คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลชั้นต้น

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 926 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเกินกรอบข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในกรณีที่ศาลแขวงวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้กระทำการเรี่ยไรตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องและสั่งไม่ริบเงินของกลางโดยไม่ฟังว่าได้มาจากการทำผิดนั้น โจทก์อุทธรณืเฉพาะให้ริบเงินของกลาง ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้ให้ริบเงินของกลางโดยถือว่าเป็นของได้มาจากการทำผิดไม่ได้เพราะเท่ากับเป็นการฟังข้อเท็จจริงใหม่ ผิดจากที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 194

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาแก้ของศาลอุทธรณ์ต้องไม่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย
ในกรณีที่ศาลแขวงพิพากษาว่า จำเลยไม่ได้กระทำการเรี่ยไรตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องและสั่งไม่ริบเงินของกลาง ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้ให้ริบเงินของกลางโดยถือว่าเป็นของได้มาจากการกระทำผิดไม่ได้เพราะเท่ากับเป็นการฟังข้อเท็จจริงใหม่ผิดจากที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 194

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องสอดในชั้นอุทธรณ์ฎีกาต้องเป็นประเด็นที่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้น การตั้งประเด็นใหม่ทำไม่ได้
มีส่วนได้เสียเพราะเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์ที่จำเลยทำยอมความโอนให้โจทก์ไปและศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ดังนี้ จะร้องสอดเข้ามาในคดีเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์และฎีกาในอายุความอุทธรณ์ฎีกาเพื่อทำลายสัญญายอมความไม่ได้ เพราะเหตุที่ผู้ร้องยกขึ้นอุทธรณ์เป็นการตั้งประเด็นใหม่ ไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้น จึงขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างพยานเพิ่มเติมระหว่างสืบพยาน: ศาลชั้นต้นรับคำแถลงโดยไม่ต้องทำเป็นคำร้อง หากไม่มีการโต้แย้ง
ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน คดีอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำแถลงระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำแถลงขออ้างพยานเพิ่มเติม โดยไม่ได้ทำเป็นคำร้อง และศาลชั้นต้นยอมรับคำแถลง ไม่มีใครโต้ประเด็นเถียงข้อนี้ขึ้นมาก็ต้องถือว่าการอ้างพยานเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขัดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างพยานเพิ่มเติมโดยไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ศาลชั้นต้นรับพยานได้ หากไม่มีการโต้แย้ง
ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อนคดีอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำแถลงขออ้างพยานเพิ่มเติมโดยไม่ได้ทำเป็นคำร้อง และศาลชั้นต้นยอมรับคำแถลง ไม่มีใครโต้ประเด็นเถียงข้อนี้ขึ้นมา ก็ต้องถือว่าการอ้างพยานเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขัดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับฟัง เนื่องจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง และข้อเท็จจริงแตกต่างกัน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริง แม้จะฟังข้อเท็จจริงต่างกันก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกในคดีหมิ่นประมาท และการพิพากษาคดีที่ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 98 จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษให้จำคุก 5 ปี เป็นการเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม & การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา: จำเลยต้องใช้วิธีการปกติคืออุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่ร้องขอให้ศาลดำเนินการให้
การที่จำเลยขวนขวายจะให้ได้ คำรับรองเพื่อฎีกา เป็นการรับอยู่ในตัวว่าจำเลยเห็นด้วยกับศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของจำเลย เพราะต้องห้ามตามกฎหมาย กรณีจึงไม่เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 ซึ่งให้ร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
เมื่อไม่ต้องด้วยบทบัญญัติให้ร้องตรงมายังศาลฎีกา อีกทั้งยังไม่มีการรับฎีกาอันจะถือได้ว่า คดีได้ขึ้นสู่ศาลฎีกาแล้ว หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้น จำเลยก็มีแต่ทางจะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลไม่ต้องส่งฎีกาให้รับรอง การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา
การที่จำเลยขวนขวายจะให้ได้คำรับรองเพื่อฎีกา เป็นการรับอยู่ในตัวว่าจำเลยเห็นด้วยกับศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของจำเลย เพราะต้องห้ามตามกฎหมาย กรณีจึงไม่เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 ซึ่งให้ร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
เมื่อไม่ต้องด้วยบทบัญญัติให้ร้องตรงมายังศาลฎีกา อีกทั้งยังไม่มีการรับฎีกาอันจะถือได้ว่าคดีได้ขึ้นสู่ศาลฎีกาแล้ว หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้นจำเลยก็มีแต่ทางจะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการนำสืบพยานในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดียวกัน ศาลฎีกาเห็นชอบกับลำดับเดิมที่ศาลชั้นต้นสั่ง
คดีอาญามูลกรณีเดียวกัน ซึ่งผู้ว่าคดีฯ ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยสำนวนหนึ่งฐานทะเลาะวิวาทกับนายเจียวไซกับพวกในที่สาธารณสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 แล้ว โจทก์ยื่นฟ้องนายเจียวไซ กับพวกเป็นจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย โจทก์ถึงอันตรายตามมาตรา 295 ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาโดยให้ผู้ว่าคดี ฯ ในสำนวนแรกนำสืบก่อน นั้น จะสั่งให้จำเลยในสำนวนหลังซึ่งเป็นพยานของผู้ว่าคดีฯ สำนวนแรกนำสืบในฐานะเป็นจำเลยในสำนวนหลังไปเลยทีเดียว แล้วจึงให้โจทก์คดีนี้นำสืบทีหลังในฐานะเป็นโจทก์คดีนี้และเป็นจำเลยคดีแรกด้วยไม่ได้ไม่ชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 174
of 93