พบผลลัพธ์ทั้งหมด 886 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงเท็จต่อศาลและเติมข้อความในคำฟ้องหลังศาลสั่งไม่รับฟ้อง ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล
ฟ้องเดิมระบุมาตราที่ขอให้ลงโทษจำเลยเพียงมาตรา 314 ครั้น ศาลตรวจฟ้องมีคำสั่งให้ยกฟ้องเสียโจทก์อุทธรณ์ และได้มีการบังอาจเดิมมาตรา 304 ลงในคำขอท้ายฟ้องในสำนวนที่อยู่ในความดูแลรักษาของศาล ศาลเรียกทนายโ่จทก์และผู้เขียนฟ้อง เดิมมาสอบถาม คนทั้ง 2 ยังยืนยันแถลงเท็จต่อศาลว่ามีมาตรา 304 ในฟ้องเดิมก่อนแล้ว โดยไม่มีความเคราพยำเกรง-ศาล ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาล ดังนี้ ต้องถือว่าได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลได้แล้ว แม้ไม่ได้กระทำลงตอ่หน้าศาล ก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนวจศาลได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงเท็จต่อศาลและการละเมิดอำนาจศาล กรณีเติมข้อหาในคำฟ้องภายหลัง
ฟ้องเดิมระบุมาตราที่ขอให้ลงโทษจำเลยเพียงมาตรา 314 ครั้นศาลตรวจฟ้องมีคำสั่งให้ยกฟ้องเสียโจทก์อุทธรณ์และได้มีการบังอาจเติมมาตรา 304 ลงในคำขอท้ายฟ้องในสำนวนที่อยู่ในความดูแลรักษาของศาลศาลเรียกทนายโจทก์และผู้เขียนฟ้องเดิมมาสอบถาม คนทั้ง 2 ยังยืนยันแถลงเท็จต่อศาลว่ามีมาตรา 304 ในฟ้องเดิมก่อนแล้วโดยไม่มีความเคารพยำเกรง ศาลทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาลดังนี้ ต้องถือว่าได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลได้แล้ว แม้ไม่ได้กระทำลงต่อหน้าศาลก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานความผิดสมคบร่วมกันกระทำความผิดอาญา ต้องไม่เกินกรอบคำฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดอาญา จำเลยคนหนึ่งรับสารภาพ แต่อีกคนหนึ่งปฏิเสธ โจทก์จะขอสืบพยานว่าจำเลยคนที่ปฏิเสธได้สมคบกับจำเลยที่รับสารภาพกระทำความผิดอาญานั้นก็ได้ เฉพาะในความหมายของการสมคบในนัยที่ว่า จำเลยนั้นได้ลงมือกระทำผิดตามฟ้องนั้นเอง เพราะคำว่าสมคบนั้นเป็นคำที่มีความหมายกว้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำฟ้องอาญา: การลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงนอกประเด็นฟ้องเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีธนาบัตรปลอมโดยรู้อยู่ไว้เพื่อจำหน่ายขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.203 ,204 นั้นเป็นฟ้องที่ขาดเกณฑ์โทษตาม ม.204 แม้ข้อเท็จจริงโจทก์จะนำสืบว่าจำเลยใช้ธนาบัตรปลอมโดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมก็ลงโทษจำเลยตาม ม.204 ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงนอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำฟ้องอาญา: การลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงนอกฟ้องเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีธนบัตรปลอมโดยรู้อยู่ไว้เพื่อจำหน่ายขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 203,204 นั้นเป็นฟ้องที่ขาดเกณฑ์โทษตาม มาตรา 204 แม้ข้อเท็จจริงโจทก์จะนำสืบว่าจำเลยใช้ธนบัตรปลอมโดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม ก็ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 204 ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงนอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น vs. ภาระจำยอม: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยทางจำเป็นได้ แม้ฟ้องอ้างภาระจำยอม เหตุผลไม่เกินคำฟ้อง
ฟ้องให้จำเลยเปิดทางอ้างว่าเป็นทางภารจำยอมซึ่งได้มาทางนิติกรรมและเป็นทางจำเป็นด้วย เพราะที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมศาลชั้นต้นให้จำเลยเปิดภารจำยอมศาลอุทธรณ์เห็นว่าไม่ใช่ทางภารจำยอมก็พิพากษาให้เปิดทางในฐานเป็นทางจำเป็นได้ ไม่นอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดสินคดีเกินคำฟ้องและคำขอ ขัดต่อหลักการในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรุกที่ดินของโจทก์ทางทิศเหนือ ขอให้ขับไล่ ศาลพิพากษาว่าจำเลยรุกที่ของโจทก์ทางทิศตะวันตกของที่โจทก์ และให้ขับไล่จำเลย ดังนี้ เป็นการตัดสินเกินคำฟ้องและคำขอของโจทก์ เพราะโจทก์ทางทิศตะวันตกเลย จึงเป็นการฝ่าฝืน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดสินคดีเกินคำฟ้อง: การรุกที่ดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรุกที่ดินของโจทก์ทางทิศเหนือ ขอให้ขับไล่ศาลพิพากษาว่าจำเลยรุกที่ของโจทก์ทางทิศตะวันตกของที่โจทก์และให้ขับไล่จำเลย ดังนี้ เป็นการตัดสินเกินคำฟ้องและคำขอของโจทก์เพราะโจทก์มิได้ฟ้องว่า จำเลยรุกที่ของโจทก์ทางทิศตะวันตกเลย จึงเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่ชัดเจน ขาดประเด็นพิจารณา ศาลยกฟ้องคดีจัดการมรดก
ฟ้องอ้างว่า จำเลยเข้าจัดการมรดกของผู้ตายโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอให้ถอดถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย และตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการแทนนั้น เมื่อปรากฎว่า
ทรัพย์อันอ้างว่าเป็นมรดกนั้นจะมีอยู่หรือไม่ก็ไม่ทราบ ทั้งอ้างว่าจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่ชอบอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุอันใดที่ศาลจะต้องพิจารณาในข้อถอดถอนจำเลยและตั้งโจทก์ในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกที่ไม่ปรากฎว่ามีอยู่หรือไม่
ทรัพย์อันอ้างว่าเป็นมรดกนั้นจะมีอยู่หรือไม่ก็ไม่ทราบ ทั้งอ้างว่าจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่ชอบอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุอันใดที่ศาลจะต้องพิจารณาในข้อถอดถอนจำเลยและตั้งโจทก์ในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกที่ไม่ปรากฎว่ามีอยู่หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ใหม่ต้องทำเป็นคำฟ้องตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด แม้จะเคยชำระค่าธรรมเนียมแล้ว
ฝ่ายที่แพ้คดี อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์กลับพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ฝ่ายนั้นแพ้คดีอีก ฝ่ายนั้นยื่นคำแถลงการณ์ขออุทธรณ์คดี ขอให้ถือฟ้องอุทธรณ์ฉะบับเดิมเป็นฟ้องอุทธรณ์ในชั้นนี้ดังนี้ ย่อมไม่เป็นการฟ้องอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย