พบผลลัพธ์ทั้งหมด 938 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการฉ้อโกง: ผู้เสียหายคือใคร แม้ทรัพย์สินเป็นของนิติบุคคล
จำเลยได้หลอกหลวงขอซื้อน้ำอัดลมไปจากหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด แล้วไม่ยอมชำระราคากลับปฏิเสธว่า ไม่ได้มาติดต่าขอซื้อน้ำอัดลม ดังนี้ ถือได้ว่าผู้จัดการนั้นเป็นผู้เสียหาย เพราะเป็นผู้ถูกหลอกหลวงส่วนน้ำอัดลมจะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัหรือไม่ หาเป็นเหตุกระทำให้ผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่แล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายแล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องฉ้อโกงและเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนถึงเจตนาทุจริตและข้อเท็จจริงที่สำคัญ
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาจะขายนาให้จำเลย โดยโจทก์จำเลยคบคิดกันจะกันไม่ให้ทายาทอื่นฟ้องแบ่งเอานารายนี้จากโจทก์ต่อมาจำเลยกลับฟ้องโจทก์ ให้โอนนาให้จำเลยตามสัญญาที่ทำขึ้น แล้วจำเลยอ้างหนังสือนั้นเป็นพยานและเบิกความเท็จว่าได้จ่ายเงินให้โจทก์หมดแล้ว ไม่ได้หักไว้ 2000 บาทตามที่เป็นจริง ดังนี้ ยังไม่เป็นฟ้องอันจะเป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 155 หรือ 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารที่ไม่ชัดเจนถึงองค์ประกอบความผิด ทำให้ศาลยกฟ้อง
ฟ้องหาว่า จำเลยฉ้อโกงและปลอมหนังสือ แต่ตามฟ้องไม่ปรากฎว่าจำเลยเอาข้อความเท็จมาหลอกลวงเมื่อวันเวลาใดเป็นแต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าว แล้วบรรยายต่อไปว่าจำเลยเขียนเช็คฉบับใด ลงวันเดือนปี ให้ผู้มีชื่อ ๆ นำเช็คนั้นมามอบให้โจทก์เมื่อวันใดก็ไม่บอกในฟ้อง และทั้งในฟ้องก็ไม่บรรยายว่าจำเลยทำผิดฐานปลอมหนังสือนั้นทำอย่างไร เป็นแต่โจทก์บอกมาในฟ้องว่า โจทก์นำเช็ค 3 ฉบับไปขอรับเงินที่ธนาคาร ๆ ว่าเงินไม่พอจ่าย จึงคืนเช็คเพียงเท่านี้ เป็นฟ้องที่ยังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารต้องระบุรายละเอียดการกระทำความผิดชัดเจน
ฟ้องหาว่า จำเลยฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยเอาข้อความเท็จมาหลอกลวงเมื่อวันเวลาใด เป็นแต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าว แล้วบรรยายต่อไปว่าจำเลยเขียนเช็คฉบับใดลงวันเดือนปี ให้ผู้มีชื่อ ผู้มีชื่อนำเช็คนั้นมามอบให้โจทก์เมื่อวันใดก็ไม่บอกในฟ้อง และทั้งในฟ้องก็ไม่บรรยายว่าจำเลยทำผิดฐานปลอมหนังสือนั้นทำอย่างไร เป็นแต่โจทก์บอกมาในฟ้องว่า โจทก์นำเช็ค 3 ฉบับไปขอรับเงินที่ธนาคาร ธนาคารว่าเงินไม่พอจ่ายจึงคืนเช็คเพียงเท่านี้เป็นฟ้องที่ยังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในความผิดฉ้อโกง: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนถึงเจตนาและความเสียหายที่เกิดขึ้น
ความผิดฐานฉ้อโกงนั้นต้องประกอบด้วยเจตนาทุจริตถ้าในฟ้องไม่บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตและไม่บรรยายด้วยข้อความอันรัดกุมเพียงพอให้ได้ความว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตแล้ว ฟ้องนั้นก็ไม่เป็นฟ้องอันจะลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 304 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฉ้อโกง ฟ้องไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องไม่เป็น
