คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ครอบครองปรปักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการครอบครองปรปักษ์ต้องยกขึ้นเป็นข้ออ้างโดยตรงในคำฟ้อง หากมิได้ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินเป็นของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์ ศาลไม่สามารถพิพากษาให้ได้
การครอบครองปรปักษ์จะเกิดมีขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์ยืนยันว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ขอให้ศาลห้ามจำเลยเกี่ยวข้องโดยโจทก์มิได้ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์เลย จำเลยให้การว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินจำเลย คดีจึงมีประเด็นที่โต้เถียงกันแต่เพียงว่าที่พิพาทเป็นของฝ่ายใดเท่านั้น ไม่มีประเด็นเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์ด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทซึ่งโจทก์ครอบครองมากว่า 10 ปี แล้วอยู่ในเขตที่ดินตราจองของจำเลยซึ่งจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ ศาลก็จะพิพากษาให้ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ เพราะเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน: โจทก์ต้องตั้งรูปคดีชัดเจน หากอ้างกรรมสิทธิ์เดิม ศาลไม่สามารถพิพากษาให้ได้มาจากการครอบครองปรปักษ์
การครอบครองปรปักษ์จะเกิดมีขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์ยืนยันว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ขอให้ศาลห้ามจำเลยเกี่ยวข้องโดยโจทก์มิได้ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์เลยจำเลยให้การว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินจำเลย คดีจึงมีประเด็นที่โต้เถียงกันแต่เพียง ว่าที่พิพาทเป็นของฝ่ายใดเท่านั้น ไม่มีประเด็นเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์ด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทซึ่งโจทก์ครอบครองมากว่า 10 ปีแล้วอยู่ในเขตที่ดินตราจองของจำเลยซึ่งจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ ศาลก็จะพิพากษาให้ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ เพราะเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการขาดสิทธิฟ้องร้องเรียกคืนที่ดินเนื่องจากระยะเวลาเกินกำหนด
เดิมมารดาโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทและเป็นผู้แจ้งการครอบครองโจทก์จำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต่อมาได้เลิกร้างแล้วต่างไปมีภรรยาและสามีใหม่ แต่จำเลยและบุตรทำกินในที่พิพาท เมื่อมารดาโจทก์ตายแล้วจำเลยยังทำกินต่อมาและแจ้งเสียภาษีบำรุงท้องที่อ้างว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย การที่โจทก์แจ้งความหาว่าสามีใหม่จำเลยบุกรุกที่พิพาทและจำเลยอ้างต่อตำรวจว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยแสดงให้เห็นว่าโจทก์ทราบดีว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองที่พิพาทตั้งแต่โจทก์แจ้งความแล้ว โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกินกำหนด 1 ปีโจทก์จึงขาดสิทธิฟ้องร้องเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219-1222/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์หลังการยกที่ดินให้บุตร โดยมีอาณาเขตชัดเจน
เมื่อปรากฏว่าโจทก์และสามีโจทก์ยกที่ดินมีโฉนดให้แก่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นบุตร และยอมให้จำเลยทั้งสองเข้าทำกินมาประมาณ 20 ปีโดยมีอาณาเขตเป็นส่วนสัด ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยความสงบและโดยเปิดเผย จำเลยทั้งสองจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนที่ตนครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และใช้ยันโจทก์ได้แม้ในการยื่นคำร้องขอต่อศาลขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท จำเลยทั้งสองจะมิได้แจ้งให้โจทก์ทราบ และกล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นคนหลงใหลสติฟั่นเฟือน กับใช้วิธีขอให้ศาลประกาศทางหนังสือพิมพ์ ก็ไม่ทำให้สิทธิของจำเลยทั้งสองเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219-1222/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์หลังการยกให้บุตร การครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของย่อมทำให้ได้กรรมสิทธิ์
เมื่อปรากฏว่าโจทก์และสามีโจทก์ยกที่ดินมีโฉนดให้แก่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นบุตร และยอมให้จำเลยทั้งสองเข้าทำกินมาประมาณ 20 ปีโดยมีอาณาเขตเป็นส่วนสัด ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยความสงบและโดยเปิดเผย จำเลยทั้งสองจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนที่ตนครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และใช้ยันโจทก์ได้ แม้ในการยื่นคำร้องขอต่อศาลขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท จำเลยทั้งสองจะมิได้แจ้งให้โจทก์ทราบ และกล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นคนหลงใหลสติฟั่นเฟือน กับใช้วิธีขอให้ศาลประกาศทางหนังสือพิมพ์ ก็ ไม่ทำให้สิทธิของจำเลยทั้งสองเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนแปลงฐานการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
