พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับเขตพิพาทจากการทำแผนที่กลาง: การสืบพยานนอกประเด็นหรือไม่
ฟ้องว่าจำเลยรุกที่หมาย 1,2 จำเลยสู้ว่าที่หมาย 1 เป็นของจำเลยหาได้โต้แย้งถึงที่หมาย 2 ด้วยไม่เมื่อทำแผนที่แล้วปรากฏว่าภายในเส้นสีแดงเป็นที่พิพาท (ซึ่งมีเขตพิพาทล้ำเข้ามาในที่หมาย 2) ซึ่งคู่ความก็รับว่าถูกต้องดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าคู่ความยอมรับกันว่าเขตที่พิพาทคือภายในเส้นสีแดงนั่นเองจำเลยนำสืบได้หาใช่เป็นการสืบนอกประเด็นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สภาพห้องพิสูจน์เจตนาเช่า การค้าเป็นหลัก ศาลไม่จำเป็นต้องสืบพยานเพิ่มเติม
สภาพของห้องเป็นพยานสำคัญว่า ใช้เป็นเคหะหรือไม่ศาลเผชิญสืบแล้ว จำเลยขอสืบพยานบุคคลว่า ตามสภาพเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยนั้นเป็นแต่ความเห็น ศาลมีอำนาจงดเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง, สัญญาเช่าหมดอายุ, และการสืบพยานนอกประเด็น
การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ในคดีมโนสาเร่นั้นต่างกับการรับรองให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงจึงถือว่าศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์เป็นการรับรองให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงด้วยไม่ได้
ฟ้องขับไล่จำเลยจากห้องเช่า เลข 638 ฑ ได้ความว่าจำเลยเช่าห้องเลข 638 ฑ1 ซึ่งจำเลยรับในรายงานพิจารณาว่า ห้องที่จำเลยเช่า คือห้องที่พิพาทกันปัญหาเรื่องนอกฟ้องจึงตกไป
สัญญาเช่าห้อง ซึ่งมีกำหนดเวลาแน่นอนย่อมระงับลงตามสัญญาโดยไม่ต้องบอกเลิก.
ฟ้องขับไล่จำเลยจากห้องเช่า เลข 638 ฑ ได้ความว่าจำเลยเช่าห้องเลข 638 ฑ1 ซึ่งจำเลยรับในรายงานพิจารณาว่า ห้องที่จำเลยเช่า คือห้องที่พิพาทกันปัญหาเรื่องนอกฟ้องจึงตกไป
สัญญาเช่าห้อง ซึ่งมีกำหนดเวลาแน่นอนย่อมระงับลงตามสัญญาโดยไม่ต้องบอกเลิก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหักล้างเอกสารในคดีอาญา และการสอบสวนจากหนังสือกล่าวโทษ
ในคดีอาญาคู่ความมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบประกอบเพื่อแสดงว่า เอกสารที่อ้างอิงนั้นไม่ถูกต้องตรงกับความจริงได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 122 มิใช่เป็นบทห้ามเด็ดขาดมิให้พนักงานสอบสวนสอบสวนตามหนังสือกล่าวโทษเป็นบัตรสนเท่ห์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 122 มิใช่เป็นบทห้ามเด็ดขาดมิให้พนักงานสอบสวนสอบสวนตามหนังสือกล่าวโทษเป็นบัตรสนเท่ห์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพรางสัญญาฝาก: ศาลอนุญาตให้โจทก์สืบพยานเพื่อพิสูจน์นิติกรรมที่ซ่อนเร้นได้
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งได้ขายให้แก่จำเลยบางส่วนแต่ได้โอนชื่อทางทะเบียนเป็นชื่อจำเลยเป็นเจ้าของทั้งแปลงส่วนของโจทก์ที่ยังเหลือโจทก์ฝากจำเลยไว้ เพราะการแบ่งแยกโฉนดไม่สะดวก ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์บรรยายฟ้องได้ความชัดแล้วว่าเป็นเรื่องนิติกรรมอำพราง เป็นเรื่องทำสัญญาขายอำพรางสัญญาฝาก โจทก์จึงมีสิทธินำสืบถึงนิติกรรมที่อำพรางไว้ได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2498)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานใหม่เพื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริงหลังทำลายหลักฐานคดีอาญา
จำเลยหลบหนีเรือนจำไปโดยไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มากว่า 10 ปีแล้วจึงจับจำเลยได้ปรากฏว่าสำนวนทำลายเสียหมดคงเหลือแต่ฟ้องและคำพิพากษาเท่านั้นไม่อาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยใหม่เพื่อศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยต่อไปก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684-1685/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างเอกสารปลอมบางส่วนและการสืบพยานเพื่อหักล้างสัญญา
เมื่อจำเลยกล่าวอ้างว่าหนังสือสัญญายืมเงินที่โจทก์ฟ้องเป็นเอกสารปลอมบางส่วนคือส่วนที่ระบุจำนวนเงินที่กู้ยืมนั้น จำเลยย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย รูปคดีหาใช่เป็นเรื่องสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารอันต้องห้ามตามมาตรา94 วรรค(ข) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงของนิติกรรมและการสืบพยานในคดีที่อ้างนิติกรรมอำพราง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กู้เงิน ฮ..ฮ. ให้โจทก์ทำสัญญาเป็นขายที่ดินให้ ฮ. ตกลงกันว่าโจทก์ใช้เงินกู้คืนแล้วฮ. โอนที่ดินคืนให้ โจทก์ใช้เงินแล้ว ฮ.ตายเสียกอนโอน จำเลยกลับอ้างว่า เป็นหุ้นส่วนเจ้าของที่ดินร่วมกับ ฮ. โจทก์จึงขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ ดังนี้ โจทก์นำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเอกสารสัญญาขายที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาจริงของนิติกรรมและการสืบพยานหลักฐานเพื่อหักล้างข้อความในเอกสารสัญญา
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กู้เงิน ฮ..ฮ. ให้โจทก์ทำสัญญาเป็นขายที่ดินให้ ฮ. ตกลงกันว่าโจทก์ใช้เงินกู้คืนแล้วฮ. โอนที่ดินคืนให้ โจทก์ใช้เงินแล้ว ฮ.ตายเสียกอนโอน จำเลยกลับอ้างว่า เป็นหุ้นส่วนเจ้าของที่ดินร่วมกับ ฮ. โจทก์จึงขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ ดังนี้ โจทก์นำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเอกสารสัญญาขายที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีแพ่งเมื่อจำเลยขาดนัด และการเพิกถอนการสืบพยาน: สิทธิในการขอพิจารณาใหม่
จำเลยหลายคนขาดนัดยื่นคำให้การทุกคน แต่ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยคนหนึ่งมาศาล ศาลสืบพยานโจทก์ไป แต่แล้วต่อมาได้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สืบพยานโจทก์นับเสีย นัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ถึงวันนัดจำเลยทุกคนไม่มาศาล ศาลจึงสืบพยานโจทก์และพิพากษาคดีกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย วิ.แพ่ง ม.204 จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตาม ม.202,207 วรรคแรก