พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1583/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้การยกให้เดิมไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นซึ่งรวมใจความได้ว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทให้แก่โจทก์ และโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตลอดมาเป็นเวลา 15-16 ปีแล้ว โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ ดังนี้ แม้จะยอมฟังตามข้อฎีกาของจำเลยว่าการที่จำเลยยกที่พิพาทให้โจทก์ มิได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่โจทก์ก็ยังได้สิทธิทางครอบครองมานานเกินกว่า 10 ปี เห็นได้ชัดว่าปัญหาข้อกฎหมายประการนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลย และไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้จำเลยกลับเป็นฝ่ายชนะคดีขึ้นมาได้ ศาลฎีกามีอำนาจไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1537/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว การครอบครองปรปักษ์ และอำนาจฟ้องคดีขับไล่
สามีเช่าเคหะ เมื่อสามีตาย ภริยาซึ่งอยู่ร่วมกันเช่าเป็นเคหะต่อไปดังนี้ เมื่อบุตรเลี้ยงซึ่งเป็นผู้อาศัยแสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อการครอบครองเคหะภริยาหรือมารดาเลี้ยงนั้นฟ้องขับไล่ได้
ข้ออ้างที่ว่าโจทก์มิได้บอกกล่าวเลิกสิทธิอาศัยก่อนฟ้องจึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยมิได้อ้างไว้ในศาลชั้นต้น จึงมาอ้างในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้
สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตายก็ย่อมระงับไป ไม่เป็นมรดกตกทอดไปยังทายาท
ข้ออ้างที่ว่าโจทก์มิได้บอกกล่าวเลิกสิทธิอาศัยก่อนฟ้องจึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยมิได้อ้างไว้ในศาลชั้นต้น จึงมาอ้างในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้
สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตายก็ย่อมระงับไป ไม่เป็นมรดกตกทอดไปยังทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองที่ดินพิพาทไม่ถือเป็นการครอบครอง สิทธิในที่ดินขึ้นอยู่กับการครอบครองที่แท้จริง
การที่โจทก์เอาที่พิพาททั้งหมดรวมเข้ากับที่ของโจทก์ไปจำนองกับสหกรณ์ ไม่เรียกว่าโจทก์ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการอ้างอายุความ 1 ปี: สิทธิของเจ้าของที่ดิน
เมื่อจำเลยไม่ได้ครอบครองที่พิพาทโดยอำนาจปรปักษ์จำเลยจะอ้างอายุความ 1 ปีมาใช้ยันโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองตึกสร้างใหม่: สัญญาการก่อสร้างกับเจ้าของที่ดิน
บริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างตึกรายพิพาทโดยทุนของบริษัทเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วตามสัญญา มีสิทธิที่จะกำหนดและเลือกตัวผู้เช่า เรียกเก็บเงินค่าช่วยก่อสร้างแต่โจทก์ไม่ได้เสียเงินช่วยก่อสร้างให้แก่จำเลย กลับไปเสียให้แก่ลูกจ้างคนเก่าของจำเลยที่ออกจากหน้าที่ไปแล้วซึ่งเป็นผู้ไม่มีสิทธิอะไรที่จะให้แก่โจทก์จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขัดขวางมิให้โจทก์เข้าอยู่ในตึกพิพาทได้ ไม่เป็นละเมิด เพราะจำเลยมีสิทธิตามสัญญาก่อสร้างที่จะครอบครองห้องพิพาทจนกว่าจะส่งมอบแก่เจ้าของที่ดินแม้จะถือว่าตึกซึ่งปลูกในที่ดินเป็นทรัพย์ส่วนควบของเจ้าของที่ดินแต่จำเลยก็ยังมีสิทธิตามสัญญาที่จะครอบครองตึกที่สร้างจนกว่าจะเลือกหาผู้เช่าได้เจ้าของที่ดินจะเอาตึกไปครอบครองเสียโดยลำพังหาได้ไม่ เมื่อเจ้าของที่ดินยังไม่มีสิทธิที่จะเอาตึกรายนี้ไปให้ผู้ใดเช่าโดยจำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมโจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะเข้าครอบครองตึกรายนี้สิทธิแห่งการครอบครองตามกฎหมายยังคงตกอยู่แก่ฝ่ายจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวมครอบครองปรปักษ์: ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนเจตนาการครอบครองก่อนจึงอ้างได้
ในกรณีที่บุคคลหลายคนมีชื่อยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเรียกว่าเจ้าของรวมนั้นย่อมมีอำนาจจัดการและครอบครองทรัพย์รวมกันและแทนกันได้ บุคคลใดยึดทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่เคยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่มีเจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป ตามป.พ.พ. ม.1381 ต่อแต่นั้นจึงจะยกอำนาจครอบครองปรปักษ์มาอ้างได้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการและครอบครองทรัพย์สินพิพาทไว้ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายรวมเวลาครอบครองเกินกว่า 10 ปี แต่ไม่ปรากฏเลยว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสองว่าจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือทรัพย์พิพาทจาการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ เมื่อเช่นนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาและอยู่ในครัวเรือนเดียวกันจึงยกอำนาจปรปักษ์อ้างแก่โจทก์ทั้งสองไม่ได้.
