พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3596/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: แม้คู่ความและทรัพย์สินเดียวกัน แต่ประเด็นวินิจฉัยต่างกัน ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
ประเด็นเรื่องฟ้องซ้ำเป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์จึงเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
แม้คู่ความในคดีนี้กับคดีก่อนเป็นคู่ความเดียวกันทรัพย์ที่พิพาทเป็นที่นาแปลงเดียวกัน แต่คดีก่อนมีประเด็นวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยในคดีก่อนใครเป็นผู้มีสิทธิครอบครองนาพิพาท ซึ่งศาลพิพากษาว่าโจทก์ในคดีก่อนมีเพียงสิทธิยึดนาพิพาทในฐานะประกันหนี้เงินกู้เท่านั้น จำเลยในคดีก่อนจึงเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ว่าจำเลยในคดีนี้ได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วไม่มีสิทธิยึดนาพิพาท ต้องคืนให้โจทก์ ประเด็นวินิจฉัยคดีนี้จึงมีว่าจำเลยต้องคืนนาพิพาทเพราะได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วหรือไม่ ประเด็นวินิจฉัยคดีทั้งสองจึงมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
แม้คู่ความในคดีนี้กับคดีก่อนเป็นคู่ความเดียวกันทรัพย์ที่พิพาทเป็นที่นาแปลงเดียวกัน แต่คดีก่อนมีประเด็นวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยในคดีก่อนใครเป็นผู้มีสิทธิครอบครองนาพิพาท ซึ่งศาลพิพากษาว่าโจทก์ในคดีก่อนมีเพียงสิทธิยึดนาพิพาทในฐานะประกันหนี้เงินกู้เท่านั้น จำเลยในคดีก่อนจึงเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ว่าจำเลยในคดีนี้ได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วไม่มีสิทธิยึดนาพิพาท ต้องคืนให้โจทก์ ประเด็นวินิจฉัยคดีนี้จึงมีว่าจำเลยต้องคืนนาพิพาทเพราะได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วหรือไม่ ประเด็นวินิจฉัยคดีทั้งสองจึงมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3596/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมพิพาทเรื่องสิทธิครอบครอง คดีหลังพิพาทเรื่องคืนนาหลังชำระหนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ประเด็นเรื่องฟ้องซ้ำเป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ จึงเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
แม้คู่ความในคดีนี้กับคดีก่อนเป็นคู่ความเดียวกันทรัพย์ที่พิพาทเป็นที่นาแปลงเดียวกัน แต่คดีก่อนมีประเด็นวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยในคดีก่อนใครเป็นผู้มีสิทธิครอบครองนาพิพาท ซึ่งศาลพิพากษาว่าโจทก์ในคดีก่อนมีเพียงสิทธิยึดนาพิพาทในฐานะประกันหนี้เงินกู้เท่านั้น จำเลยในคดีก่อนจึงเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ว่าจำเลยในคดีนี้ได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วไม่มีสิทธิยึดนาพิพาท ต้องคืนให้โจทก์ ประเด็นวินิจฉัยคดีนี้จึงมีว่าจำเลยต้องคืนนาพิพาทเพราะได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วหรือไม่ ประเด็นวินิจฉัยคดีทั้งสองจึงมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
แม้คู่ความในคดีนี้กับคดีก่อนเป็นคู่ความเดียวกันทรัพย์ที่พิพาทเป็นที่นาแปลงเดียวกัน แต่คดีก่อนมีประเด็นวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยในคดีก่อนใครเป็นผู้มีสิทธิครอบครองนาพิพาท ซึ่งศาลพิพากษาว่าโจทก์ในคดีก่อนมีเพียงสิทธิยึดนาพิพาทในฐานะประกันหนี้เงินกู้เท่านั้น จำเลยในคดีก่อนจึงเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ว่าจำเลยในคดีนี้ได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วไม่มีสิทธิยึดนาพิพาท ต้องคืนให้โจทก์ ประเด็นวินิจฉัยคดีนี้จึงมีว่าจำเลยต้องคืนนาพิพาทเพราะได้รับชำระหนี้เงินกู้แล้วหรือไม่ ประเด็นวินิจฉัยคดีทั้งสองจึงมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกันฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3330-3331/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีสัญญาซื้อขายที่ดิน - ประเด็นผิดสัญญาเดียวกัน แม้ฟ้องก่อนมีคำพิพากษา
ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ถูกจำเลยฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาท อ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาท โจทก์ให้การอย่างเดียวกับข้ออ้างตามคำบรรยายฟ้องคดีนี้ต่อมาคดีแรกศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่โจทก์ ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้กับคดีแรกมีประเด็นข้อพิพาทอย่างเดียวกัน และศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีแรกว่าโจกท์เป็นฝ่ายผิดสัญญา ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้ก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยคดีแรกก็ตาม แต่เมื่อศาลพิพากษาคดีแรกแล้ว กรณีก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 144 เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3304/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียวกัน: สิทธิระงับเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
