คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำคดีแรงงาน: สัญญาประนีประนอมยอมความครอบคลุมค่าชดเชย
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์เคยฟ้องคดีนี้และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้ว และโต้เถียงข้อแถลงของโจทก์ที่ว่าจำเลยยินยอมจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบเมื่อโจทก์ไม่นำสืบ ข้อเท็จจริงก็รับฟังไม่ได้ตามที่โจทก์แถลง ดังนั้น การที่ศาลแรงงาน ฯ วินิจฉัยว่า จำเลยได้ให้คำมั่นกับโจทก์ว่าจะจ่ายค่าชดเชยให้ ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำจึงเป็นการไม่ชอบ
โจทก์เคยฟ้องเรียกสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าจ้างค้างจ่ายและเงินประกันคืน แล้วตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยว่า จำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์จำนวนหนึ่ง โจทก์ยอมตามที่จำเลยตกลงโดยไม่ติดใจเรียกร้องประโยชน์ใด ๆ และไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไปทั้งทางแพ่งและอาญาจากการเลิกจ้างนี้ ดังนี้ สิทธิเรียกร้องสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยต่างมีมูลมาจากการเลิกจ้างซึ่งโจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยจากจำเลยตั้งแต่จำเลยเลิกจ้างแล้ว ข้อความตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงมีผลรวมไปถึงโจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องค่าชดเชยด้วย การที่โจทก์มาฟ้องคดีนี้อีกจึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแบ่งสินสมรสซ้ำหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. ม.148
โจทก์จำเลยเคยมีคดีฟ้องร้องพิพาทกันเกี่ยวกับการแบ่งสินสมรสซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้แบ่งสินสมรสตามที่คู่ความตกลงประนีประนอมยอมความกัน และคดีถึงที่สุดไปแล้วการที่โจทก์กลับมาฟ้องขอแบ่งสินสมรสจากจำเลยอีก ไม่ว่าทรัพย์ในคดีนี้จะเป็นทรัพย์รายเดียวกันกับคดีก่อนหรือต่างรายกัน ก็ยังเป็นการฟ้องร้องในประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันอยู่นั่นเอง จึงต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. ม.148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3401/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาฎีกา: ฟ้องซ้ำ-ที่ดินพิพาทเดิม ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
ปัญหาว่าคำพิพากษาในคดีก่อนผูกพันคู่ความในคดีนี้หรือไม่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้และยกขึ้นเป็นประเด็นในชั้นอุทธรณ์ โดยกล่าวไว้ในคำแก้อุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยให้ จึงเป็นกรณีปรากฏเหตุที่ศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)ว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่ง ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวได้โดยไม่ต้องส่งสำนวนคืนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษา คดีก่อนโจทก์จำเลยพิพาทกันเฉพาะที่งอกริมตลิ่งของที่ดินโฉนดที่ 384 ศาลฎีกาพิพากษาคดีดังกล่าวว่านายชิตขายที่ดินให้โจทก์เฉพาะตามโฉนด ไม่ได้ขายที่พิพาทอันเป็นที่งอกให้แก่โจทก์ด้วย การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อ้างว่าเพิ่งทราบว่านายชิตมอบที่ดินให้ไม่ครบตามโฉนดจึงขอให้จำเลยสั่งมอบที่ดินให้ครบตามโฉนด แต่ในเนื้อหาของคำฟ้องยังบรรยายว่าหากมีที่งอกริมตลิ่งหน้าที่ดินโฉนดที่ 384 ก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์เมื่อนายชิตขายที่ดินนี้ให้โจทก์ก็มิได้สงวนสิทธิในที่งอกนั้นที่งอกจึงรวมอยู่ในที่ดินที่ซื้อขายด้วยขอให้บังคับจำเลยรื้อบ้านออกไปจากที่งอก แผนที่สังเขปท้ายฟ้องคดีนี้กับท้ายฟ้องคดีก่อนก็เหมือนกัน แสดงว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้เพื่อขอให้บังคับจำเลยส่งมอบที่พิพาทอันเป็นที่งอกที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้วนั้นแก่โจทก์อีกเช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกให้ถือว่าคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวผูกพันโจทก์จำเลย โจทก์จะกล่าวอ้างเป็นอย่างอื่นอีกดังเช่นคดีนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3116/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียวกัน แม้ผู้เสียหายเสียชีวิตภายหลัง ศาลยกฟ้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์เคยฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยและคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แม้ต่อมาผู้เสียหายถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยทำร้าย โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาซึ่งเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวกันในขณะที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้ เพราะถือว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)
(ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 3792/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3116/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียวกัน แม้มีการตายภายหลังคำพิพากษาเดิม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยและคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์แม้ต่อมาผู้เสียหายถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยทำร้าย โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาซึ่งเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวกันในขณะที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้เพราะถือว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)(ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 3792/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2882/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ-ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง: คดีค่าเลี้ยงดูที่อ้างเหตุต่างกัน ศาลไม่รับฎีกา
คดีเดิมโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเลี้ยงดูตามหนังสือสัญญาเช่นเดียวกับคดีนี้ แต่ขณะฟ้องโจทก์ยังพักอยู่ในบ้านพิพาท ศาลวินิจฉัยว่าเมื่อโจทก์ยังพักอยู่ในบ้านพิพาท โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาพิพากษายกฟ้อง ส่วนขณะฟ้องคดีนี้โจทก์อ้างว่าไม่ได้พักอยู่ในบ้านพิพาทแล้วจึงเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างเหตุขึ้นใหม่ แม้โจทก์จำเลยจะเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีเดิมฟ้องโจทก์ก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ขอให้จำเลยชำระค่าเลี้ยงดูเป็นเงิน 13,075 บาทกับให้จำเลยชำระต่อไปเป็นรายเดือนจนตลอดชีวิตของโจทก์เป็นคดีที่จำนวนทุนทรัพย์พิพาทไม่เกิน 20,000 บาท และเป็นการฟ้องตามสัญญาที่โจทก์จำเลยทำไว้ต่อกัน ไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง และข้อเท็จจริงนี้ยุติไปแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้นจำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2714/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นฟ้องซ้ำ: สัญญาใช้ทาง vs. ทางจำเป็น แม้ประเด็นต่างกันก็ไม่ถือว่าฟ้องซ้ำ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาที่จำเลยยินยอมจะให้โจทก์ใช้ถนนที่จำเลยสร้างขึ้นในที่ดินของจำเลย แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดทางจำเป็นในที่ดินของจำเลย จึงเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2714/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องบังคับเปิดทางจำเป็น ไม่เป็นฟ้องซ้ำ หากประเด็นต่างจากคดีก่อนที่อ้างสัญญา
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาที่จำเลยยินยอมจะให้โจทก์ใช้ถนนที่จำเลยสร้างขึ้นในที่ดินของจำเลย แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดทางจำเป็นในที่ดินของจำเลย จึงเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2710/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและการยุติของข้อหา: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อหาที่ยุติแล้ว แม้มีการอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์แต่เพียงฐานเดียว เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ ต้องถือว่าข้อหาฐานรับของโจรเป็นอันยุติไปแล้ว การที่จำเลยอุทธรณ์ในข้อหาฐานรับของโจรว่าเป็นฟ้องซ้ำจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีแต่อย่างใด ไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ เมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรอีกศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2519/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำคดีแรงงาน: การเรียกร้องเงินบำเหน็จหลังศาลตัดสินค่าชดเชย ศาลฎีกาวินิจฉัยสิทธิเรียกร้องเงินบำเหน็จ และดอกเบี้ย
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมขอให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงาน ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าบำเหน็จ ดังนี้ โจทก์มิได้ฟ้องคดีนี้โดยอาศัยเหตุและมิได้มีคำขอบังคับจำเลยเป็นอย่างเดียวกับคดีก่อนทั้งโจทก์ฟ้องคดีก่อนก็เพียงขอให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงาน โจทก์จึงไม่อาจมีคำขอให้จำเลยจ่ายเงินบำเหน็จด้วยได้ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ส่วนปัญหาที่ว่าโจทก์มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จและดอกเบี้ยจากจำเลยหรือไม่นั้น เมื่อศาลแรงงานกลางยังมิได้วินิจฉัยศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
of 146