พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1456/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์ vs. วิ่งราวทรัพย์: โจทก์ไม่ได้บรรยายองค์ประกอบความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ถูกต้อง
ต. กระชากกระเป๋าถือของผู้เสียหายที่คล้องไว้ที่ไหล่ขณะเดินอยู่บนทางเท้า เมื่อผู้เสียหายกับพวกร้องขอความช่วยเหลือและวิ่งไล่ตาม ต. วิ่งข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามและโยนกระเป๋าทิ้งกลางถนน แล้วขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยเป็นผู้ขับขี่หลบหนีไป ดังนี้ ต. มิได้ใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายที่จะเป็นองค์ประกอบให้เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์รูปเรื่องเป็นเรื่อง ต. ใช้กิริยาฉกฉายเอากระเป๋าบรรจุทรัพย์ของผู้เสียหายไปซึ่งหน้าอันเป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ หากแต่โจทก์มิได้บรรยายองค์ประกอบความผิดฐานนี้มา และคำขอท้ายฟ้องก็มิได้ขอให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ คงลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ เนื่องจากใช้กำลังหลังจากการลักทรัพย์ขาดตอน
คืนเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้เสียหายรู้ว่าได้มีคนร้ายลักกระบือของผู้เสียหายไป ผู้เสียหายกับพวกได้ออกติดตามไปเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร จึงทันจำเลยกับพวกที่ลักระบือกำลังจูงกระบือไป ผู้เสียหายกับพวกไม่ทราบว่าคนร้ายคนใดมีอาวุธปืนและใช้ยิงมาทางผู้เสียหาย 1 นัด ผู้เสียหายจึงยิงไปทางคนร้าย 1 นัด กระสุนปืนถูกคนร้ายคนหนึ่ง ทรายภายหลังว่าเป็นจำเลย การใช้กำลังประทุษร้ายได้เกิดขึ้นหลังจากการลักทรัพย์ได้ขาดตอนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ มิใช่ความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์แล้วเกิดการยิงต่อสู้ ศาลตัดสินเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ใช่ชิงทรัพย์
คืนเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้เสียหายรู้ว่าได้มีคนร้ายลักกระบือของผู้เสียหายไป ผู้เสียหายกับพวกได้ออกติดตามไป ผู้เสียหายกับพวกได้ออกติดตามไปเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร จึงทันจำเลยกับพวกที่ลักกระบือกำลังจูงกระบือไป ผู้เสียหายกับพวกไม่ทราบว่าคนร้ายคนใดมีอาวุธปืนและใช้ยิงมาทางผู้เสียหาย 1 นัด ผู้เสียหายจึงยิงไปทางคนร้าย 1 นัด กระสุนปืนถูกคนร้ายคนหนึ่ง ทราบภายหลังว่าเป็นจำเลย การใช้กำลังประทุษร้ายได้เกิดขึ้นหลังจากการลักทรัพย์ได้ขาดตอนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ มิใช่ความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินของนายจ้างและการลักทรัพย์: แม้มอบกุญแจไขตู้เก็บทรัพย์สินให้ลูกจ้าง ก็ไม่ได้หมายความว่ามอบการครอบครองให้
กล้องถ่ายภาพยนตร์เป็นของกรมรแรงงาน อยู่ในความรับผิดชอบดูแลรักษาของ ส. จำเลยเป็นลูกจ้างประจำ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ช่างภาพ ส.ได้มอบกุญแจตู้เหล็กเก็บกล้องถ่ายภาพยนตร์ให้จำเลยเก็บรักษา บางครั้ง ส.กับจำเลยไปถ่ายภาพให้กิจการของกรมแรงงาน บางครั้งจำเลยไปคนเดียว นำกล้องถ่ายภาพยนตร์ไปได้โดยไม่ต้องรายงาน ส. แต่เสร็จราชการแล้วต้องนำไปเก็บไว้ที่เดิม ถ้าเสร็จงานเมื่อหมดเวลาราชการ จำเลยนำไปไว้ที่บ้านได้ วันเปิดทำงานก็นำเอาไปเก็บที่เดิม เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่า ส.ได้มอบการครอบครองกล้องถ่ายภาพยนตร์ให้แก่จำเลย จำเลยเอากล้องถ่ายภาพยนตร์ไปโดยเจตนาทุจริต ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินของนายจ้างโดยลูกจ้าง และเจตนาทุจริตในการลักทรัพย์
