คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้จัดการมรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จัดการมรดกให้เช่าทรัพย์มรดกก่อนโอนตามพินัยกรรม และสิทธิฟ้องผู้เช่าผิดสัญญา
ผู้ตายทำพินัยกรรมยกตึกพิพาทให้แก่มูลนิธิปรากฏว่าเมื่อผู้ตายถึงแก่กรรมจำเลยได้ทำสัญญาเช่าตึกดังกล่าวจากโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายตั้งแต่ก่อนโอนตึกให้แก่มูลนิธิตามพินัยกรรมกรณีเช่นนี้ถือว่าการจัดการทรัพย์มรดกยังไม่เสร็จสิ้นโจทก์ยังมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็นเพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรมเพื่อจัดการมรดกตามป.พ.พ.มาตรา1719ทั้งผู้ให้เช่าก็ไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ให้เช่าเมื่อผู้เช่าผิดสัญญาผู้ให้เช่าย่อมฟ้องผู้เช่าได้ กรณีผิดสัญญาเช่าจำนวนค่าเสียหายไม่จำต้องกำหนดตามอัตราค่าเช่าที่ทำกันไว้ในสัญญาเสมอไปศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามควรแก่พฤติการณ์แห่งความเป็นจริงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันคู่สัญญา แม้มีข้อพิพาทเรื่องผู้จัดการมรดก
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองตกลงร่วมกันจะชดใช้เงินให้โจทก์โดยจำเลยที่1จะออกเช็คจำเลยที่2ลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกันแล้วนำเช็คมาวางศาลเพื่อให้โจทก์ถอนตัวจากการเป็นผู้จัดการมรดกของป. โจทก์ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงแล้วส่วนจำเลยทั้งสองไม่นำเช็คมาวางศาลตามที่ตกลงกันเป็นข้อความแสดงสภาพแห่งข้อหาแล้วแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องตอนหนึ่งว่าจำเลยทั้งสองกระทำละเมิดทำให้โจทก์เสียหายก็ตามแต่เมื่อพิจารณาคำฟ้องรวมกันทั้งฉบับแล้วเห็นได้ว่าคำว่า"ละเมิด"ที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นความเข้าใจของโจทก์เองว่าการที่จำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามสัญญาเป็นการละเมิดอันเป็นการใช้ถ้อยคำผิดโจทก์แสดงอย่างแจ้งชัดว่าฟ้องจำเลยทั้งสองโดยอาศัยเหตุสัญญาคำฟ้องของโจทก์มิได้ขัดแย้งกันอันจะทำให้เกิดสับสนว่าเป็นเรื่องผิดสัญญาหรือละเมิดตามกฎหมายฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม ศาลได้มีคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของป. แล้วต่อมาจำเลยที่1ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกป. เช่นกันเมื่อโจทก์ยื่นคำคัดค้านคำร้องของผู้ร้องจำเลยที่1ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอถอนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกระบุว่าจำเลยที่1กับโจทก์ตกลงกันได้แล้วโดยจำเลยที่1ยอมจ่ายเงินให้โจทก์จำนวนหนึ่งเมื่อโจทก์ได้รับเงินแล้วโจทก์ไม่ติดใจเรียกหนี้สินหรือรับผิดหนี้สินจากกองมรดกหรือขอรับมรดกจากจำเลยที่1เมื่อโจทก์ยอมรับข้อเสนอดังกล่าวจำเลยที่1จึงถอนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายโดยโจทก์จะไปจัดการขอถอนคำสั่งศาลที่ตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายคำร้องดังกล่าวเป็นข้อเสนอของจำเลยที่1เมื่อศาลสอบโจทก์อันเป็นการปฏิบัติตามป.วิ.พ.มาตรา175(1)โจทก์ไม่คัดค้านการถอนคำฟ้อง(คำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก)ของจำเลยที่1และโจทก์ลงชื่อไว้เท่ากับโจทก์สนองรับข้อเสนอของจำเลยที่1ข้อความในคำร้องนั้นจึงเป็นสัญญาที่ผูกพันโจทก์กับจำเลยที่1เมื่อสัญญาดังกล่าวตกลงระงับข้อพิพาทที่จะมีขึ้นให้เสร็จไปจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามป.พ.พ.มาตรา850.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกต่อเนื่องจากผู้จัดการมรดกคนเดิม, การตีความพินัยกรรม, และสิทธิของผู้รับพินัยกรรม
ป.เป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ.ตามคำสั่งศาล จึงเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไว้แทนผู้รับพินัยกรรม ป.ตายขณะที่ยังไม่ได้แบ่งทรัพย์มรดก จำเลยเข้าเป็นผู้จัดการมรดกของ ป.ตามคำสั่งศาลโดยระบุรายการทรัพย์สินต่าง ๆ ของ ป.ไว้เป็นอย่างเดียวกับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของ ฉ. จึงถือว่าจำเลยครอบครองทรัพย์มรดกของ ฉ. สืบต่อจาก ป. และตามคำฟ้องแสดงว่าโจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวด้วย มิใช่ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ ป.แต่ประการเดียว ดังนี้ เมื่อโจทก์เป็นทายาทผู้มีสิทธิตามพินัยกรรมของ ฉ.ด้วยผู้หนึ่ง ได้ทวงถามจำเลยให้แบ่งปันทรัพย์มรดกแล้ว จำเลยปฏิเสธ สิทธิของโจทก์จึงถูกโต้แย้ง โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย
