พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,012 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2407/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดที่ดินจากสัญญาประกัน: สิทธิของผู้ร้องกับเจ้าพนักงานบังคับคดี
ในคดีอาญา เมื่อผู้ประกันจำเลยผิดสัญญาประกันและศาลสั่งให้ขายทอดตลาดที่ดินของผู้ประกันเพื่อนำเงินมาชำระค่าปรับตามสัญญาประกันแล้ว การที่ผู้ประกันมาร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดเป็นเรื่องระหว่างผู้ประกันกับเจ้าพนักงานบังคับคดีเท่านั้น ผู้ประกันไม่มีสิทธิขอให้นำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 มาใช้บังคับแก่ผู้ที่ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีจำกัดเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดไม่มีสิทธิบังคับคดีแทนเจ้าหนี้
ผู้ร้องเป็นผู้รับซื้อที่ดินของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดเป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาขนย้ายเครื่องจักรออกจากที่ดินซึ่งผู้ร้องซื้อไว้ ผู้ร้องชอบที่ไปฟ้องร้องเป็นคดีต่างหาก จะใช้สิทธิขอบังคับในคดีนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการบังคับคดีของบุคคลภายนอกคดี ผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดไม่มีอำนาจบังคับจำเลย
ผู้ร้องยื่นคำแถลงต่อศาลว่า ศาลมีคำสั่งให้จำเลยขนย้ายเครื่องจักรออกจากที่ดินที่ผู้ร้องซื้อจากการขายทอดตลาดของศาลครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ขนย้าย ผู้ร้องจึงทำการขนย้ายเครื่องจักรออกไปฝากคลังสินค้า โดยผู้ร้องเสียค่าใช้จ่ายและค่าเช่าโกดังขอให้จำเลยชำระ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยปฏิบัติ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำสั่งศาลชั้นต้นให้ผู้ร้องรับผิดค่าใช้จ่ายในการขนย้ายเครื่องจักรและค่ารักษาที่ฝากคลังสินค้าถึงวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนค่ารักษาเครื่องจักรนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงวันรับเครื่องจักรคืนจากคลังสินค้าให้จำเลยรับผิดคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นการบังคับผู้ร้องและจำเลยให้ต้องรับผิดปฏิบัติตามคำสั่งและคำพิพากษาแต่ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นผู้ซื้อที่ดินได้จากการขายทอดตลาดของศาลหาใช่เป็นผู้มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยได้ไม่ เพราะผู้ร้องมิใช่คู่ความหรือบุคคลผู้เป็นฝ่ายชนะ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) แต่เป็นบุคคลภายนอกคดีไม่มีสิทธิบังคับคดีในคดีนี้ได้ เมื่อมีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้นระหว่างผู้ร้องกับจำเลย ผู้ร้องก็ชอบที่จะฟ้องจำเลยเป็นคดีต่างหากจากคดีเดิมจะใช้สิทธิขอบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้ ศาลชอบที่จะยกคำแถลงของผู้ร้องเสียแต่ต้นเมื่อตามกฎหมายผู้ร้องไม่มีอำนาจขอให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ได้แล้ว แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ให้ต้องรับผิดก็ตาม กรณีเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยให้จำเลยไม่ต้องรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการบังคับคดีของผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด: ผู้ซื้อไม่มีอำนาจบังคับจำเลยแทนเจ้าหนี้เดิม
ผู้ร้องยื่นคำแถลงต่อศาลว่า ศาลมีคำสั่งให้จำเลยขนย้ายเครื่องจักรออกจากที่ดินที่ผู้ร้องซื้อจากการขายทอดตลาดของศาล ครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ขนย้าย ผู้ร้องจึงทำการขนย้ายเครื่องจักรออกไปฝากคลังสินค้า โดยผู้ร้องเสียค่าใช้จ่ายและค่าเช่าโกดัง ขอให้จำเลยชำระ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยปฏิบัติ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำสั่งศาลชั้นต้นให้ผู้ร้องรับผิดค่าใช้จ่ายในการขนย้ายเครื่องจักรและค่ารักษาที่ฝากคลังสินค้าถึงวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนค่ารักษาเครื่องจักรนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงวันรับเครื่องจักรคืนจากคลังสินค้าให้จำเลยรับผิดคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นการบังคับผู้ร้องและจำเลยให้ต้องรับผิดปฏิบัติตามคำสั่งและคำพิพากษาแต่ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นผู้ซื้อที่ดินได้จากการขายทอดตลาดของศาลหาใช่เป็นผู้มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยได้ไม่ เพราะผู้ร้องมิใช่คู่ความหรือบุคคลผู้เป็นฝ่ายชนะ(เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) แต่เป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่มีสิทธิบังคับคดีในคดีนี้ได้.