คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทรัพย์สิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,615 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินในคดีล้มละลาย ต้องมีนิติสัมพันธ์ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ก่อนการโอน
การโอนที่จะต้องถูกเพิกถอนตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 115นั้น ต้องเป็นการโอนภายในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนมีการขอให้ล้มละลายและภายหลังนั้นให้แก่เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดซึ่งเป็นเจ้าหนี้อยู่แล้วก่อนโอน และการโอนนั้นทำให้เจ้าหนี้คนอื่น ๆ เสียเปรียบที่ว่าต้องเป็นเจ้าหนี้อยู่แล้วก่อนโอนนั้น หมายความว่าเจ้าหนี้กับลูกหนี้มีนิติสัมพันธ์กันมาก่อนแล้ว อันเป็นการก่อสิทธิแก่เจ้าหนี้ที่จะเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ต่อไป จำเลยกับ ว. ไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กันมาก่อนโอน ไม่ว่าจะเป็นในรูปของสัญญาจะซื้อจะขายหรือคำมั่นจะซื้อจะขาย อันจะเป็นการก่อสิทธิแก่ ว. ที่จะเรียกร้องให้จำเลยโอนขายที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่ตนได้ จึงถือไม่ได้ว่า ว. เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยอยู่แล้วก่อนโอน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนรายนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 115

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดอำนาจร้องขอเพิกถอนการโอนทรัพย์เมื่อศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลาย
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยแล้วผู้ร้องยังคงมีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินพร้อมตึกแถวพิพาทอยู่ต่อไปหรือไม่ปัญหาข้อนี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหา เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกา มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลย จึงมีผลเท่ากับเป็นการยกเลิกการพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลย ไปในตัว อำนาจที่จะร้องขอให้เพิกถอนการโอน ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิ้นสุดลง ผู้ร้องจึง ไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินพร้อมตึกแถวพิพาทต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินในคดีล้มละลาย: ดอกเบี้ยเริ่มนับจากวันศาลมีคำสั่งเพิกถอน
การเพิกถอนการโอนตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 114 เป็นไปโดยผลของคำพิพากษา ตราบใดที่ยังไม่มีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้เพิกถอนการโอน ก็ยังถือว่าเป็นการโอนโดยชอบ และจะถือว่ามีการผิดนัดกันแล้วหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากเหตุหมิ่นประมาท/เหยียดหยามจากแจ้งความ/ฟ้องคดีอาญา ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิเพื่อปกป้องทรัพย์สิน
การที่โจทก์ขายรถยนต์สินสมรสให้แก่บุคคลอื่นโดยที่จำเลยไม่ทราบและได้ระบุในบันทึกคำแจ้งความเรื่องขอโอนและขอรับโอนทะเบียนรถยนต์ว่าโจทก์เป็นโสด มีเหตุให้จำเลยเชื่อว่าโจทก์ขายรถยนต์สินสมรสเพื่อประโยชน์ของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว จึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง จำเลยย่อมมีสิทธิรักษาประโยชน์ของตนเองได้ ดังนั้นการแจ้งความของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับโจทก์ฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน จึงเป็นการใช้สิทธิตามที่มีกฎหมายให้อำนาจเพื่อปกป้องและรักษาประโยชน์ในทรัพย์สินของตนตามปกติ จึงไม่เป็นการหมิ่นประมาท หรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรงที่จะถือว่าเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516(3) การที่จำเลยฟ้องโจทก์และ พ. เป็นจำเลยในคดีอาญาข้อหาร่วมกันแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จนั้น สืบเนื่องมาจากเหตุที่ได้มีการฟ้องคดีแพ่งและมีการนำยึดที่ดินพร้อมบ้านที่ปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าว ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และจำเลยร่วมกัน และจำเลยก็มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหลังนี้โดยมีพฤติการณ์ที่ทำให้จำเลยเข้าใจว่าหนี้สินระหว่างโจทก์และ พ. เป็นหนี้สมยอมกันเพื่อกลั่นแกล้งจำเลย การฟ้องคดีอาญาดังกล่าวของจำเลยจึงเป็นการกระทำที่จำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่า มีสิทธิกระทำได้ เพื่อป้องกันส่วนได้เสียและป้องกันทรัพย์สินที่จำเลยมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ จึงหาใช่เป็นการหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรงอันจะเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516(3) ไม่เช่นเดียวกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้จำนองในการได้รับชำระหนี้จากการบังคับคดีทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ในกรณีที่มีการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำนองอาจร้องขอให้บังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินนั้น หรือขอให้เอาเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษามาชำระหนี้ของตนก่อนเจ้าหนี้อื่นใด กฎหมายมิได้บังคับว่าศาลจะต้องระบุจำนวนหนี้จำนองที่ผู้ร้องมีสิทธิได้รับก่อนเจ้าหนี้อื่นไว้ในคำสั่ง ทั้งในคดีนี้ไม่ปรากฏว่าได้มีการนำทรัพย์สินที่จำนองออกขายทอดตลาดแล้วหรือไม่ จึงไม่อาจทราบได้ว่าผู้ร้องจะได้รับเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดก่อนโจทก์เป็นจำนวนเท่าใด ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น โดยมิได้ระบุจำนวนหนี้จำนองไว้ด้วยจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โรงแรมและสินสมรส: การแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรสและมรดก
