พบผลลัพธ์ทั้งหมด 938 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยเจตนาฉ้อโกง ผู้ซื้อรายแรกมีสิทธิฟ้องเพิกถอนนิติกรรมและการเรียกร้องค่าเสียหาย
สัญญาจะขายที่ดินแก่เขาแล้ว กลับเอาไปขายแก่คนอื่นเสีย เมื่อปรากฏว่า คนซื้อภายหลังนี้ทราบอยู่ก่อนแล้วว่าผู้ขายได้ตกลงจะขายที่นี้แก่ผู้ซื้อคนแรก ทั้งตนเองก็ยังได้เคยขอซื้อต่อจากเขา แต่เขาไม่ขายให้เช่นนี้ ดังนี้ย่อมฟังได้ว่าการซื้อขายรายหลังนี้ เป็นการสมยอมเพื่อฉ้อโกงผู้ซื้อ ผู้ซื้อย่อมฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนนี้ และบังคับให้ผู้ขายโอนขายที่นี้แก่เขา กับให้ผู้ซื้อรายหลังใช้ค่าเสียหายแก่เขาอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในความผิดฐานฉ้อโกง ไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้องโดยตรง หากพฤติการณ์ตามฟ้องแสดงเจตนาได้ชัดเจน
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นจะต้องปรากฎว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตอันเป็นองค์แห่งความผิดอยู่ด้วยแต่หาจำเป็นถึง กับจะต้องระบุถ้อยคำว่า มีเจตนาทุจริตลงในฟ้องโดยตรงเสมอไปไม่ หากฟ้องกล่าวข้อความซึ่งเมื่อพิเคราะห์ทั้งหมดมีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว ซึ่งทั้งนี้จะต้องพิเคราะห์ตามฟ้องเป็นเรื่อง ๆ ไป
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตซึ่งถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตซึ่งถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1395/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในความผิดฉ้อโกง ไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้องโดยตรง หากพฤติการณ์แสดงเจตนาหลอกลวงได้ชัดเจน
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นจะต้องปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตอันเป็นองค์แห่งความผิดอยู่ด้วย แต่หาจำเป็นถึงกับจะต้องระบุถ้อยคำว่า มีเจตนาทุจริตลงในฟ้องโดยตรงเสมอไปไม่ หากฟ้องกล่าวข้อความซึ่งเมื่อพิเคราะห์ทั้งหมดมีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว ซึ่งทั้งนี้จะต้องพิเคราะห์ตามฟ้องเป็นเรื่องๆ ไป
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ซึ่งถืว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ไม่มีคำว่าทุจริตในฟ้อง แต่มีความหมายพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริต ซึ่งถืว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยอ้างเจ้าพนักงาน: ผู้ใหญ่บ้านเรียกเงินจากลูกบ้านโดยเท็จ
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ใหญ่บ้านเรียกร้องเอาเงินจากลูกบ้าน 80 บาท โดยอ้างว่าเสมียนอำเภอใช้ให้ตนมาเอา เรื่องที่ลูกบ้านขอจับจองที่ดินและจับจองทับทางเดินถ้าไม่ให้เงินการจับจองจะไม่สำเร็จ ลูกบ้านหลงเชื่อว่าเสมียนอำเภอใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเอาเงินจริง จึงมอบเงิน 80 บาทแก่ผู้ใหญ่บ้านไป ซึ่งความจริงเสมียนอำเภอไม่ได้ใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเรียกเอาเงินจากลูกบ้านเลย ดังนี้ ผู้ใหญ่บ้านต้องมีความผิดฐานฉ้อโกง
ผู้ใหญ่บ้านเรียกร้องเอาเงินจากลูกบ้าน 80 บาท โดยอ้างว่าเสมียนอำเภอใช้ให้ตนมาเอา เรื่องที่ลูกบ้านขอจับจองที่ดินและจับจองทับทางเดินถ้าไม่ให้เงินการจับจองจะไม่สำเร็จ ลูกบ้านหลงเชื่อว่าเสมียนอำเภอใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเอาเงินจริง จึงมอบเงิน 80 บาทแก่ผู้ใหญ่บ้านไป ซึ่งความจริงเสมียนอำเภอไม่ได้ใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเรียกเอาเงินจากลูกบ้านเลย ดังนี้ ผู้ใหญ่บ้านต้องมีความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยอ้างเจ้าพนักงาน - ผู้ใหญ่บ้านเรียกเงินโดยไม่มีอำนาจ