ความผิดฐานฉ้อโกงนั้นต้องประกอบด้วยเจตนาทุจริต ถ้าในฟ้องไม่บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต และไม่บรรยายด้วยข้อความอันรัดกุมเพียงพอให้ได้ความว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตแล้ว ฟ้องนั้นก็ไม่เป็นฟ้องอันจะลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงและการมีส่วนร่วมในวัตถุประสงค์ผิดกฎหมายทำให้ขาดอำนาจร้องทุกข์
การที่ผู้เสียหายตกลงจะซื้อธนบัตรปลอมจากจำเลยแม้จะเป็นโดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี ก็เป็นความตกลงที่มีวัตถุประสงค์จะกระทำผิดกฎหมาย มิได้เป็นไปด้วยความสุจริต จะถือว่าตนเป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายมิได้ ฉะนั้นพนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีอันเนื่องจากคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายเช่นนี้ มาว่ากล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยสมคบกันหลอกลวงผู้เสียหายให้จำนองทรัพย์สินที่จำนองไปแล้ว ศาลฎีกาให้รอการลงอาญาผู้ต้องหาที่เป็นหญิงมีบุตรเล็ก
ผู้ที่รับจำนองร้านค้าไว้จนหลุดเป็นสิทธิของตน แล้วได้ร่วมคิดกับผู้จำนอง เอาร้านค้านั้นไปจำนองผู้เสียหายอีกและพูกรับรองว่า ร้านค้านั้นไม่ได้จำนองหรือขายฝากไว้กับผู้ใด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงรับจำนองไว้ และชำระเงินให้ผู้รับจำนองเดิม ดังนี้ ถือว่าผู้รับจำนองเดิมสมคบกับผู้จำนองฉ้อโกงผู้เสียหาย
ดุลยพินิจในการรอการลงอาญาจำเลยที่เป็นหญิงมีบุตรอ่อน
ดุลยพินิจในการรอการลงอาญาจำเลยที่เป็นหญิงมีบุตรอ่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยร่วมกันหลอกลวงจำนองทรัพย์สินที่ตนมีสิทธิอยู่แล้ว ศาลให้รอการลงอาญาผู้หญิงมีบุตรอ่อน
ผู้ที่รับซื้อฝากร้านค้าไว้จนหลุดเป็นสิทธิของตนแล้วได้ร่วมคิดกับผู้ขายฝากเอาร้านค้านั้นไปจำนองผู้เสียหายอีกและพูดรับรองว่า ร้านค้านั้นไม่ได้จำนองหรือขายฝากไว้กับผู้ใด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงรับจำนองไว้ และชำระเงินให้ผู้รับซื้อฝาก ดังนี้ถือว่าผู้รับซื้อฝากสมคบกับผู้จำนองฉ้อโกงผู้เสียหาย
เมื่อโจทก์ถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีเอาโทษฐานฉ้อโกงแก่ผู้จำนองซึ่งกระทำผิดและปรากฏว่าผู้รับซื้อฝาก ซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยเป็นหญิงมีบุตรอ่อนเห็นควรให้รอการลงอาญาแก่ผู้รับซื้อฝากตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 41,42, ได้
เมื่อโจทก์ถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีเอาโทษฐานฉ้อโกงแก่ผู้จำนองซึ่งกระทำผิดและปรากฏว่าผู้รับซื้อฝาก ซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยเป็นหญิงมีบุตรอ่อนเห็นควรให้รอการลงอาญาแก่ผู้รับซื้อฝากตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 41,42, ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยเจตนาฉ้อโกง: การสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาเดิม
สัญญาจะขายที่ดินแก่เขาแล้วกลับเอาไปขายแก่คนอื่นเสียเมื่อปรากฎว่าคนซื้อภายหลังนี้ทราบอยู่ก่อนแล้วว่าผู้ขาย ได้ตกลงจะขายที่นี้แก่ผู้ซื้อคนแรก ทั้งตนเองก็ยังได้เคยขอซื้อต่อจากเขาแต่เขาไม่ขายให้เช่นนี้ดังนี้ย่อมฟังได้ว่าการซื้อขายรายหลังนี้เป็นการสมยอม เพื่อฉ้อโกงผู้ซื้อ ผู้ซื้อย่อมฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนนี้และบังคับให้ผู้ขายโอนขายที่นี้แก่เขากับให้ผู้ซื้อรายหลังใช้ค่าเสียหายแก่เขาอีกได้