กล้องถ่ายภาพยนตร์เป็นของกรมแรงงาน อยู่ในความรับผิดชอบดูแลรักษาของ ส. จำเลยเป็นลูกจ้างประจำ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ช่างภาพ ส. ได้มอบกุญแจตู้เหล็กเก็บกล้องถ่ายภาพยนตร์ให้จำเลยเก็บรักษา บางครั้ง ส. กับจำเลยไปถ่ายภาพในกิจการของกรมแรงงาน บางครั้งจำเลยไปคนเดียว นำกล้องถ่ายภาพยนตร์ไปได้โดยไม่ต้องรายงาน ส. แต่เสร็จราชการแล้วต้องนำไปเก็บไว้ที่เดิม ถ้าเสร็จงานเมื่อหมดเวลาราชการ จำเลยนำไปไว้ที่บ้านได้ วันเปิดทำงานก็นำเอาไปเก็บที่เดิมเช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่า ส. ได้มอบการครอบครองกล้องถ่ายภาพยนตร์ให้แก่จำเลย จำเลยเอากล้องถ่ายภาพยนตร์ไปโดยเจตนาทุจริต ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2431/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการลักทรัพย์: เจตนาทุจริตและการแบ่งหน้าที่ชัดเจนบ่งชี้ความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนที่จะลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย ได้ว่าจ้างรถยนต์แท๊กซี่ไปด้วยกัน เมื่อถึงสถานที่ที่จะลงมือลักทรัพย์ก็แบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ที่ 3 คอยอยู่ในรถใกล้ ๆ บ้ายผู้เสียหาย จำเลยที่ 3 นั่งคู่กับคนขับ บอกให้เลื่อนรถไปข้างหน้าอีก 1 ช่วงเสาไฟฟ้า ในลักษณะคุมคนขับให้คอบรับจำเลยที่ 1 กับทรัพย์ที่ลักมา เมื่อจำเลยที่ 1 ลักทรัพย์มาได้แล้วก็ขึ้นรถและจำเลยที่ 3 บอกให้ขับรถหนีไป ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันลักทรัพย์รายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2431/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์, การร่วมกระทำความผิด, พฤติการณ์สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนที่จะลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย ได้ว่าจ้างรถยนต์แท็กซี่ไปด้วยกัน เมื่อถึงสถานที่ที่จะลงมือลักทรัพย์ก็แบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ที่ 3คอยอยู่ในรถใกล้ๆ บ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 3 นั่งคู่กับคนขับบอกให้เลื่อนรถไปข้างหน้าอีก 1 ช่วงเสาไฟฟ้า ในลักษณะคุมคนขับให้คอยรับจำเลยที่ 1 กับทรัพย์ที่ลักมา เมื่อจำเลยที่ 1 ลักทรัพย์มาได้แล้วก็ขึ้นรถและจำเลยที่ 3 บอกให้ขับรถหนีไปถือได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันลักทรัพย์รายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ที่ขาดตอน การถืออาวุธข่มขู่หลังพาทรัพย์ไปแล้ว ไม่ถึงแก่ความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยลักไก่ 4 ตัวไปจากบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายชวนเพื่อนบ้านออกติดตามไป 1 ชั่วโมงเศษ ถึงกระท่อมนาซึ่งอยู่ห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 100 เส้น คนละหมู่บ้านกัน พบเข่งไก่กับไก่ 4 ตัวอยู่ในกระท่อม จำเลยนั่งอยู่ใกล้เข่งไก่ ผู้เสียหายเข้าไปถามจำเลย จำเลยลุกขึ้นยืนถือเหล็กแหลมจ้องมาทางผู้เสียหายกับพวก ผู้เสียหายกับพวกจึงช่วยกันจับจำเลยไว้ ดังนี้ เมื่อจำเลยถือเหล็กแหลมจ้องขู่ผู้เสียหายนั้น การลักทรัพย์ของจำเลยขาดตอนไปแล้ว ไม่ใช่อยู่ในระหว่างพาทรัพย์ไป การขู่จะทำร้ายเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลัง มิได้ต่อเนื่องในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ที่ขาดตอนไปแล้ว ไม่ถึงขั้นชิงทรัพย์ เพราะการขู่เกิดขึ้นภายหลัง
จำเลยลักไก่ 4 ตัวไปจากบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายชวนเพื่อนบ้านออกติดตามไป 1 ชั่วโมงเศษ ถึงกระท่อมนาซึ่งอยู่ห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 100 เส้น คนละหมู่บ้านกัน พบเข่งไก่กับไก่ 4 ตัวอยู่ในกระท่อม จำเลยนั่งอยู่ใกล้เข่งไก่ ผู้เสียหายเข้าไปถามจำเลย จำเลยลุกขึ้นยืนถือเหล็กแหลมจ้องมาทางผู้เสียหายกับพวก ผู้เสียหายกับพวกจึงช่วยกันจับจำเลยไว้ ดังนี้ เมื่อจำเลยถือเหล็กแหลมจ้องขู่ผู้เสียหายนั้น การลักทรัพย์ของจำเลยขาดตอนไปแล้ว ไม่ใช่อยู่ในระหว่างพาทรัพย์ไป การขู่จะทำร้ายเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลัง มิได้ต่อเนื่องในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2398/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การช่วยเหลือจำหน่ายทรัพย์ที่ได้มาจากการลักทรัพย์เข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร
จำเลยรู้แล้วว่ารถจักรยานยนต์ของเจ้าทรัพย์ถูกคนร้ายลักไปและจำเลยเป็นคนติดต่อเรียกค่าไถ่จากเจ้าทรัพย์จนได้มีการไถ่รถคันดังกล่าวคืนมา ทั้งนี้โดยไม่ปรากฏว่าเจ้าทรัพย์ขอร้องให้จำเลยช่วย และจำเลยเป็นคนรับเงินค่าไถ่ไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นการช่วยเหลือคนร้ายจำหน่ายทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 แล้ว