสียค่าภาษีที่ดิน ภาษีโรงเรือนเอง แจ้งให้ผู้ตรวจการธนาคารแห่งประเทศไทยทราบทุกครั้งว่าเป็นทรัพย์สินของโจทก์ทั้งยังทำหนังสือแจ้งให้กระทรวงการคลังทราบทั้งยังขออนุมัติรื้อถอนตัวอาคารเมื่อย้ายสำนักงานสาขาไปตั้งยังที่แห่งใหม่ซึ่งกระทรวงการคลังก็อนุมัติแสดงว่าทั้งโจทก์และนายธรรมนูญไม่ได้คำนึงถึงการที่จะทำการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมายกันต่อไป ถือได้ว่านายธรรมนูญสละการครอบครองทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์โดยเด็ดขาดการครอบครองของโจทก์จึงเป็นการครอบครองอย่างเป็นเจ้าของหาใช่ครอบครองตามสัญญาจะซื้อขายไม่ เมื่อเกินสิบปีโจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์
of 138