พบผลลัพธ์ทั้งหมด 993 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกคืนทรัพย์หรือราคาทรัพย์ ไม่ใช่การเรียกร้องค่าเสียหาย อายุความจึงไม่ผูกพันมาตรา 448
กรณีฟ้องเรียกให้จำเลยคืนทรัพย์ ถ้าคืนไม่ได้ก็ให้ใช้ราคานั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องเอาค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 จึงไม่ถืออายุความตามมาตรา 448 นั้น แม้โจทก์ฟ้องเกิน 1 ปีก็ไม่ขาดอายุความ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน แม้โจทก์ถึงแก่กรรม ก็ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีได้
คดีความผิดอาญาแผ่นดินที่ราษฎรเป็นโจทก์ จำเลยฎีกา ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์ถึงแก่กรรม นั้นก็ไม่เป็นเหตุขัดข้องแก่การดำเนินคดีต่อไป ถือได้ว่าโจทก์ได้ฟ้องร้องแทนแผ่นดิน ฉะนั้น ศาลฎีกาจึงทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้ออ้างการย้ายภารจำยอมในชั้นบังคับคดีเป็นประเด็นใหม่ ต้องฟ้องเป็นคดีต่างหาก
เมื่อศาลพิพากษาให้ที่ดินของจำเลยตกอยู่ในภารจำยอมแล้วจำเลยจะยกสิทธิขอให้ย้ายภารจำยอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1392 ขึ้นอ้างในชั้นบังคับคดีไม่ได้ เพราะเป็นการก่อให้เกิดประเด็นขึ้นใหม่ว่า การย้ายต้องไม่ทำให้ความสะดวกของเจ้าของสามยทรัพย์น้อยลง ซึ่งศาลจะต้องพิจารณาสืบพยานหลักฐานชี้ขาด ฉะนั้นถ้าโจทก์ไม่ตกลงยินยอมในการย้าย จำเลยก็ต้องไปฟ้องเป็นคดีต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยค้างชำระ: สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยยังไม่ขาดอายุความ แม้ฟ้องเรียกเกิน 5 ปี
กฎหมายมิได้ห้ามคิดเอาดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้เกิน 5 ปี เป็นแต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ยที่ค้างส่งหรือค้างชำระว่า ให้มีกำหนดอายุความ 5 ปีเท่านั้น
จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ จะมายกข้อนี้ขึ้นในชั้นฎีกาหาได้ไม่
จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ จะมายกข้อนี้ขึ้นในชั้นฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด: การฟ้องไม่ระบุความผิดนัดของนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวปรากฏว่า เป็นเรื่องห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นผู้ซื้อ คำฟ้องของโจทก์ที่ไม่ได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนอันเป็นนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้ว่า ได้ผิดนัดแล้วหรือกล่าวว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลยนั้น คำฟ้องคดีนี้บังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วนรับผิดเป็นส่วนตัวในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4 / 2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและขอบเขตแห่งข้อตกลงสัญญาเช่า: การแบ่งแยกฟ้องร้องในมูลเหตุเดียวกันและการแยกแยะข้อตกลงในสัญญา
คดีแรก โจทก์ฟ้องให้จำเลยส่งมอบสถานที่เช่าคืน คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์โจทก์มาฟ้องคดีหลังเรียกค่าเสียหาย อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุที่จำเลยไม่ส่งมอบสถานที่เช่าคืน เช่นนี้ คดีหลังต้องห้ามมิให้โจทก์ยื่นฟ้องได้อีก ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 (1) (คดีก่อนยังไม่ถึงที่สุด)
ส่วนในคดีหลัง ข้อที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินทุนที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนในการก่อสร้าง แม้ข้อตกลงข้อนี้จะปรากฏอยู่ในสัญญาเช่าฉบับเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีแรก ฟ้องคดีหลังก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะหนังสือสัญญาฉบับนี้แบ่งแยกข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาออกได้เป็นส่วน ๆ มีลักษณะเป็นคนละเรื่องต่างหากจากกัน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)
