คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตัวแทน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,182 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: การฟ้องจำเลยต่างประเทศ แม้มีตัวแทนในไทย ต้องมีสำนักงานหรือเลือกไทยเป็นภูมิลำเนา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ตั้งจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 ตั้งจำเลยที่ 5 เป็นตัวแทนในประเทศไทยเพื่อดูแลกิจการและผลประโยชน์ของจำเลยโดยให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 3 ที่ 5 ฐานละเมิดต่อโจทก์ ดังนี้ เมื่อจำเลยที่1 ที่ 2 ที่ 4 ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ตั้งตัวแทนดังกล่าวก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย เพราะจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ไม่มีสำนักงานสาขาอยู่ประเทศไทยหรือเลือกเอาประเทศไทยเป็นภูมิลำเนาในส่วนกิจการอันทำในประเทศไทยด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ต่อศาลในประเทศไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเจ้าของเรือต่างประเทศไม่ต้องรับผิดละเมิดของลูกจ้างที่ทำตามหน้าที่
เจ้าของเรือที่นายเรือทำละเมิดอยู่ต่างประเทศ จำเลยเป็นตัวแทนเจ้าของเรือในประเทศไทย ไม่ต้องรับผิดในละเมิดที่ลูกจ้างของตัวการได้ทำตามหน้าที่ด้วย จะตีความคำว่าทำสัญญาใน มาตรา 824หมายความถึงทำละเมิด ฝืนถ้อยคำที่บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้วไม่ได้ โจทก์ฟ้องจำเลยไม่ได้เป็นปัญหากฎหมายเรื่องอำนาจฟ้องซึ่งเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ ศาลยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1272/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการยกเหตุใหม่ในชั้นฎีกา: สัญญาเช่าที่พิพาทและการโต้แย้งตัวแทน
ในประเด็นว่าสัญญาเช่าที่พิพาทผูกพันโจทก์หรือไม่ จำเลยให้การและนำสืบว่าที่พิพาทอยู่ในความดูแลของกรมการศาสนา นายอำเภอพระพุทธบาทตัวแทนกรมการศาสนาทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่พิพาท แต่จำเลยฎีกาว่านายอำเภอพระพุทธบาทเป็นตัวแทนเชิดของวัดโจทก์ และได้ทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่พิพาทแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย ดังนี้ ฎีกาของจำเลยมิได้เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในสัญญาจากตัวแทนที่ไม่ได้รับมอบหมาย และการรับรองเอกสารนิติบุคคล
มีผู้อ้างว่าเป็นตัวแทนของจำเลยสั่งซื้อบัตร ส.ค.ส. จากโจทก์ใน พ.ศ.2514 โจทก์ส่งของและเก็บเงินจากจำเลยโดยผ่านธนาคารไปแล้ว พ.ศ.2515 ผู้นั้นอ้างเป็นตัวแทนจำเลยสั่งซื้อบัตร ส.ค.ส. จากโจทก์อีก คราวนี้จำเลยปฏิเสธ ดังนี้จำเลยเชิดบุคคลออกแสดงเป็นตัวแทนจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์
เอกสารคำรับรองของโนตารีปับลิกว่า โจทก์จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ ระบุชื่อผู้เป็นหุ้นส่วนทำการในนามของห้างได้โดยลำพังฟังได้ในข้อที่ว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลและหุ้นส่วนคนหนึ่งมอบอำนาจให้ฟ้องคดี ศาลรับฟังเอกสารนี้ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 แม้โจทก์ไม่ได้ระบุพยานนี้ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแรงงาน: กระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้แต่งตั้งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ มิได้เป็นตัวการหรือตัวแทน
กระทรวงมหาดไทยจำเลยแต่งตั้งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ เพื่อทำหน้าที่ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ฯลฯ เป็นการปฏิบัติการตามบทบัญญัติของกฎหมาย คณะกรรมการ+สัมพันธ์ที่จำเลยแต่งตั้งมีอำนาจและหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ความสัมพันธ์ระหว่างจำเลย+คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หาใช่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวการและตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ แต่เป็นการที่จำเลยและคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ต่างก็จะต้องปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเช็ค: ตัวแทนเรียกเก็บเงิน, ผู้เสียหายคือตัวการ