พินัยกรรมข้อ 4 ระบุว่า ป.ผู้เดียวมีสิทธิในทรัพย์สินของผู้ทำพินัยกรรมแต่ให้บุตรคนอื่น ๆ ถือประโยชน์ได้บ้าง และเมื่อ ป.ถึงแก่กรรมลงให้จัดการแบ่งทรัพย์สินดังต่อไปนี้ เว้นแต่ข้อ 4.10 ให้จัดการทันที และความในข้อต่อๆ ไปกล่าวถึงการยกทรัพย์สินให้บุคคลอื่น ๆ แต่ละคนไว้อย่างละเอียดรวมทั้งการยกให้แก่ ป.ด้วย และความในข้อ 4.10 กล่าวถึงการแบ่งทรัพย์สินให้แก่บุคคลต่างๆ ไว้ยกเว้น ป. ดังนี้หากผู้ทำพินัยกรรมประสงค์จะยกทรัพย์สินให้ ป. แต่ผู้เดียวก็ไม่จำเป็นต้องระบุข้อความดังกล่าวซ้ำอีก พินัยกรรมดังกล่าวตีความได้ว่า เมื่อ ป.ถึงแก่กรรมลงจึงให้มีการแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาททั้งหลาย ระหว่างที่ ป.ยังมีชีวิตอยู่ ให้ทรัพย์มรดกยังคงรวมกันอยู่เท่านั้น หาใช่มีความหมายเลยไปถึงขนาดที่ว่าให้ทรัพย์มรดกทั้งหมดตกได้แก่ ป.แต่ผู้เดียวไม่
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์ตามพินัยกรรม 2 รายการ แต่ทรัพย์ 2 รายการนี้ไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องขอจัดการมรดกของจำเลย และจำเลยให้การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ว่าไม่ใช่เป็นของผู้ทำพินัยกรรม ดังนี้ ปัญหาว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่ เมื่อโจทก์อ้างว่าเป็นมรดก โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบ.
ศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกอันเป็นอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ประเภทที่มิใช่ตัวเงิน ความรับผิดของจำเลยมีเพียงหนี้ที่จะต้องแบ่งทรัพย์มรดกที่มิใช่หนี้เงิน จำเลยจึงไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในสินสมรส vs. พินัยกรรม: อำนาจถอนผู้จัดการมรดกเมื่อพินัยกรรมขัดแย้งกับสิทธิในสินสมรส
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินส่วนตัวของตนทั้งหมดให้แก่ผู้อื่นซึ่งรวมทั้งทรัพย์สินซึ่งผู้ร้องอ้างว่าเป็นสินสมรสรวมอยู่ด้วย ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก มีสิทธิในสินสมรสกึ่งหนึ่งซึ่งเจ้ามรดกจะทำพินัยกรรมยกให้แก่ผู้ใดไม่ได้ แม้คดีจะไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์สินตามพินัยกรรมจะมีสินสมรสเป็นส่วนของผู้ร้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ ก็ถือได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียที่จะขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกได้ ดังนั้นผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้.
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกโดยอาศัยข้ออ้างว่ามีส่วนได้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรก แต่เมื่อเจ้ามรดกทำพินัยกรรมฉบับหลังเพิกถอนพินัยกรรมฉบับแรกทั้งฉบับทำให้ผู้คัดค้านไม่ได้รับทรัพย์มรดกเลย ทั้งภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีบุตรกับเจ้ามรดกก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกรายนี้อยู่แล้ว กรณีถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่จะถอนผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในสินสมรสกรณีพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ผู้อื่น ผู้มีส่วนได้เสียมีอำนาจขอถอนผู้จัดการมรดก
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินส่วนตัวของตนทั้งหมดให้แก่ผู้อื่นซึ่งรวมทั้งทรัพย์สินซึ่งผู้ร้องอ้างว่าเป็นสินสมรสรวมอยู่ด้วยผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกมีสิทธิในสินสมรสกึ่งหนึ่งซึ่งเจ้ามรดกจะทำพินัยกรรมยกให้แก่ผู้ใดไม่ได้แม้คดีจะไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์สินตามพินัยกรรมจะมีสินสมรสเป็นส่วนของผู้ร้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ก็ถือได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียที่จะขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกได้ดังนั้นผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องขอถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้. ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกโดยอาศัยข้ออ้างว่ามีส่วนได้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรกแต่เมื่อเจ้ามรดกทำพินัยกรรมฉบับหลังเพิกถอนพินัยกรรมฉบับแรกทั้งฉบับทำให้ผู้คัดค้านไม่ได้รับทรัพย์มรดกเลยทั้งภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีบุตรกับเจ้ามรดกก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกรายนี้อยู่แล้วกรณีถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่จะถอนผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1727.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดก และการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกร่วม
