พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,168 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โจทก์รู้เห็นเป็นใจฉ้อโกงจำเลย ย่อมไม่อาจฟ้องขอเพิกถอนการซื้อฝากที่สุจริตได้
โจทก์รู้เห็นเป็นใจให้ ด. นำโฉนดของโจทก์ไปหลอกขายฝากจำเลย โดยอ้างว่าเป็นโฉนดของ ด. เอง ดังนี้ โจทก์จะอ้างเอาความไม่สุจริตของโจทก์มาฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายฝากซึ่งจำเลยรับซื้อฝากไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2505/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าซ่อมแซมของภรรยาที่ไม่มีสิทธิในมรดก: การกระทำโดยสุจริตและเจตนา
จำเลยฟ้องแย้งโจทก์ในฐานะจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย มิได้ฟ้องแย้งในนามทายาทซึ่งเป็นบุตรโจทก์ไม่เป็นอุทลุม
โจทก์รู้อยู่ก่อนแล้วว่าโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะได้รับมรดกตามพินัยกรรม และพินัยกรรมได้ห้ามไม่ให้โจทก์เกี่ยวข้องในทรัพย์มรดก แต่ในฐานะที่โจทก์เป็นภรรยาของผู้ตายโจทก์เห็นว่าโจทก์ควรจะมีส่วนเป็นเจ้าของมรดกครึ่งหนึ่งจึงได้ซ่อมแซมห้องพิพาทไปโดยสุจริตใจ เข้าใจว่ามีสิทธิทำได้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าซ่อมแซมห้องพิพาทคืนได้
โจทก์รู้อยู่ก่อนแล้วว่าโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะได้รับมรดกตามพินัยกรรม และพินัยกรรมได้ห้ามไม่ให้โจทก์เกี่ยวข้องในทรัพย์มรดก แต่ในฐานะที่โจทก์เป็นภรรยาของผู้ตายโจทก์เห็นว่าโจทก์ควรจะมีส่วนเป็นเจ้าของมรดกครึ่งหนึ่งจึงได้ซ่อมแซมห้องพิพาทไปโดยสุจริตใจ เข้าใจว่ามีสิทธิทำได้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าซ่อมแซมห้องพิพาทคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1789/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด โดยผู้ซื้อสุจริต มีผลต่อการฟ้องฐานรับของโจร และคำขอให้ชดใช้ค่าทรัพย์สิน
พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 3 รับน้ำมันของผู้เสียหายไว้ในครอบครองจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยรู้อยู่ว่าเป็นของร้ายที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ขอให้ลงโทษ และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาน้ำมันแก่ผู้เสียหายเมื่อศาลฟังว่าจำเลยที่ 3 ซื้อน้ำมันนั้นไว้โดยสุจริตและพิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลยที่ 3 แล้วย่อมยกคำขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์เสียด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองโดยสุจริตมีผลเหนือสิทธิผู้ซื้อที่ยังมิได้จดทะเบียน แม้ครอบครองเกิน 10 ปี
เมื่อได้ความชัดแจ้งอยู่แล้ว แม้จะให้มีการสืบพยานกันต่อไป ก็ได้ความเช่นเดียวกับคำร้องขอ และคำแถลงรับของผู้ร้อง ศาลก็ชอบที่จะสั่งงดสืบพยานและพิพากษาคดีไปได้
ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันเอง โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมา โดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม จะยกขึ้นเป็นคู่ต่อสู้โจทก์ผู้จำนองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไว้จากจำเลย และจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมาย โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตไม่ได้
ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันเอง โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมา โดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม จะยกขึ้นเป็นคู่ต่อสู้โจทก์ผู้จำนองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไว้จากจำเลย และจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมาย โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการจำนองโดยสุจริตมีผลเหนือสิทธิจากการครอบครอง แม้ผู้ซื้อจะครอบครองทรัพย์เกิน 10 ปี
เมื่อได้ความชัดแจ้งอยู่แล้ว แม้จะให้มีการสืบพยานกันต่อไป ก็ได้ความเช่นเดียวกับคำร้องขอและคำแถลงรับของผู้ร้อง ศาลก็ชอบที่จะสั่งงดสืบพยานและพิพากษาคดีไปได้
ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันเอง โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมา โดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้จำนองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไว้จากจำเลยและจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมาย โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตไม่ได้
ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันเอง โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมา โดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้จำนองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไว้จากจำเลยและจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมาย โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอม: การรื้อรั้วกีดขวางทางออกสู่สาธารณะ ถือเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต
คดีก่อนโจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมและบังคับให้จำเลยขนย้ายกองไม้ออกไปให้พ้นทางภารจำยอม ศาลพิพากษาบังคับตามฟ้องโจทก์ แต่มีรั้วพิพาทในคดีนี้ปิดกั้นกีดขวางทางภารจำยอมอยู่ โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขอให้บังคับจำเลยรื้อรั้วพิพาทออกไป ดังนี้ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิของโจทก์โดยสุจริต
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้รื้อรั้วพิพาทดังกล่าว เป็นการใช้สิทธิของโจทก์เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ตามปกติธรรมดา ไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์หรือสามยทรัพย์เรียกไม่ได้ว่าความต้องการแห่งเจ้าของสามยทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ด้วย
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้รื้อรั้วพิพาทดังกล่าว เป็นการใช้สิทธิของโจทก์เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ตามปกติธรรมดา ไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์หรือสามยทรัพย์เรียกไม่ได้ว่าความต้องการแห่งเจ้าของสามยทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอมและการรื้อรั้วกีดขวางทางออกสู่สาธารณะ การใช้สิทธิโดยสุจริตไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงภาระ
คดีก่อนโจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมและบังคับให้จำเลยขนย้ายกองไม้ออกไปให้พ้นทางภารจำยอม ศาลพิพากษาบังคับตามฟ้องโจทก์ แต่มีรั้วพิพาทในคดีนี้ปิดกั้นกีดขวางทางภารจำยอมอยู่ โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ ขอให้บังคับจำเลยรื้อรั้วพิพาทออกไป ดังนี้ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิของโจทก์โดยสุจริต
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้รื้อรั้วพิพาทดังกล่าว เป็นการใช้สิทธิของโจทก์เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ตามปกติธรรมดา ไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์หรือสามยทรัพย์เรียกไม่ได้ว่าความต้องการแห่งเจ้าของสามยทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ด้วย
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้รื้อรั้วพิพาทดังกล่าว เป็นการใช้สิทธิของโจทก์เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ตามปกติธรรมดา ไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์หรือสามยทรัพย์เรียกไม่ได้ว่าความต้องการแห่งเจ้าของสามยทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองที่ดินโดยผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียว ธนาคารผู้รับจำนองสุจริตมีสิทธิบังคับจำนองได้ ผู้รับมรดกร่วมกันไม่มีสิทธิเรียกร้อง
จำเลยและผู้ร้องเป็นผู้รับมรดกในที่ดินร่วมกัน จำเลยไปโอนรับมรดกที่ดินใส่ชื่อตนแต่ผู้เดียว ครั้นแล้วจำเลยนำไปจำนองไว้แก่ธนาคารโจทก์ผู้ทำการโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ดังนี้ นิติกรรมการจำนองระหว่างโจทก์กับจำเลยมีผลสมบูรณ์ ธนาคารโจทก์มีสิทธิบังคับจำนองได้เต็มตามสัญญา ผู้ร้องจะขอกันส่วนของผู้ร้องจากจำนวนเงินที่ขายทอดตลาดที่ดินจากการบังคับจำนองหาได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1046/2480)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1046/2480)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองโดยผู้แทนที่ไม่ชอบ ธนาคารสุจริตมีสิทธิบังคับได้ ผู้รับมรดกไม่มีสิทธิเรียกร้อง
จำเลยและผู้ร้องเป็นผู้รับมรดกในที่ดินร่วมกัน จำเลยไปโอนรับมรดกที่ดินใส่ชื่อตนแต่ผู้เดียว ครั้นแล้วจำเลยนำไปจำนองไว้แก่ธนาคารโจทก์ผู้ทำการโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ดังนี้ นิติกรรมการจำนองระหว่างโจทก์กับจำเลยมีผลสมบูรณ์ ธนาคารโจทก์มีสิทธิบังคับจำนองได้เต็มตามสัญญา ผู้ร้องจะขอกันส่วนของผู้ร้องจากจำนวนเงินที่ขายทอดตลาดที่ดินจากการบังคับจำนองหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1046/2480)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนเช็คโดยสุจริตของผู้ทรง แม้ผู้สลักหลังจะทุจริต ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเช็ค
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คและโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คดังกล่าวโดย จ. ได้สลักหลังแล้วมอบให้โจทก์ โจทก์นำเช็คนี้เข้าบัญชี แต่ธนาคารคืนเช็คมายังโจทก์ เพราะจำเลยได้สั่งอายัดไว้ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจริงโดยเตรียมไว้สำหรับชำระหนี้ให้แก่ผู้อื่น แต่ จ. ได้ลักเช็คดังกล่าวไปเสียก่อน จำเลยได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานแล้ว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีนิติสัมพันธ์อันใดกับจำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องประการใดจากจำเลย ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้กล่าวอ้างต่อสู้ว่า โจทก์รับโอนเช็คพิพาทนั้นมาโดยคบคิดกับ จ. เพื่อฉ้อฉลจำเลยก็ต้องถือว่าโจทก์ได้รับเช็คมาโดยสุจริต การที่ จ. แต่ฝ่ายเดียวเป็นผู้ทุจริตจึงไม่เป็นข้อต่อสู้ที่จำเลยจะยกขึ้นใช้ยันกับโจทก์ผู้ทรงได้ตาม มาตรา 905 และมาตรา 916 ฉะนั้นจำเลยจึงหามีสิทธิที่จะนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลยดังที่ปรากฏในคำให้การไม่ เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกให้แก่ผู้ถือโจทก์เป็นผู้ถือจึงนับได้ว่าเป็นผู้ทรง เมื่อโจทก์นำไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องใช้เงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2514)