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ เป็นเช็คขีดคร่อมออกให้แก่ผู้ถือ โจทก์ได้ฝากให้เพื่อนของโจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินเพราะโจทก์ไม่มีบัญชีเงินฝากในธนาคาร ซึ่งมีความหมายว่าเมื่อเพื่อนของโจทก์เรียกเก็บเงินได้ต้องนำเงินมามอบให้โจทก์ หากเรียกเก็บเงินไม่ได้เพื่อนของโจทก์จะคืนเช็คให้โจทก์ จึงต้องถือว่าเพื่อนของโจทก์เป็นตัวแทนของโจทก์ ดังนั้น เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ซึ่งเป็นตัวการจึงยังเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเช็ค: ตัวแทนเรียกเก็บเงิน - ผู้เสียหายคือตัวการ
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ เป็นเช็คขีดคร่อมออกให้แก่ผู้ถือ โจทก์ได้ฝากให้เพื่อนของโจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินเพราะโจทก์ไม่มีบัญชีเงินฝากในธนาคารซึ่งมีความหมายว่าเมื่อเพื่อนของโจทก์เรียกเก็บเงินได้ต้องนำเงินมามอบให้โจทก์ หากเรียกเก็บเงินไม่ได้เพื่อของโจทก์จะคืนเช็คให้โจทก์ จึงต้องถือว่าเพื่อนของโจทก์เป็นตัวแทนของโจทก์ ดังนั้น เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ซึ่งตัวการจึงยังเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยปราศจากอำนาจของตัวแทน และผลผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ตั้งทนายดำเนินคดีขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นโจทก์ จำเลยที่ 1 กลับไปกรอกข้อความเป็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ฟ้อง และทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 แล้วร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันด้วยเจตนาฉ้อโกงโจทก์โดยทุจริต เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ขอให้พิพากษาเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าว ดังนี้กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนกระทำการโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ ทำให้โจทก์เสียหายและจำเลยทั้งสี่กระทำการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยตามกฎหมายดังกล่าว จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมซึ่งถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่ เพราะโจทก์เป็นคู่ความในคดีเดิมนั้น จึงต้องถูกผูกพันตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องคดีใหม่นี้ได้เลย โดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยปราศจากอำนาจของตัวแทนและการผูกพันตามคำพิพากษาเดิม
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ตั้งทนายดำเนินคดีขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของโจทก์ จำเลยที่ 1 กลับไปกรอกข้อความเป็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ฟ้องและทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 แล้วร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันด้วยเจตนาฉ้อโกงโจทก์โดยทุจริต เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ขอให้พิพากษาเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าว ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนกระทำการโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนือขอบอำนาจทำให้โจทก์เสียหายและจำเลยทั้งสี่กระทำการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยตามกฎหมายดังกล่าว จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมซึ่งถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่เพราะโจทก์เป็นคู่ความในคดีเดิมนั้นจึงต้องถูกผูกพันตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องคดีใหม่นี้ได้เลยโดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดของเจ้าของต่อการกระทำของตัวแทนที่ปรากฏแก่บุคคลภายนอก และผลของการยอมรับสารภาพหนี้ต่ออายุความ
เมื่อโจทก์ได้เชิด บ. หรือรู้แล้วยังยอมให้ บ. เชิดตัวเองออกแสดงว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ โจทก์ย่อมต้องรับผิดต่อจำเลยผู้สุจริตซึ่งมิได้ล่วงรู้ถึงความจริงเสมือนว่า บ. เป็นตัวแทนของโจทก์
จำเลยได้ตกลงซื้อรถพิพาทจาก บ. เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2511 ยังชำระเงินไม่ครบ ต่อมาจำเลยได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2512 ว่าจำเลยได้รับรถพิพาทไปในวันนั้นเอง การกระทำของจำเลยเช่นนี้ฟังตระหนักเป็นปริยายได้ว่าจำเลยยอมรับสารภาพแล้วว่ายังเป็นหนี้ค่าซื้อรถพิพาทกับโจทก์อยู่ในวันนั้น โจทก์ฟ้องเรียกค่ารถยนต์และค่าเสียหายเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2514 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
of 119