คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องแย้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 754 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องแย้งของบุตรเขย: แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้ บุตรเขยก็มีสิทธิฟ้องแย้งโจทก์ได้
มารดาฟ้องบุตรสาวและบุตรเขยเป็นจำเลยขอให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด จำเลยให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ขอให้ห้ามไม่ให้โจทก์เข้ามาเกี่ยวข้องและเรียกค่าเสียหายด้วย ดังนี้ แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้บุตรเขยก็ย่อมฟ้องให้โจทก์รับผิดตามฟ้องแย้งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดทุนทรัพย์ฟ้อง และข้อจำกัดในการอุทธรณ์ฎีกาเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่มิได้ฟ้องแย้ง
จำนวนทุนทรัพย์ ที่เรียกร้องไม่เกิน 2 พันบาทเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงโจทก์ตั้งทุนทรัพย์โดยขอแบ่งส่วนมรดกเพียง 500 บาท จำเลยฎีกาตั้งทุนทรัพย์มาโดยคิดค่าสินเดิมที่ขาดไปและอื่น ๆ รวมราคา 2930 บาทหาได้ฟ้องแย้งเข้ามา ดังนี้ไม่ให้ทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง เป็นแต่เพียงการขอให้หักจากสินสมรสก่อนแบ่งเท่านั้น
โจทย์ฟ้องขอแบ่งมรดกและก่ออ้างถึงสินเดิม แม้ไม่ได้ระบุสินเดิมมีอะไรบ้างฟ้องของโจทก์ที่กล่าวถึงสินเดิมก็เพียงประสงค์เพื่อเป็นเกณฑ์ในการแบ่งสินสมรสอย่างไรเท่านั้น หาได้ขอเรียกหรือขอให้หักสินเดิมจากสินสมรสไม่ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งและการเปลี่ยนแปลงคำให้การในคดีมรดก: ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม และไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงคำให้การขัดแย้งกับเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนพิพาท ซึ่งเป็นของผู้ตายตกเป็นมรดกแก่โจทก์ ผู้เป็นป้า
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลยแต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลยดังนี้วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่มเติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตายตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การเดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทายาทและการฟ้องแย้งการจัดการมรดก: การแสดงสิทธิทายาทที่ไม่ขัดขวางการจัดการมรดก
ทายาทของผู้ตายฟ้องผู้จัดการมรดกของผู้ตายขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นทายาทของผู้ตาย และมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียว นั้น เมื่อปรากฎในคำฟ้องว่า จำเลยไปร้องขอรับมรดกที่ดินมรดกโดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่า ผู้ตายไม่มีทายาทอื่น ดังนี้ เป็นเรื่องที่ทายาทขอให้แสดงสิทธิเท่านั้น จึงไม่เป็นการขัดต่อการจัดการมรดกแต่อย่างใด ฉะนั้นแม้ขณะนั้นจำเลยจะเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาทผู้นั้นก็ยังฟ้องได้ และศาลก็จะพิพากษาเพียงบแสดงว่าโจทก์เป็นทายาทของผู้ตายเท่านั้น ส่วนจะเป็นทายาทแต่คนเดียวหรือไม่นั้น ไม่ชี้ขาดเพราะเป็นการพิพาทกันระหว่างโจทก์ กับจำเลยซึ่งไปอ้างต่อเจ้าพนักงานว่าไม่มีทายาทอื่น นอกจากจำเลยเท่านั้น./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งขอโอนสิทธิการเช่าและการเรียกร้องค่าเสียหายต้องได้รับความยินยอมจากคู่สัญญาและอยู่ในอำนาจศาล
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าที่โจทก์เช่ามา จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์โอนการเช่าห้องรายพิพาทให้จำเลย ถ้าโอนไม่ได้ให้ใช้เงิน 3000 บาท เรื่องขอโอนการเช่านั้น เมื่อไม่ปรากฎในฟ้องแย้งว่า ผู้ให้เช่าได้ยินยอมด้วย ก็ไม่มีทางบังคับได้ ส่วนทุนทรัพย์ 3000 บาท ก็เกินอำนาจศาลแขวงที่จะรับไว้บังคับบัญชา ศาลแขวงย่อมสั่งไม่รับฟ้องแย้งดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่และการฟ้องแย้งขอโอนสิทธิเช่า/ค่าเสียหาย ศาลแขวงไม่มีอำนาจบังคับบัญชา