ส่วนในคดีหลัง ข้อที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินทุนที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนในการก่อสร้าง แม้ข้อตกลงข้อนี้จะปรากฏอยู่ในสัญญาเช่าฉบับเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีแรก ฟ้องคดีหลังก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะหนังสือสัญญาฉบับนี้แบ่งแยกข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาออกได้เป็นส่วน ๆ มีลักษณะเป็นคนละเรื่องต่างหากจากกัน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและขอบเขตข้อตกลงในสัญญาเช่า: การแบ่งแยกข้อตกลงและผลกระทบต่อการฟ้องร้อง
คดีแรก โจทก์ฟ้องให้จำเลยส่งมอบสถานที่เช่าคืนคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์โจทก์มาฟ้องคดีหลังเรียกค่าเสียหายอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุที่จำเลยไม่ส่งมอบสถานที่เช่าคืนเช่นนี้ คดีหลังต้องห้ามมิให้โจทก์ยื่นฟ้องได้อีกตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1) (คดีก่อนยังไม่ถึงที่สุด)
ส่วนในคดีหลัง ข้อที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินทุนที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนในการก่อสร้างแม้ข้อตกลงข้อนี้จะปรากฏอยู่ในสัญญาเช่าฉบับเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีแรก ฟ้องคดีหลังก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะหนังสือสัญญาฉบับนี้แบ่งแยกข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาออกได้เป็นส่วนๆมีลักษณะเป็นคนละเรื่องต่างหากจากกัน (ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2503)
ส่วนในคดีหลัง ข้อที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินทุนที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนในการก่อสร้างแม้ข้อตกลงข้อนี้จะปรากฏอยู่ในสัญญาเช่าฉบับเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีแรก ฟ้องคดีหลังก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะหนังสือสัญญาฉบับนี้แบ่งแยกข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาออกได้เป็นส่วนๆมีลักษณะเป็นคนละเรื่องต่างหากจากกัน (ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การฟ้องแบ่งทรัพย์สินเดิมที่เคยฟ้องแล้ว แม้จะแยกเป็นส่วนของที่งอก ก็ถือเป็นฟ้องซ้ำ
ก่อนฟ้องคดีก่อน โจทก์ ทราบอยู่แล้วว่าที่ดินพิพาทมีที่งอก ครั้นเวลาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อน ฟ้องขอแบ่งเพียงที่ดินภายในโฉนด ไม่ได้ฟ้องขอแบ่งที่งอกด้วย เหตุที่ฟ้องอ้างว่า ที่พิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนางเปลื้องผู้ตายซึ่งเป็นมารดาจำเลย ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดไปแล้ว ต่อมา โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีหลัง ขอแบ่งที่งอกอีกอ้างว่าเป็นสินสมรสเช่นคดีก่อน ถือว่าฟ้องคดีหลังเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืมเงิน: การส่งสัญญากู้คืนไม่ตัดสิทธิการฟ้อง หากมีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ คือ ทำสัญญากู้ให้ไว้แก่โจทก์ จำเลยชำระหนี้รายนี้ให้แก่โจทก์ด้วยเช็คเงินสด โจทก์จึงคืนสัญญากู้แก่จำเลย แต่เมื่อโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงิน ปรากฏว่าเงินของจำเลยชำระหนี้ตามหลักฐานกู้นั้น และโจทก์ได้ส่งอ้างหนังสือของจำเลยที่รับว่าเป็นหนี้โจทก์ต่อศาล ดังนี้การที่โจทก์ส่งอ้างต้นฉบับสัญญากู้ ยังไม่ได้จะถือเคร่งครัดว่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือหาชอบไม่ เพราะโจทก์ย่อมนำพยานบุคคลมาสืบได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 93 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงตัดสิทธิฟ้องร้องเป็นโมฆะ หนี้เกิดแล้วฟ้องได้ แม้มีข้อตกลงอนุญาโตตุลาการ
เมื่อมีหนี้จะต้องรับผิดเกิดขึ้นแล้ว คู่กรณีย่อมมีสิทธินำคดีมาฟ้องศาลได้ การตกลงตัดสิทธิไม่ให้นำคดีมาสู่ศาลย่อมเป็นโมฆะ ข้อตกลงเช่นนี้ไม่มีผล