เมื่อมีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้นระหว่างผู้ร้องกับจำเลย ผู้ร้องก็ชอบที่จะฟ้องจำเลยเป็นคดีต่างหากจากคดีเดิม จะใช้สิทธิขอบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้ ศาลชอบที่จะยกคำแถลงของผู้ร้องเสียแต่ต้นเมื่อตามกฎหมายผู้ร้องไม่มีอำนาจขอให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ได้แล้ว แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ให้ต้องรับผิดก็ตาม กรณีเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยให้จำเลยไม่ต้องรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจดำเนินคดีของนิติบุคคลยังคงมีอยู่แม้ผู้แทนเสียชีวิต และการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดต้องเป็นไปตามเงื่อนไข
นิติบุคคลเป็นโจทก์มีผู้แทนนิติบุคคลเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งทนายความให้ดำเนินคดีแทนโจทก์ไว้แล้วในนามนิติบุคคล หาใช่แต่งตั้งเป็นส่วนตัว แม้ต่อมาผู้แทนนั้นถึงแก่อสัญกรรมไปแล้วการแต่งตั้งทนายเป็นผู้ดำเนินคดีแทนหาได้สิ้นสุดไปไม่ ทนายโจทก์ยังคงมีอำนาจดำเนินคดีต่อไปได้ (ตามนัยฎีกาที่ 480/2502)
การที่จำเลยซื้อเรือนได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลประกาศขายทอดตลาดมีเงื่อนไขอยู่ว่า ผู้ใดซื้อได้ให้รื้อไป จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้เช่าปลูกได้ต่อไปโดยมิได้มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือหาได้ไม่
การที่จำเลยซื้อเรือนได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลประกาศขายทอดตลาดมีเงื่อนไขอยู่ว่า ผู้ใดซื้อได้ให้รื้อไป จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้เช่าปลูกได้ต่อไปโดยมิได้มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สุจริตในการซื้อขายทอดตลาด: พิจารณาพฤติการณ์ก่อนและขณะซื้อได้
คำว่า โดยสุจริตของผู้ซื้อทรัพย์สินในการขายทอดตลาดของศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 นั้น หมายความว่า ผู้ซื้อไม่รู้ว่ามิใช่ทรัพย์ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลผู้ล้มละลาย และในการวินิจฉัยว่าผู้ซื้อสุจริตหรือไม่ย่อมอาศัยพฤติการณ์ต่างๆ ทั้งก่อนและในขณะซื้อประกอบกัน หาใช่ต้องพิจารณาเฉพาะแต่ในเวลาซื้อเท่านั้นไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์รู้มาแต่แรกก่อนเข้าประมูลซื้อแล้วว่าที่พิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดมิใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ย่อมฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อโดยสุจริตในการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริต ผู้ซื้อไม่ได้รับสิทธิในทรัพย์นั้น
คำว่า โดยสุจริตของผู้ซื้อทรัพย์สินในการขายทอดตลาดของศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 นั้น หมายความว่า ผู้ซื้อไม่รู้ว่ามิใช่ทรัพย์ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลผู้ล้มละลาย และในการวินิจฉัยว่าผู้ซื้อสุจริตหรือไม่ย่อมอาศัยพฤติการณ์ต่างๆ ทั้งก่อนและในขณะซื้อประกอบกัน หาใช่ต้องพิจารณาเฉพาะแต่ในเวลาซื้อเท่านั้นไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์รู้มาแต่แรกก่อนเข้าประมูลซื้อแล้วว่าที่พิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดมิใช่ของลูกหนี้ ตามคำพิพากษา ย่อมฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อโดยสุจริตในการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 และ 308 กรณีการขายทอดตลาดที่ถูกอ้างว่ามีเหตุสำคัญผิด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรค 2 เป็นบทบัญญัติที่ใช้บังคับ เฉพาะกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้ดำเนินการบังคับคดีไปในทางฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้บัญญัติไว้ในลักษณะ 2ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง เจ้าหนี้หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีจึงจะยกขึ้นเป็นเหตุอ้างเพื่อขอให้ศาลสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดได้จะยกเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากการกระทำของผู้อื่นมาอ้างไม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 