พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงพยายามฆ่า: การพิจารณาจากพยานหลักฐานและเหตุจูงใจ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหาย แต่โจทก์ไม่มีพยานเห็นในขณะจำเลยยิง จึงไม่รู้ว่าจำเลยประทับปืนยิงเล็งตรงไปที่ผู้เสียหายหรือไม่ แต่ตัวจำเลยยิงเล็งไปยังผู้เสียหายแล้วในระยะห่างกันเพียง 7 วาปลัดอำเภอผู้สอบสวนว่าต้องถูกเป้าหมาย ฉะนั้นเมื่อผู้เสียหายมิได้ถูกกระสุนที่จำเลยยิง และกระสุนไปถูกชายคาเรือนห่างจากผู้เสียหาย 3 ศอก จึงอาจเป็นเพราะจำเลยไม่ได้ยิงเล็งผู้เสียหายและเล็งยิงไปยังที่หมายที่ถูกลูกกระสุนนั้นก็ได้ ประกอบกับเหตุที่จำเลยทะเลาะกับผู้เสียหายก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ถึงคุมแค้นจะฆ่าผู้เสียหาย ดังนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และการลดโทษตาม ม.37
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกมีอาวุธกลับมาและขึ้นไปบนเรือนพร้อมกับจำเลยที่ 1 ๆ ถือปืนยาวแล้วหยิบปืนลูกซองอีกกระบอกให้จำเลยที่ 3 ๆ บรรจุกระสุนเล็งมาทางเจ้าพนักงานสรรพสามิต ๆ หลบเข้าใต้ถุนและไปห่างราว 10 วาก็มีเสียงปืนลั่นมาจากทางบ้าน จำเลยที่ 1 ติด ๆ กัน 2 นัด เมื่อลั่นนัดแรกเจ้าพนักงานผู้นั้นหันไปเห็นจำเลยที่ 1 ประทับปืนอยู่ พฤติการณ์ดังนี้ย่อมถือว่า่จำเลยที่ 3 เป็นพรรคพวกของจำเลยที่ 1 และร่วมสบคบให้อาวุธปืนยิงเจ้าพนักงาน ๆ ด้วย
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิด ก.ม. ตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัด ถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เพราะการที่กระทำการตามหน้าที่ตาม ม.250(2),60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม ม. 250 (2) เป็นอุกฤษโทษ ก.ม.บัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง 2 ใน 3 ส่วน ตาม ม.60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม ม. 37(1)
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิด ก.ม. ตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัด ถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เพราะการที่กระทำการตามหน้าที่ตาม ม.250(2),60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม ม. 250 (2) เป็นอุกฤษโทษ ก.ม.บัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง 2 ใน 3 ส่วน ตาม ม.60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม ม. 37(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และการสมคบใช้กำลังประทุษร้าย
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกมีอาวุธกลับมาและขึ้นไปบนเรือนพร้อมกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ถือปืนยาวแล้วหยิบปืนลูกซองอีกกระบอกส่งให้จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3บรรจุกระสุนเล็งมาทางเจ้าพนักงานสรรพสามิต เจ้าพนักงานสรรพสามิต หลบเข้าใต้ถุนและไปห่างราว 10 วาก็มีเสียงปืนลั่นมาจากทางบ้านจำเลยที่ 1 ติด ติด กัน 2 นัดเมื่อลั่นนัดแรกเจ้าพนักงานผู้นั้นหันไปเห็นจำเลยที่ 1 ประทับปืนอยู่ พฤติการณ์ดังนี้ย่อมถือว่าจำเลยที่ 3เป็นพรรคพวกของจำเลยที่ 1 และร่วมสมคบใช้อาวุธปืนยิงเจ้าพนักงานฯ ด้วย
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิดกฎหมายตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัดถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะการกระทำการตามหน้าที่ตาม มาตรา 25037,60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม มาตรา 250(2) เป็นอุกฤษฎ์โทษกฎหมายบัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง2 ใน 3 ส่วน ตาม มาตรา 60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม มาตรา 37(1)
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิดกฎหมายตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัดถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะการกระทำการตามหน้าที่ตาม มาตรา 25037,60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม มาตรา 250(2) เป็นอุกฤษฎ์โทษกฎหมายบัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง2 ใน 3 ส่วน ตาม มาตรา 60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม มาตรา 37(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า แม้ปืนระเบิด ศาลฎีกาพิพากษาผิดฐานพยายามฆ่า
ใช้ปืนแก๊บสั้นทำเองลำกล้อง 8 อนุกระเบียด ยาว 11 นิ้ว ยิงเขาลำกล้องแตกกระสุนปืนถูกเขาที่ขาขวาหนังขาด 1 แห่งเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่าจากการใช้ปืนยิง แม้ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงอีกฝ่ายหนึ่งในขณะวิวาทกัน ถูกข้อมือกระดูกแตก และยังมีบาดแผลที่หางคิ้ว และเหนือใบหูขวาอีกด้วยดังนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายหากกระสุนไม่ถูกอวัยวะที่สำคัญ จำเลยต้องมีความผิด ตาม ม.249-60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากพฤติการณ์ยิงด้วยอาวุธร้ายแรง แม้ไม่ถูกอวัยวะสำคัญเข้าข่ายพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงอีกฝ่ายหนึ่งในขณะวิวาทกันถูกข้อมือกระดูกแตกและยังมีบาดแผลที่หางคิ้วและเหนือใบหูขวาอีกด้วยดังนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายหากกระสุนไม่ถูกอวัยวะที่สำคัญจำเลยต้องมีความผิดตาม มาตรา24960
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า พิจารณาจากบาดแผลและชนิดกระสุนที่ใช้ยิง
ใช้ปืนสั้นลูกซองยิงในระยะ 3 วา กระสุนปืนถูกเป็นแผลเพียงหนังขาด โลหิตซับบวมช้ำ แสดงว่าดินส่งกระสุนอ่อนมากไม่เหมือนปืนธรรมดา ไม่สามารถทำให้ตาย เป็นผิดเพียง มาตรา 254 ไม่ใช่ 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าจากบาดแผลที่ไม่ร้ายแรง และลักษณะของดินส่งกระสุนที่อ่อนแรง
ใช้ปืนสั้นลูกซองยิงในระยะ 3 วา กระสุนปืนถูกเป็นแผลเพียงหนังขาด โลหิตซับบวมช้ำ แสดงว่าดินส่งกระสุนอ่อนมากไม่เหมือนปืนธรรมดา ไม่สามารถทำให้ตาย เป็นผิดเพียง มาตรา 254 ไม่ใช่ 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าโดยเจตนา ใช้อาวุธแทงบาดเจ็บสาหัส มัดมือผู้เสียหายก่อนลงมือ
จับผู้เสียหายมัดมือไว้แล้วเลือกแทงด้วยอาวุธแหลมคม 1 ทีถูกใต้สบักขวาด้านหลังทะลุอกแล้วชักอาวุธออกวิ่งหนีไปผู้เสียหายรักษาแผลอยู่ 18 วันและต้องรักษาตัวต่อไปอีก 1 เดือนกว่าจึงหายเป็นผิดตาม มาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการพยายามฆ่า: ปืนชื้นกระสุนไม่ลั่น ถือเป็นเหตุป้องกันได้
ใช้ปืนแก๊บที่บรรจุกระสุนและดินปืนไว้นานจนดินปืนชื้น ยิงจนแก๊บแตก เป็นประกายไฟ แต่กระสุนไม่ลั่นนั้นถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยที่จะป้องกันได้มาขัดขวางเสียจำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าคน