คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลดโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 919 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายระหว่างกลุ่มคู่ขัดแย้ง ศาลลดโทษฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนาแต่ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็นปรปักษ์คู่ต่อสู้กัน จำเลยเป็นพรรคพวกผู้ตายฝ่ายหนึ่ง ได้เข้าต่อสู้กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งกับพรรคพวกโดยใจสมัครเพราะมีการท้าทายกันก่อน รูปคดีไม่แน่ว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่ากัน จำเลยบางคนต่างวิ่งมาช่วยในที่เกิดเหตุ จำเลยกระทำหนักมือบ้าง เบามือบ้าง ควรวางโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
จำเลยคนหนึ่งมีไม้ตะบองส่วนจำเลยคนอื่นมีขวานและมีดซุย แต่บาดแผลของผู้ตายล้วนแต่บาดแผลเรียบ แพทย์ลงความเห็นว่า ถูกของแข็งมีคมไม่มีรอยถูกแผลตี ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยนั้นได้ใช้ไม้ตะบองตีผู้ตายด้วย
บิดาจำเลยสมัครใจต่อสู้ และทำร้ายกับผู้ตาย จำเลยเข้าช่วยบิดาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่าทำโดยป้องกันบิดาไม่ได้ เพราะบิดาจำเลยเป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจศาลในการลดโทษจำเลยที่ไม่ได้อุทธรณ์ในคดีกระทำผิดร่วมกัน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันขนย้ายข้าวโดยมิได้รับอนุญาตรายเดียวกัน และเป็นการกระทำผิดร่วมกันในกรณีอันหนึ่งอันเดียวกัน มิใช่เป็นเหตุส่วนตัวของแต่ละคน ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาลดโทษปรับตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ด้วย เพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีตามความหมายใน ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 213.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลลดโทษจำเลยที่ไม่ได้อุทธรณ์ในคดีร่วมกันกระทำผิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันขนย้ายข้าวโดยมิได้รับอนุญาตรายเดียวกัน และเป็นการกระทำผิดร่วมกันในกรณีอันหนึ่งอันเดียวกัน มิใช่เป็นเหตุส่วนตัวของแต่ละคน ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาลดโทษปรับตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ด้วย เพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีตามความหมายใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณลดโทษตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ต้องคิดจากโทษที่เหลืออยู่จากการลดครั้งก่อน ไม่ใช่จากโทษเดิม
การคำนวณลดโทษตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเกี่ยวกับลักษณะโทษนั้น ต้องถือกำหนดโทษที่กำหนดไว้ในคำพิพากษาแต่เมื่อกำหนดโทษตามคำพิพากษาได้ลดลงตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ คงเหลือเท่าใดแล้ว กำหนดโทษที่เหลืออยู่นั้น ก็ต้องถือเป็นกำหนดโทษหรือเกณฑ์ของโทษที่จะต้องรับอาญาต่อไป ถ้ามีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษต่อมาให้ลดโทษ ก็จะลดโทษจากกำหนดโทษซึ่งได้ลดมาจากคราวก่อน และคงเหลืออยู่นั้นจะถือตามโทษเดิมคงที่อยู่ไม่ได้เพราะได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาจากการป้องกันตัวเกินสมควร: ลดหย่อนผ่อนโทษได้
ผู้ตายถูกแทงที่รักแร้ลึกเข้าปอด และที่ลิ้นปี่ลึกเข้าช่องท้องอันตรายแก่กะเพาะอาหารเป็นบาดแผลถูกแทงโดยแรง ผู้แทงย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ถูกแทงจะต้องตายเป็นธรรมดา และผู้ตายก็ล้มลงและขาดใจตายหน้าห้องจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยแสดงว่าเจตนาฆ่า มีผิดตามมาตรา 249
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำ ทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา 50,53.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาจากการป้องกันเกินสมควร การลดโทษจากเหตุทำอนาจาร
ผู้ตายถูกแทงที่รักแร้ลึกเข้าปอด และที่ลิ้นปี่ลึกเข้าช่องท้องอันตรายแก่กระเพาะอาหารเป็นบาดแผลถูกแทงโดยแรงผู้แทงย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ถูกแทงจะต้องตายเป็นธรรมดา และผู้ตายก็ล้มลงและขาดใจตายหน้าห้องจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลย แสดงว่าเจตนาฆ่ามีผิดตามมาตรา 249
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา50,53 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายเกินสมควรแก่เหตุเพื่อป้องกันตัว ศาลลดโทษจากที่ศาลอุทธรณ์แก้ไข
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายเพื่อป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256,50,53,59 จำคุก 15 วันศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามมาตรา 256 จำคุก 5 ปี ดังนี้ เป็นการแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยถูกยั่วโทสะในคดีทำร้ายถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษฐานยั่วโทสะ
จำเลยติดตามพบภรรยาจำเลยอยู่กับผู้ตาย จำเลยขอให้กลับ ภรรยาก็ยอมกลับ ผู้ตายถืออาวุธตามมาและพูดว่าจะฟันจำเลย จำเลยเลี่ยงเข้าไปในโรงนางส้มลิ้ม ผู้ตายยังขืนเข้าไปประจันหน้าจำเลยด้วยวิธีทวงหนี้ จำเลยใช้หนี้แล้ว ผู้ตายก็ยังไม่กลับ ทำให้ภรรยาจำเลยเลี่ยงไปจำเลยได้ทำร้ายผู้ตายในทันใดที่กลับจากตามภรรยาไม่พบ ดังนี้ การกระทำของจำเลยกระทำไปด้วยโทษะที่บรรดาลขึ้นจากกิริยาของผู้ตาย อันควรได้ลดโทษฐานยั่วโทษะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยถูกยั่วโทสะ ลดหย่อนผ่อนโทษฐานฆ่า
จำเลยติดตามพบภรรยาจำเลยอยู่กับผู้ตาย จำเลยขอให้กลับภรรยาก็ยอมกลับ ผู้ตายถืออาวุธตามมาและพูดว่าจะฟันจำเลย จำเลยเลี่ยงเข้าไปในโรงนางส้มลิ้ม ผู้ตายยังขืนเข้าไปประจันหน้าจำเลยด้วยวิธีทวงหนี้ จำเลยใช้หนี้แล้ว ผู้ตายก็ยังไม่กลับ ทำให้ภรรยาจำเลยเลี่ยงไป จำเลยได้ทำร้ายผู้ตายในทันใดที่กลับจากตามภรรยาไม่พบ ดังนี้การกระทำของจำเลยกระทำไปด้วยโทสะที่บันดาลขึ้นจากกิริยาของผู้ตาย อันควรได้ลดโทษฐานยั่วโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยบรรดาลโทสะจากเหตุลวนลามภรรยา ศาลลดโทษได้
ผู้เสียหายได้ไปลวนลามภรรยาจำเลย จำเลยจึงตามมาทำร้ายผู้เสียหาย ดังนี้ ฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบรรดาลโทษะ ควรลดโทษให้จำเลยตามมาตรา 55 ก.ม.ลักษณะอาญา.
of 92