ข้อกล่าวหาที่อ้างว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดคดีนี้กับคดีสองสำนวนคดีก่อนเป็นการกล่าวอ้างถึงการกระทำความผิดของจำเลยอย่างเดียวกัน คือกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามบุกรุกรบกวนการครอบครองที่ดินอันเป็นกรณีพิพาทรายเดียวกันวันเวลาที่กล่าวหาว่ากระทำความผิดก็อยู่ในช่วงเดียวกันถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกัน คดีสองสำนวนก่อนศาลได้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยวินิจฉัยว่าการกระทำไม่เป็นความผิด และคำพิพากษาดังกล่าวได้ถึงที่สุดไปแล้ว แม้โจทก์คดีนี้จะมิใช่เป็นคนเดียวกับโจทก์ในคดีก่อนก็ตาม ก็ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วคดีอาญามาฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 อีก แต่คดีสำหรับจำเลยที่ 3 นั้น ไม่ปรากฏว่าได้ถูกฟ้องในคดีสองสำนวนก่อนด้วย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3096/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีอาญาไม่ระงับ แม้ศาลยกฟ้องเนื่องจากฟ้องไม่ถูกต้องตามรูปแบบ (ไม่มีลายมือชื่อ) โจทก์ยังฟ้องซ้ำได้
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์เนื่องจากโจทก์ไม่ได้ลงลายมือชื่อในฟ้องเท่ากับว่าศาลยังมิได้พิจารณาเรื่องที่โจทก์ฟ้อง ยังถือไม่ได้ว่าศาลได้พิพากษาในความผิดที่โจทก์ฟ้อง สิทธิในการฟ้องคดีของโจทก์จึงไม่ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ - จำเลยไม่ตรง - กระบวนพิจารณา - ห้ามฟ้องซ้ำ
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งแล้วในข้อหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวบุคคลอื่นมาส่งศาลเป็นจำเลยมิใช่จำเลยตัวจริงตามที่โจทก์ฟ้องโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกเลิกกระบวนพิจารณาที่ทำไปแล้วและขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่โดยให้นำตัวจำเลยที่แท้จริงเข้ามาเป็นจำเลยศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและพิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษา ขณะที่คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์โจทก์กลับนำคดีมาฟ้องจำเลยตัวจริงในข้อหาความผิดอันเดียวกันนั้นอีกฟ้องโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา173 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2879/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อน: การเรียกร้องค่าเช่าในคดีเดิมที่ฟ้องขับไล่ ย่อมขัดต่อหลักการห้ามฟ้องซ้ำ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินโดยอ้างว่าจำเลยอยู่โดยไม่มีสิทธิอันเป็นการละเมิดแล้วโจทก์ฟ้องคดีนี้เรียกร้องให้จำเลยชำระค่าเช่าหรือค่าสินไหมทดแทนในการที่โจทก์ขาดประโยชน์ไม่ได้ใช้ที่ดินดังนี้ เป็นการอาศัยมูลกรณีที่กล่าวว่าจำเลยอยู่ในที่ดินโจทก์โดยละเมิดซึ่งโจทก์มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนได้จากจำเลยในคดีเดิมนั่นเองแม้การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนนี้ จะเป็นประเด็นที่เพิ่มจากประเด็นในคดีเดิมแต่มูลกรณีที่จะเรียกร้องได้ก็ต้องอาศัยประเด็นตามฟ้องเดิมซึ่งต้องห้ามมิให้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา173(1) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 466/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2808/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม การจ่ายค่าชดเชย และการไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำในคดีแรงงาน
ข้อบังคับของจำเลยว่าด้วยพนักงานกำหนดว่า พนักงานต้องสุภาพ เรียบร้อย เชื่อฟัง และไม่แสดงความกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชาฯ ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายระเบียบและแบบธรรมเนียมของจำเลย ห้ามมิให้ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงในการปฏิบัติงาน ห้ามมิให้กระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตนเว้นแต่ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเป็นผู้สั่งให้กระทำและให้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาเหนือตนทราบในโอกาสแรก การที่โจทก์พูดกับเพื่อนร่วมงานว่า ถ้าโจทก์เป็นประธานสหภาพแรงงาน งานชิ้นแรกที่จะทำคือขับไล่ผู้อำนวยการออก ถ้าโจทก์ออกจะต้องมีคนตายนั้นเป็นการพูดไม่สุภาพ และเป็นการแสดงความกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา เป็นการผิดวินัยตามข้อบังคับของจำเลยดังกล่าวแต่ไม่ถึงกับเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันจำเลยจะไล่ออกปลดออกตามข้อบังคับของจำเลยได้ เมื่อจำเลยปลดโจทก์ออกจากงานย่อมเป็นการเลิกจ้าง กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 46, 47
จำเลยมีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากงานเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2521 โดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า โจทก์รับสินจ้างเป็นรายเดือนการเลิกสัญญามีผลสมบูรณ์เมื่อถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปคือเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2521 จำเลยต้องรับผิดจ่ายสินจ้างให้โจทก์ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2521แทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ให้รับโจทก์กลับเข้าทำงานหรือจ่ายค่าเสียหาย ศาลแรงงานกลางพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุด คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชย เงินบำเหน็จและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานและประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานมาตรา 31 เพราะมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
จำเลยมีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากงานเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2521 โดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า โจทก์รับสินจ้างเป็นรายเดือนการเลิกสัญญามีผลสมบูรณ์เมื่อถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปคือเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2521 จำเลยต้องรับผิดจ่ายสินจ้างให้โจทก์ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2521แทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ให้รับโจทก์กลับเข้าทำงานหรือจ่ายค่าเสียหาย ศาลแรงงานกลางพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุด คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชย เงินบำเหน็จและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานและประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานมาตรา 31 เพราะมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2763/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินผิดนัดชำระราคาและประเด็นฟ้องซ้ำ: อายุความ 10 ปี และการอนุญาตฟ้องใหม่
สัญญาซื้อขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่มือเปล่ามีกำหนดระยะเวลาการชำระราคาไว้ แต่จำเลยมิได้ชำระราคาตามงวดให้แก่โจทก์ จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดนัด ซึ่งโจทก์มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระราคาที่พิพาทได้ภายในกำหนดอายุความ 10 ปี
ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดีเดิมเพราะเป็นฟ้องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องฟ้องยังศาลที่ทรัพย์ตั้งอยู่ ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยประเด็นแห่งคดี แต่อย่างใด แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้ต่อศาลแพ่งอีก แต่โจทก์ได้ยื่น คำร้องขออนุญาตฟ้องและศาลแพ่งสั่งอนุญาตแล้ว จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดีเดิมเพราะเป็นฟ้องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องฟ้องยังศาลที่ทรัพย์ตั้งอยู่ ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยประเด็นแห่งคดี แต่อย่างใด แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้ต่อศาลแพ่งอีก แต่โจทก์ได้ยื่น คำร้องขออนุญาตฟ้องและศาลแพ่งสั่งอนุญาตแล้ว จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีมีประเด็นข้อพิพาทซ้ำกับคดีก่อนที่ถึงที่สุดแล้ว แม้มีการสลับฝ่ายฟ้อง
คดีก่อนจำเลยในคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ศาลพิพากษาตามยอมแบ่งที่ดินระหว่างกันแล้ว จำเลยในคดีก่อนกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้อ้างว่า จำเลยในคดีนี้รังวัดรุกล้ำในส่วนของโจทก์ เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีก่อน ข้ออ้างของโจทก์ในคดีนี้เป็นเรื่องต้องว่ากล่าวในชั้นบังคับคดีก่อน