จำเลยให้การว่า จำเลยกับสามีเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 และ มาตรา 1375 แต่จำเลยอุทธรณ์ว่า ก. บุตรโจทก์เบิกความว่า ขณะจำเลยปลูกบ้านเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โจทก์ไปทวงค่าที่ดิน จำเลยไม่ยอมให้และท้าให้โจทก์ไปฟ้อง เห็นชัดว่าจำเลยโต้เถียงสิทธิครอบครองว่าที่พิพาทเป็นของตนตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวร โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี คดีขาดอายุความ ดังนี้ ตามคำให้การจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยต่อสู้คดีว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทมาแต่ต้นจนเกิน 1 ปี แล้ว แต่จำเลยอุทธรณ์เป็นทำนองว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวรในที่พิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้นั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนแปลงข้อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์เป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวในศาลชั้นต้น
จำเลยให้การว่า จำเลยกับสามีเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 และ มาตรา 1375แต่จำเลยอุทธรณ์ว่า ก. บุตรโจทก์เบิกความว่า ขณะจำเลยปลูกบ้านเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โจทก์ไปทวงค่าที่ดินจำเลยไม่ยอมให้และท้าให้โจทก์ไปฟ้อง เห็นชัดว่าจำเลยโต้เถียงสิทธิครอบครองว่าที่พิพาทเป็นของตนตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวร โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีคดีขาดอายุความดังนี้ ตามคำให้การจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยต่อสู้คดีว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทมาแต่ต้นจนเกิน 1 ปีแล้วแต่จำเลยอุทธรณ์เป็นทำนองว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวรในที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้นั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ vs. สิทธิจากการซื้อขายโดยสุจริต: ผลกระทบจากการจดทะเบียน
แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทเป็นเวลากว่า 10 ปี ด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท แต่สิทธิของจำเลยยังมิได้มีการจดทะเบียน จึงต้องห้ามมิให้ยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจาก อ. โดยสุจริตและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทไว้จาก อ. โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง จึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ และการที่ศาลกำหนดประเด็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือจำเลยนั้นย่อมครอบคลุมไปถึงปัญหาที่ว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์ vs. สิทธิจากการซื้อขายโดยสุจริตและจดทะเบียน: การคุ้มครองบุคคลภายนอก
แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทเป็นเวลากว่า 10 ปีด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท แต่สิทธิของจำเลยยังมิได้มีการจดทะเบียน จึงต้องห้ามมิให้ยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจาก อ. โดยสุจริตและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทไว้จาก อ. โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง จึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่และการที่ศาลกำหนดประเด็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือจำเลยนั้นย่อมครอบคลุมไปถึงปัญหาที่ว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และเขตที่ดิน: ศาลต้องวินิจฉัยการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง หากจำเลยได้กรรมสิทธิ์จริง การไม่รับรองแนวเขตย่อมไม่ถือเป็นการใช้สิทธิโดยมิชอบ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยต่างเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดที่มีเขตติดต่อกันจำเลยคัดค้านการรังวัดสอบเขตโดยมิชอบ จำเลยให้การว่าสามีจำเลยซื้อที่ดินมาจากบุคคลภายนอก ด้านที่ติดกับที่ดินโจทก์มีรั้วพู่ระหงตลอดแนว สามีจำเลยและจำเลยได้ครอบครองที่ดินตามแนวรั้วต้นพู่ระหงอย่างสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกิน 10 ปี แล้ว จำเลยเห็นว่าโจทก์ชี้เขตที่ดินรุกล้ำที่ดินที่จำเลยครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์แล้วจึงไม่ยอมรับรองดังนี้ คำให้การของจำเลยมิได้ยืนยันว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของจำเลยแต่อ้างว่าได้ครอบครองที่ดินถึงแนวรั้วต้นพู่ระหงจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว แม้ศาลชั้นต้นจะกำหนดประเด็นไว้แต่เพียงว่าจำเลยขัดขวางไม่ยอมรับรองเขตที่ดินของโจทก์โดยมิชอบหรือไม่ แต่การวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวก็ต้องวินิจฉัยว่า ข้อต่อสู้ของจำเลยรับฟังได้หรือไม่ หากจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองจริง การที่จำเลยไม่รับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ซึ่งรังวัดรวมเอาที่พิพาทไว้ด้วยจะถือว่าจำเลยใช้สิทธิโดยมิชอบหาได้ไม่ จึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยเรื่องการครอบครองที่ดินตามข้อต่อสู้ของจำเลย
of 138