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าที่โจทก์เช่ามา จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์โอนการเช่าห้องรายพิพาทให้จำเลยถ้าโอนไม่ได้ให้ใช้เงิน 3000 บาท เรื่องขอโอนการเช่านั้น เมื่อไม่ปรากฏในฟ้องแย้งว่า ผู้ให้เช่าได้ยินยอมด้วย ก็ไม่มีทางบังคับได้ส่วนทุนทรัพย์ 3000 บาทก็เกินอำนาจศาลแขวงที่จะรับไว้บังคับบัญชา ศาลแขวงย่อมสั่งไม่รับฟ้องแย้งดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกและการฟ้องแย้งสิทธิในทรัพย์สิน ศาลพิพากษาตามส่วนแบ่งที่ปรากฏ แม้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมิได้ร้องขอ
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินและเรือนจากจำเลยโดยอ้างว่ามารดายกให้โจทก์แต่ผู้เดียว แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นมรดกของผู้ตายตกได้แก่โจทก์และจำเลย ดังนี้ ศาลก็อาจพิพากษาให้โจทก์รับส่วนแบ่งไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 ส่วนข้อที่ผู้มีส่วนควรได้มรดกอาจจะมีอยู่นั้นก็เป็นเรื่องของผู้นั้นจะต้องร้องขอเข้ามาเองหาใช่เป็นหน้าที่ของศาลไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1622 เป็นบทบัญญัติห้ามมิให้พระภิกษุเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรมแต่ถ้าพระภิกษุถูกฟ้องเป็นจำเลยแล้วศาลก็พิพากษาให้พระภิกษุได้รับส่วนแบ่งมรดกด้วย ก็ไม่เป็นการขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1622

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลฟ้องแย้ง: กรณีประเด็นกรรมสิทธิเกิดจากฟ้องเดิม ศาลพิจารณาเฉพาะเจาะจงเพื่อคืนค่าขึ้นศาลเกิน
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินแปลงหนึ่ง ขอให้ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิว่าเป็นที่ดินของจำเลยและฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์ออกจากที่ดินพิพาท ดังนี้ ในคดีที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทุนทรัพย์ที่ดินพิพาท ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งนั้นจำเลยเสียค่าขึ้นศาลเพียง 15 บาท เท่านั้น เพราะปัญหาว่าที่ดินพิพาทเป็นของใครนั้น เกิดขึ้นโดยคำฟ้องเดิมของโจทก์และข้อต่อสู้ของจำเลยอยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลฟ้องแย้ง: คำฟ้องเดิมเป็นเหตุให้เกิดข้อพิพาท จำเลยเสียค่าขึ้นศาลขั้นต่ำ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่ง ขอให้ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลยจำเลยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดจริงและฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์ออกจากที่ดินพิพาทดังนี้ ในคดีที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทุนทรัพย์ที่ดินพิพาท ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งนั้นจำเลยเสียค่าขึ้นศาลเพียง 15 บาทเท่านั้น เพราะปัญหาว่าที่ดินพิพาทเป็นของใครนั้น เกิดขึ้นโดยคำฟ้องเดิมของโจทก์และข้อต่อสู้ของจำเลย อยู่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของการขาดนัดพิจารณาต่อจำเลยที่ฟ้องแย้ง: ถือว่าขาดนัดทั้งสองฐานะ
ในกรณีที่จำเลยได้ฟ้องแย้งด้วยนั้น จำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นโจทก์ฟ้องแย้งอีกฐานะหนึ่ง ฉะนั้นเมื่อจำเลยถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณาก็ย่อมถือได้ว่า จำเลยขาดนัดทั้งสองฐานะ คือทั้งที่เป็นจำเลยและที่เป็นโจทก์ฟ้องแย้ง
of 76