ข้อเท็จจริงได้ความว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการและครอบครองทรัพย์สินพิพาทไว้ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายรวมเวลาครอบครองเกินกว่า 10 ปี แต่ไม่ปรากฏเลยว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสองว่าจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือทรัพย์พิพาทจาการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ เมื่อเช่นนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาและอยู่ในครัวเรือนเดียวกันจึงยกอำนาจปรปักษ์อ้างแก่โจทก์ทั้งสองไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวม ครอบครองปรปักษ์ ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ
ในกรณีที่บุคคลหลายคนมีชื่ออยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเรียกว่าเจ้าของรวมนั้นย่อมมีอำนาจจัดการและครอบครองทรัพย์รวมกันและแทนกันได้บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่มีเจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ ครอบครองต่อไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1381 ต่อแต่นั้นจึงจะยกอำนาจครอบครองปรปักษ์มาอ้างได้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการและครอบครองทรัพย์สินพิพาทไว้ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายรวมเวลาครอบครองเกินกว่า 10ปีแต่ไม่ปรากฏเลยว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสองว่าจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือทรัพย์พิพาทจากการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ เมื่อเช่นนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาและอยู่ในครัวเรือนเดียวกันจึงยกอำนาจปรปักษ์อ้างแก่โจทก์ทั้งสองไม่ได้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการและครอบครองทรัพย์สินพิพาทไว้ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายรวมเวลาครอบครองเกินกว่า 10ปีแต่ไม่ปรากฏเลยว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสองว่าจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือทรัพย์พิพาทจากการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ เมื่อเช่นนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาและอยู่ในครัวเรือนเดียวกันจึงยกอำนาจปรปักษ์อ้างแก่โจทก์ทั้งสองไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในรถยนต์: การคุ้มครองเจ้าของตามกฎหมาย แม้มีการครอบครองโดยบุคคลภายนอก
ได้ความว่ารถยนต์พิพาทคดีนี้ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเป็นของโจทก์จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ฉะนั้นโจทก์จึงยกขึ้นยันบุคคลภายนอกรวมทั้งผู้ร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(2)เว้นแต่ผู้ร้องจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าหากผู้ร้องจะอ้างว่าตนได้ครอบครองรถยนต์อยู่จึงควรได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1303 ผู้ร้องก็จะต้องพิสูจน์ว่าตนได้การครอบครองนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตจึงจะมีสิทธิในรถยนต์พิพาทดีกว่าโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: การสืบพยานถึงเหตุแห่งการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยเพื่อพิสูจน์กรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยอาศัยขอให้ขับไล ่จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลยที่พิพาทเดิมเป็นของบรรพบุรุษของสามีจำเลยได้ครอบครองโดยสงบเปิดเผยตกทอดสืบมาจนถึงจำเลย
ดังนี้ชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบถึงนางเผื่อนว่า (มารดาสามีจำเลย) ได้เคยร้องคัดค้านเกี่ยวกับที่พิพาทไว้อย่างไรนั้นย่อมสืบได้ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะการสืบถึงเรื่องคัดค้านในกรณีนี้ก็คือการสืบถึงเหตุที่มาแห่งการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยนั้นเอง.
ดังนี้ชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบถึงนางเผื่อนว่า (มารดาสามีจำเลย) ได้เคยร้องคัดค้านเกี่ยวกับที่พิพาทไว้อย่างไรนั้นย่อมสืบได้ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะการสืบถึงเรื่องคัดค้านในกรณีนี้ก็คือการสืบถึงเหตุที่มาแห่งการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยนั้นเอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองลูกระเบิดของเจ้าพนักงาน: การกระทำนอกหน้าที่ราชการไม่ถือเป็นความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีลูกระเบิดไว้ในครอบครอง ศาลทั้ง 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาในข้อ ก.ม.ว่าการที่จำเลยนำเอาลูกระเบิดของกลางที่เก็บมาใช้คุกคามต่อ ความปลอดภัยต่อผู้อื่น (นำมาวางบนโต๊ะ)ของเพื่อนทำข้าราชการแล้วพูดว่าใครอวดดีก็มา) แม้จะกระทำในสถานที่ราชการนั้นเองก็หาอาจจะถือได้ว่เป็นการกระทำในหน้าที่ได้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เก็บรักษาลูกระเบิดของกลางนี้ ฎีกาของโจทก์จึงเห็นได้ว่าเป็นกรรมอีกอันหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกระเบิดของกลางตกอยู่ในครอบครองของจำเลยโดยชอบด้วย ก.ม.ข้อเท็จจริงนี้ศาล++ฟังมาซึ่ง++ความผิดต้องยกฎีกาโจทก์ พิพากษายืน.
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เก็บรักษาลูกระเบิดของกลางนี้ ฎีกาของโจทก์จึงเห็นได้ว่าเป็นกรรมอีกอันหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกระเบิดของกลางตกอยู่ในครอบครองของจำเลยโดยชอบด้วย ก.ม.ข้อเท็จจริงนี้ศาล++ฟังมาซึ่ง++ความผิดต้องยกฎีกาโจทก์ พิพากษายืน.