คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิสูจน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้นอกศาลและการบังคับคดี: จำเลยต้องพิสูจน์การชำระหนี้เอง
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา 6,250 บาท โจทก์นำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์จำเลยเพื่อขายทอดตลาด จำเลยร้องว่าได้ชำระหนี้แก่โจทก์นอกศาลแล้ว 5,250 บาท จะขอชำระส่วนที่ยังค้างและขอให้ศาลสั่งถอนการยึด โจทก์แถลงคัดค้านว่าได้รับเงินจากจำเลยนอกศาลเพียง 400 บาทเท่านั้นดังนี้ เมื่อโจทก์ปฏิเสธ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยต้องไปว่ากล่าวกับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก จะยกมาเป็นเหตุไม่ให้ศาลดำเนินการบังคับคดีต่อไปหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอคืนไม้ของกลาง: เจ้าของไม้มีสิทธิแม้ศาลตัดสินแล้วว่าไม้เป็นไม้หวงห้าม หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นไม้ในสวนของตน
ถึงแม้ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าไม่ของกลางเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้เป็นความผิดและให้ริบไม้ของกลางแล้วก็ดี เจ้าของไม่ยอมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 ขอคืนไม้ของกลางโดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นไม้หวงห้าม เพราะขึ้นอยู่ในสวนของตนได้ เพราะเจ้าของไม้ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ คำพิพากษานั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของไม้
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอคืนไม้ของกลาง: เจ้าของไม้มีสิทธิแม้ศาลตัดสินถึงที่สุดแล้วว่าไม้เป็นไม้หวงห้าม หากพิสูจน์ได้ว่าไม้ไม่ได้มีลักษณะเป็นไม้หวงห้าม
ถึงแม้ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้เป็นความผิดและให้ริบไม้ของกลางแล้วก็ดีเจ้าของไม้ย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ขอคืนไม้ของกลางโดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นไม้หวงห้ามเพราะขึ้นอยู่ในที่สวนของตนได้เพราะเจ้าของไม้ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ คำพิพากษานั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของไม้
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรม หากผลตรงตามที่ตกลงกัน ถือเป็นข้อแพ้ชนะ ศาลต้องบังคับตาม
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ตาย ซึ่งได้พิมพ์ไว้ในโฉนดจริงหรือไม่ แล้วยอมให้ศาลชี้ขาดตามนั้นเป็นข้อแพ้ชนะ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า "ไม่ใช่พิมพ์ลายนิ้วมือของพิมพ์ลายนิ้วมือนิ้วเดียวกัน" ดังนี้ ถือว่าตรงตามคำท้าซึ่งคู่ความได้ตกลงกันไว้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมเป็นข้อตกลงแพ้ชนะตามคำท้า
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรม ว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ตาย ซึ่งได้พิมพ์ไว้ในโฉนดจริงหรือไม่ แล้วยอมให้ศาลชี้ขาดตามนั้นเป็นข้อแพ้ชนะ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า " ไม่ใช่พิมพ์ลายนิ้วมือของพิมพ์ลายนิ้วมือนิ้วเดียวกัน" ดังนี้ ถือว่าตรงตามคำท้าซึ่งคู่ความได้ตกลงกันไว้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์พินัยกรรมปลอม สิทธิรับมรดกของบุตรนอกกฎหมายที่ได้รับการรับรอง
โจทก์อ้างว่า ผู้วายชนม์ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่า พินัยกรรมนั้นปลอม เช่นนี้ เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่า พินัยกรรมที่อ้างนี้ไม่ปลอม
การเชื่อฟังพยานหลักฐานในข้อที่ว่าลายมือชื่อในพินัยกรรมเป็นลายมือ ชื่ออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ นั้น ตามปกติควรเชื่อคำประจักษ์พยานยิ่งกว่าคำผู้เชี่ยวชาญ การพิสูจน์หลักฐาน เพราะประจักษ์พยานเป็นผู้ได้ยินกับหูเห็นด้วยตาของตนเอง ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงเหตุผลต่าง ๆ ประกอบให้พอเชื่อฟังได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกทางสาธารณะ การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทาง และผลของการปฏิเสธคำสั่งเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกทางสาธารณ จำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็นทางเข้านาของจำเลย และโจทก์จำเลยกับพยานแถลงรับกันว่า ผู้มีที่นาอยู่แถวนั้นต่างสละเนื้อที่นาและช่วยกันตัดเป็นทางชิ้น จึงอาจเป็นทางส่วนตัวซึ่งคนแถวนั้นทำขึ้นใช้ร่วมกัน มิใช่ทางสาธารณะก็ได้
คดีฟ้องหาว่าจำเลยขัดคำสั่งนายอำเภอผู้เป็นเจ้าพนักงาน โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ทราบคำสั่งแล้วนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อหา ย่อมหมายความว่าจำเลยยังไม่ทราบคำสั่งของนายอำเภอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่จำเลยในการพิสูจน์เหตุแก้ตัวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 โจทก์ไม่ต้องบรรยายในฟ้อง
คำว่า'เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร'ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 นั้น โจทก์ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้องเพราะเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบแสดงออกมา เพื่อให้ตนพ้นผิด ไม่ใช่ให้โจทก์นำสืบว่าจำเลยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตโฉนดเป็นข้อสันนิษฐานกรรมสิทธิ์ โจำเลยต้องพิสูจน์หักล้าง
เมื่อที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์โจทก์ย่อมได้รับข้อสันนิษฐานว่าที่พิพาทเป็นสิทธิของโจทก์ ถ้าจำเลยอ้างว่าเป็นของจำเลย ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายจำเลยที่จะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้ หากนำสืบไม่ได้ จำเลยก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์แนวเขตที่ดินโดยการขึงเชือกและทิ้งดิ่งเป็นวิธีที่ถูกต้องตามคำพิพากษา
ศาลพิพากษาให้โจทก์รื้อหลังคาเรือนโจทก์ที่รุกล้ำเข้าไปในแนวที่ดินของจำเลย ระหว่างหลัก ย.409845กับหลักย.461688 ในชั้นบังคับคดี ได้ทำการขึงเชือกจากหลักย.409845 ถึงหลักกลางไปยังหลัก ย.415625 และทิ้งดิ่งจากชายคาเรือนของโจทก์ ปรากฏว่าชายคาเรือนของโจทก์รุกล้ำเข้าไปในแนวเขตที่ดินของจำเลย ดังนี้ การที่ศาลสอบด้วยวิธีขึงเชือกและทิ้งดิ่งเป็นการสอบแนวเขตถูกต้องและชอบตามคำพิพากษาแล้ว
of 128