ผู้ตายกับโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาไม่ได้จดทะเบียนสมรสร่วมกันทำกิจการโรงแรมมีเจตนาเป็นเจ้าของร่วมกัน เงินที่ใช้เป็นทุนปลูกสร้างโรงแรมจะเกิดจากฝ่ายใดหามาไม่สำคัญ ต้องถือว่าโรงแรมเป็นทรัพย์สินร่วมกันระหว่างผู้ตายกับโจทก์ที่ 1 เมื่อผู้ตายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินยินยอมให้ใช้ที่ดินดังกล่าวปลูกสร้างโรงแรมเพื่อทำกิจการค้าร่วมกันกับโจทก์ที่ 1 โรงแรมจึงไม่เป็นส่วนควบกับที่ดิน
จำเลยที่ 5 จดทะเบียนสมรสกับผู้ตาย แม้จำเลยที่ 5 จะเลิกร้างกับผู้ตายไปนานแล้ว แต่เมื่อไม่ได้จดทะเบียนหย่ากันทรัพย์ที่ผู้ตายได้มาระหว่างที่เป็นสามีภริยากับจำเลยที่ 5 ย่อมเป็นสินสมรส
เงินรายได้จากกิจการโรงแรมรวมทั้งร้านตัดผมที่ได้มาหลังจากที่ผู้ตายถึงแก่กรรมแล้ว มิใช่ทรัพย์มรดกของผู้ตายเพราะมิใช่ทรัพย์ที่มีอยู่ก่อนหรือในขณะที่ผู้ตายถึงแก่กรรม แต่เป็นดอกผลของโรงแรมตกได้แก่ผู้ที่เป็นเจ้าของโรงแรมตามสัดส่วนแห่งความเป็นเจ้าของโรงแรมตาม ป.พ.พ. มาตรา 111 และมาตรา1360 และเมื่อเงินดังกล่าวมิใช่มรดกของผู้ตาย แม้จำเลยที่ 4 ปิดบังหรือยักย้ายเงินส่วนนี้ ก็ไม่ถูกกำจัดมิให้รับมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้โดยตัวแทน: การชำระหนี้ด้วยการมอบทรัพย์สินทำให้หนี้เกิดผลผูกพันและอายุความสะดุดหยุดลง
การรับสภาพหนี้ แม้ต้องกระทำโดยลูกหนี้ แต่ลูกหนี้อาจ ตั้ง ตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ ตัวแทนของจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้โจทก์ จึงเป็นการรับสภาพหนี้ที่มีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ทำให้อายุความ สะดุดหยุดลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องยักยอกทรัพย์: ฟ้องสมบูรณ์แม้ไม่ระบุจำนวนเงิน หากจำเลยต่อสู้ได้
ฟ้องของโจทก์ซึ่งกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอก แม้จะมิได้อ้างในคำฟ้องว่าเงินที่ผู้เสียหายมอบให้แก่จำเลยเป็นเงินมัดจำซื้อบ้านจำนวนเท่าใด ต่อเติมบ้านจำนวนเท่าใดก็ตาม แต่ก็ถือเป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด มีข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่โจทก์มอบให้จำเลยจำนวนดังกล่าวเป็นเงินค่าจ้างที่ผู้เสียหายว่าจ้างจำเลยต่อเติมบ้านให้ผู้เสียหาย จึงเป็นเงินของจำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดก็เป็นข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งสามารถนำสืบหักล้างได้ในชั้นพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583-584/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำพินัยกรรมต้องพิจารณาว่าทรัพย์สินเป็นของเจ้ามรดกจริงหรือไม่ การยกทรัพย์ก่อนเสียชีวิตมีผลต่อพินัยกรรม
การที่เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้ผู้ใด โดยอ้างว่า เป็นทรัพย์ของเจ้ามรดกนั้น มิใช่จะถือว่าทรัพย์ที่ระบุในพินัยกรรม เป็นของเจ้ามรดกเสมอไป ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ว่าเป็น ทรัพย์ของเจ้ามรดกหรือไม่ เมื่อคดีฟังได้ว่าเจ้ามรดกได้ยกทรัพย์ บางส่วนให้จำเลยทั้งสองก่อนตาย ทรัพย์ส่วนที่ยกให้ย่อมไม่เป็น ของเจ้ามรดกที่จะทำพินัยกรรมยกให้โจทก์ทั้งสองได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินจากการฉ้อฉล ต้องเกิดก่อนหรือขณะที่ลูกหนี้มีหนี้เจ้าหนี้
คำร้องของ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้ร้องได้ร้องขอให้เพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยที่ 3 โอนให้แก่ผู้คัดค้านโดยไม่มีค่าตอบแทนและเป็นการฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 แต่ตามคำร้องมิได้บรรยายว่าลูกหนี้ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้รายใดเสียเปรียบ จึงต้องถือว่าผู้ร้องขอให้เพิกถอนการโอนซึ่งทำให้โจทก์ต้องเสียเปรียบรายเดียวเท่านั้น ซึ่งการร้องขอตามบทกฎหมายดังกล่าวจะต้องได้ความว่าลูกหนี้ต้องเป็นหนี้เจ้าหนี้อยู่ก่อนหรือขณะที่ลูกหนี้ทำนิติกรรมอันจะเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบจำเลยที่ 3 จดทะเบียนโอนทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ผู้คัดค้านไป เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2525 แต่จำเลยที่ 3 เพิ่งเป็นลูกหนี้โจทก์เมื่อปี 2528 อันเป็นเวลาภายหลังจากที่จำเลยที่ 3 โอนที่ดินให้ผู้คัดค้านแล้วถึง 3 ปี ขณะที่จำเลยที่ 3 โอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นโจทก์จึงยังไม่อยู่ในฐานะเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 3ผู้ร้องไม่มีสิทธิจะร้องขอให้เพิกถอนการโอน
of 262