เมื่อปรากฏในคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก และในคำคัดค้านของพนักงานอัยการว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกและทายาทบางคนมีจิตฟั่นเฟือนไม่สามารถจัดการมรดกได้ พนักงานอัยการผู้คัดค้านจึงมีอำนาจคัดค้านคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกและมีอำนาจขอให้ศาลตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการคัดค้านและเสนอผู้จัดการมรดก กรณีมีเหตุขัดข้องและทายาทไร้ความสามารถ
เมื่อปรากฏในคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก และในคำคัดค้านของพนักงานอัยการว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกและทายาทบางคน มีจิตฟั่นเฟือนไม่สามารถจัดการมรดกได้ พนักงานอัยการผู้คัดค้าน จึงมีอำนาจคัดค้านคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก และมีอำนาจขอให้ศาลตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4045/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ, อายุความมรดก, อำนาจฟ้อง, ผู้จัดการมรดก: ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีก่อนผู้พิทักษ์เป็นโจทก์ฟ้องคดีแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถขอแบ่งมรดกของผู้เสมือนไร้ความสามารถ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง โดยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เสมือนไร้ความสามารถเพราะเป็นเพียงผู้พิทักษ์ มีอำนาจหน้าที่เพียงแต่ให้ความยินยอมหรือไม่แก่ ผู้เสมือนไร้ความสามารถเท่านั้น ผู้เสมือนไร้ความสามารถคือ โจทก์ในคดีนี้จึงมาเป็นโจทก์ฟ้องคดีเองโดยได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ย่อมไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อน และศาลอุทธรณ์ในคดีนี้ ไม่จำต้องพิพากษาคดีตามศาลอุทธรณ์ในคดีก่อน เพราะคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ในคดีก่อนย่อมสิ้นผลโดยคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อน ดังนั้นศาลอุทธรณ์คดีนี้จึงย่อมพิพากษากลับกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีก่อนได้
ทรัพย์มรดกของบิดาโจทก์จำเลยเป็นทรัพย์มรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปัน และต่างได้ร่วมกันปกครองทรัพย์มรดกดังกล่าวตลอดมาจนมารดาโจทก์ จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกและศาลแพ่งได้มีคำสั่งตั้งมารดาโจทก์ จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ต้องถือว่าทรัพย์มรดกอยู่ในระหว่างจัดการ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1736 อายุความจึงสะดุดหยุดลง ตั้งแต่นั้นมา โจทก์มาฟ้องขอแบ่งมรดกเมื่อเกิน 10 ปี นับแต่เจ้ามรดก ถึงแก่ความตาย คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3936/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกยังไม่เสร็จสิ้น แม้มีสัญญาประนีประนอม เพราะมีทายาทที่ไม่ได้ลงนาม การเพิกถอนผู้จัดการมรดกจึงไม่ชอบ
ในการร้องขอสั่งถอนผู้จัดการมรดก เมื่อการแบ่งปันทรัพย์มรดก ยังมีปัญหาข้อแย้งกันอยู่ว่าจะแบ่งตามคำพิพากษาหรือตาม สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งทายาทบางคนลงชื่อ ทั้งการแบ่งทั้ง 2 ประการก็ผูกพันเฉพาะทายาทบางคนที่เป็นคู่ความ ตามคำพิพากษาและทายาทที่ลงชื่อในสัญญา การจัดการมรดก จึงยังไม่เสร็จสิ้นผู้จัดการมรดกจะต้องรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปัน ให้แก่ทายาทซึ่งมิได้เป็นคู่ความตามคำพิพากษาและมิได้ลงชื่อเป็น คู่กรณีในสัญญาประนีประนอมยอมความ การที่จะสั่งถอนผู้จัดการมรดก ในขณะนี้จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3936/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกยังไม่เสร็จสิ้นแม้มีสัญญาประนีประนอม ผู้จัดการมรดกต้องรวบรวมทรัพย์สินให้ทายาทที่ไม่ได้ลงชื่อ
ในการร้องขอสั่งถอนผู้จัดการมรดก เมื่อการแบ่งปันทรัพย์มรดก ยังมีปัญหาข้อแย้งกันอยู่ว่าจะแบ่งตามคำพิพากษาหรือตาม สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งทายาทบางคนลงชื่อ ทั้งการ แบ่งทั้ง 2 ประการก็ผูกพันเฉพาะทายาทบางคนที่เป็นคู่ความ ตามคำพิพากษาและทายาทที่ลงชื่อในสัญญาการจัดการมรดก จึงยังไม่เสร็จสิ้นผู้จัดการมรดกจะต้องรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปัน ให้แก่ทายาทซึ่งมิได้เป็นคู่ความตามคำพิพากษาและมิได้ลงชื่อเป็น คู่กรณีในสัญญาประนีประนอมยอมความการที่จะสั่งถอนผู้จัดการมรดก ในขณะนี้จึงไม่ชอบ
of 111