เป็นบทบัญญัติที่บังคับให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ด้วยวิธีการขายทอดตลาดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 1 ส่วนที่ 3ว่าด้วยการขายทอดตลาด ไม่เกี่ยวกับบทบัญญัติลักษณะอื่น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 เป็นบทบัญญัติที่บังคับให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ด้วยวิธีการขายทอดตลาดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 1 ส่วนที่ 3ว่าด้วยการขายทอดตลาด ไม่เกี่ยวกับบทบัญญัติลักษณะอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296, 308 และผลของการกระทำของบุคคลภายนอกต่อการขายทอดตลาด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ใช้บังคับ เฉพาะกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้ดำเนินการบังคับคดีไปในทางฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้บัญญัติไว้ในลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง เจ้าหนี้หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีจึงจะยกขึ้นเป็นเหตุอ้างเพื่อขอให้ศาลสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดได้ จะยกเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากการกระทำของผู้อื่นมาอ้างไม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 เป็นบทบัญญัติที่บังคับให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ด้วยวิธีการขายทอดตลาดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 1 ส่วนที่ 3 ว่าด้วยการขายทอดตลาด ไม่เกี่ยวกับบทบัญญัติลักษณะอื่น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 เป็นบทบัญญัติที่บังคับให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ด้วยวิธีการขายทอดตลาดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 1 ส่วนที่ 3 ว่าด้วยการขายทอดตลาด ไม่เกี่ยวกับบทบัญญัติลักษณะอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
งดการบังคับคดี: ศาลไม่มีอำนาจสั่งงดหลังการขายทอดตลาดแล้ว การเพิกถอนการบังคับคดีต่างจากการงด
การขอให้งดขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้ก่อนเป็นเรื่องขอให้งดการบังคับคดีการงดการบังคับคดีนั้นงดได้เฉพาะการบังคับคดีที่ยังไม่ได้กระทำหรือที่จะกระทำต่อไป จะงดการบังคับคดีที่ได้ปฏิบัติมาแล้วมิได้
เมื่อจำเลยอุทธรณ์ขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ แต่ปรากฏว่าได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์ไปแล้วก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาดังนี้ ศาลอุทธรณ์หามีอำนาจที่จะสั่งให้งดการขายทอดตลาดอีกไม่จะพิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดรวมทั้งการขายทอดตลาดเสียนั้นก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นการงดการบังคับคดีแต่เป็นการเพิกถอนการบังคับคดี ซึ่งต่างประเด็นกัน
จำเลยอุทธรณ์เพียงแต่ขอให้ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ ไม่ได้ขอให้เพิกถอนการบังคับคดีโดยมีข้ออ้างว่าได้ปฏิบัติมาไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด ดังนี้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้เพิกถอนมิได้ เพราะเกินคำขอของจำเลยซึ่งเป็นโจทก์อุทธรณ์ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 ประกอบด้วยมาตรา 246
เมื่อจำเลยอุทธรณ์ขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ แต่ปรากฏว่าได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์ไปแล้วก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาดังนี้ ศาลอุทธรณ์หามีอำนาจที่จะสั่งให้งดการขายทอดตลาดอีกไม่จะพิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดรวมทั้งการขายทอดตลาดเสียนั้นก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นการงดการบังคับคดีแต่เป็นการเพิกถอนการบังคับคดี ซึ่งต่างประเด็นกัน
จำเลยอุทธรณ์เพียงแต่ขอให้ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ ไม่ได้ขอให้เพิกถอนการบังคับคดีโดยมีข้ออ้างว่าได้ปฏิบัติมาไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด ดังนี้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้เพิกถอนมิได้ เพราะเกินคำขอของจำเลยซึ่งเป็นโจทก์อุทธรณ์ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 ประกอบด้วยมาตรา 246