คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฉ้อโกง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 938 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฉ้อโกงต้องระบุรายละเอียดการกล่าวเท็จและข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
ฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงนั้น โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้สามารถเข้าใจได้ว่าจำเลยกล่าวเท็จในข้อใดบ้างและความจริงเป็นอย่างไร มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพูดเท็จเพื่อผัดชำระหนี้ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง หากไม่มีการหลอกลวงให้ทำหนังสือสำคัญหรือทำลายหลักฐาน
พูดเท็จเพื่อขอผัดชำระหนี้ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของโรงแรม เครื่องเรือนเครื่องใช้ในโรงแรมขอนำเครื่องเรือนเครื่องใช้ในโรงแรมมาจำนำไว้ แต่ขอยืมเอาไปใช้ก่อน ผู้เสียหายหลงเชื่อและยอมให้ผัดชำระหนี้หาเป็นผิดทางอาญาฐานฉ้อโกงไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวเท็จเพื่อผัดชำระหนี้ไม่ถึงขั้นฉ้อโกง หากไม่มีการหลอกลวงให้ทำหนังสือสำคัญ
พูดเท็จเพื่อขอผัดชำระหนี้ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของโรงแรมเครื่องเรือนเครื่องใช้ในโรงแรมขอนำเครื่องเรือนเครื่องใช้ในโรงแรมมาจำนำไว้ แต่ขอยืมเอาไปใช้ก่อน ผู้เสียหายหลงเชื่อและยอมให้ผัดชำระหนี้ ดังนี้ หาเป็นผิดทางอาญาฐานฉ้อโกงไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาและการรับรองคำร้องทุกข์ของผู้เสียหาย กรณีฉ้อโกงทรัพย์ของหน่วยงานราชการ
ตามกฎหมายไม่ได้บังคับไว้ว่า ฟ้องต้องบรรยายไว้ด้วยว่า ได้มีการสอบสวนแล้ว เมื่อคดีปรากฎว่า ก่อนฟ้องได้มีการสอบสวนแล้วก็เป็นอันใช้ได้.
ฉ้อโกงทรัพย์ของการไฟฟ้าหลวงสามเสน ซึ่งขึ้นอยู่แก่กรมโยธาเทศบาล ( ครั้งนั้นยังเป็นกรมโยธาธิการ ) อธิบดีแห่งกรมดังกล่าวย่อมร้องทุกข์ได้
คำร้องทุกข์ของอธิบดีกรมโยธาธิการ ซึ่งมีข้อความว่า "......ได้ทราบจากเจ้าพนักงานสอบสวนว่า คดีนายเทื้อมกับพวก ซึ่งต้องหาว่า ทุจจริตต่อหน้าที่และปลอมหนังสือนั้น ได้มีข้อหาเพิ่มเติมอีกว่า ทำการฉ้อโกงทรัพย์ด้วย ฉัน ในฐานะเป็นอธิบดีกรมโยธาธิการ จึงเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ฉันขอมอบคดีฐานฉ้อโกงให้ตำรวจและอัยยการดำเนินคดีต่อไป. (ลงชื่อ ล.บูรกัมโกวิท) " เป็นคำร้องทุกข์ที่ชอบด้วยมาตรา 123 ป.ม.วิ.อาญาแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องของการกระทำผิดฉ้อโกง: การส่งมอบทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิดก่อนหน้า
ในคดีฉ้อโกง โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาปรากฎว่า ได้มีการส่งมอบยางกันในวันที่ 9 มีนาคม 2489 เวลากลางวัน แต่ตามคำพะยานปรากฎว่าการกระทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน แม้การมอบทรัพย์จะทำในวันรุ่งขึ้นก็ดี ก็เป็นการกระทำเกี่ยวเนื่องติดต่อกันในระยะเวลาอันใกล้ชิด ยังไม่พอถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องแห่งการกระทำความผิดฉ้อโกง แม้ส่งมอบทรัพย์ในวันรุ่งขึ้น ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
ในคดีฉ้อโกง โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาปรากฏว่า ได้มีการส่งมอบยางกันในวันที่ 9 มีนาคม 2489 เวลากลางวัน แต่ตามคำพยานปรากฏว่าการกระทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน แม้การมอบทรัพย์จะทำในวันรุ่งขึ้นก็ดี ก็เป็นการกระทำเกี่ยวเนื่องติดต่อกันในระยะเวลาอันใกล้ชิด ยังไม่พอถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ถูกหลอกลวงมีอำนาจร้องทุกข์ฉ้อโกง แม้เงินที่จ่ายไม่ใช่ของตนเอง
ในคดีฉ้อโกงเงินนั้น เมื่อผู้ถูกหลอกลวงเชื่ออุบายจำเลยได้จ่ายเงินให้แก่ฝ่ายจำเลย จะเป็นเงินของผู้ถูกหลอกลวงเองหรือหยิบยืมมาจากใครจะทำเป็นหนังสืออย่างใดหรือไม่ก็ตาม ก็เรียกได้ว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายโดยตรง มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1953/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงให้ถอนฟ้อง และผิดคำรับรอง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือแจ้งความเท็จ
การที่จำเลยหลอกลวงให้เขาถอนคำร้องทุกข์และถอนฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง และที่จำเลยรับต่อศาลว่าจะคืนจะแบ่งทรัพย์มฤดกให้เขาแล้ว ไม่ปฏิบัติตาม ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ เป็นแต่เพียงผิดคำรับรองไว้
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม ก.ม.ลักษณะอาญา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1953/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลอกลวงให้ถอนฟ้องและการผิดคำรับรอง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือแจ้งความเท็จ
การที่จำเลยหลอกลวงให้เขาถอนคำร้องทุกข์และถอนฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง และที่จำเลยรับต่อศาลว่าจะคืนจะแบ่งทรัพย์มรดกให้เขาแล้ว ไม่ปฏิบัติตาม ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ เป็นแต่เพียงผิดคำรับรองไว้
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม กฎหมายลักษณะอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1786-1788/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่อาจเข้าข่ายฉ้อโกงหรือฉ้อกระบือ แต่ศาลเห็นว่าไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อกระบือ
จำเลยกับพวกเอากระบือมาขายให้ผู้เสียหาย ๆ ชำระเงินให้ไป และนัดวันไปโอน ครั้นถึงวันนัดจำเลยกับพวกมาขู่เอากระบือคืนไป โดยแต่งอุบายว่าจำเลยคนหนึ่งเป็นตำรวจ กระบือนั้นถูกลักมา ถ้าไม่ยอมคืนให้จะจับส่งอำเภอ ดังนี้ ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อกระบือ.
of 94