ฟ้องฐานฉ้อโกงที่ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ใหญ่บ้านเรียกร้องเอาเงินจากลูกบ้าน 80 บาท โดยอ้างว่าเสมียนอำเภอใช้ให้ตนมาเอา เรื่องที่ลูกบ้านขอจับจองที่ดินและจับจองทับทางเดิน ถ้าไม่ให้เงินการจับจองจะไม่สำเร็จ ลูกบ้านหลงเชื่อว่าเสมียนอำเภอใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเอาเงินจริง จึงมอบเงิน 80 บาทแก่ผู้ใหญ่บ้านไปซึ่งความจริงเสมียนอำเภอไม่ได้ใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเรียกเอาเงินจากลูกบ้านเลย ดังนี้ ผู้ใหญ่บ้านต้องมีความผิดฐานฉ้อโกง
ผู้ใหญ่บ้านเรียกร้องเอาเงินจากลูกบ้าน 80 บาท โดยอ้างว่าเสมียนอำเภอใช้ให้ตนมาเอา เรื่องที่ลูกบ้านขอจับจองที่ดินและจับจองทับทางเดิน ถ้าไม่ให้เงินการจับจองจะไม่สำเร็จ ลูกบ้านหลงเชื่อว่าเสมียนอำเภอใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเอาเงินจริง จึงมอบเงิน 80 บาทแก่ผู้ใหญ่บ้านไปซึ่งความจริงเสมียนอำเภอไม่ได้ใช้ผู้ใหญ่บ้านมาเรียกเอาเงินจากลูกบ้านเลย ดังนี้ ผู้ใหญ่บ้านต้องมีความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องฉ้อโกง/ยักยอกขัดแย้งในตัวเอง ขาดองค์ความผิด
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเอาความเท็จ มาหลอกลวงผู้เสียหายว่าจะเอารถยนต์ซึ่งจำเลยเอามามอบให้ผู้เสียหายไว้เป็นประกันกู้ไปบรรทุกผลไม้เจ้าทุกข์หลงเชื่อ จึงมอบรถให้ไปหรือเจ้าทุกข์มอบรถยนต์ให้จำเลยโดยจำเลยยืมเอาไปรับจ้างบรรทุกผลไม้แล้วจะส่งคืน แล้วจำเลยจึงเอาไปขายเสีย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 304, 314 ดังนี้เป็นฟ้องที่บรรยายการกระทำของจำเลยขัดกันอยู่ในตัวและขาดองค์ความผิดฐานฉ้อฏดงและยักยอกเป็นฟ้อง ไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความขัดแย้งในการบรรยายฟ้องฉ้อโกงและยักยอก ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเอาความเท็จ มาหลอกลวงผู้เสียหายว่า จะเอารถยนต์ซึ่งจำเลยเอามามอบให้ผู้เสียหายไว้เป็นประกันเงินกู้ไปบรรทุกผลไม้ เจ้าทุกข์หลงเชื่อ จึงมอบรถให้ไปหรือเจ้าทุกข์มอบรถยนต์ให้จำเลยโดยจำเลยยืมเอาไปรับจ้างบรรทุกผลไม้แล้วจะส่งคืน แล้วจำเลยจึงเอาไปขายเสีย ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304,314 ดังนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายการกระทำของจำเลยขัดกันอยู่ในตัวและขาดองค์ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกงต้องระบุรายละเอียดความเท็จที่ชัดเจน มิฉะนั้นถือเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกงนั้น ถ้าในฟ้องมิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร หรือเพียงไหนแล้วก็ย่อมไม่อาจเป็นที่เข้าใจได้ว่าข้อความที่กล่าวนั้นเป็นเท็จทุกตอนทุกถ้อยคำจึงต้องถือว่าเป็นฟ้องที่ไม่ระบุความพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฉ้อโกงต้องระบุรายละเอียดความเท็จให้ชัดเจน มิฉะนั้นถือเป็นฟ้องที่ไม่ระบุความพอสมควร
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกงนั้น ถ้าในฟ้องมิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร หรือเพียงไหนแล้ว ก็ย่อมไม่อาจเป็นที่เข้าใจได้ว่าข้อความที่กล่าวนั้นเป็นเท็จทุกตอนทุกถ้อยคำ จึงต้องถือว่าเป็นฟ้องที่ไม่ระบุความพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องฉ้อโกงต้องชัดเจนถึงข้อความเท็จและข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ไม่ชอบ
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้นโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้สามารถเข้าใจได้ว่าจำเลยกล่าวเท็จในข้อใดบ้างและความ จริงเป็นอย่างไร มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ไมชอบด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)