พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3583/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความค่าชดเชยขัดประกาศกระทรวงมหาดไทยเป็นโมฆะ คุ้มครองฐานะลูกจ้าง
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มีวัตถุประสงค์ในอันที่จะก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ลูกจ้างเป็นการคุ้มครองและอำนวยประโยชน์แก่ลูกจ้างจึงเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับค่าชดเชยซึ่งทำขึ้นผิดแผกแตกต่างไปจากประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานจึงเป็นโมฆะใช้บังคับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3583/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับค่าชดเชยที่เป็นโมฆะ หากขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทยคุ้มครองแรงงาน
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มีวัตถุประสงค์ในอันที่จะก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ลูกจ้างเป็นการคุ้มครองและอำนวยประโยชน์แก่ลูกจ้างจึงเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับค่าชดเชยซึ่งทำขึ้นผิดแผกแตกต่างไปจากประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานจึงเป็นโมฆะใช้บังคับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างและเจตนาลาออก: สัญญาจ้างไม่ผูกพันตามอายุสัมปทาน, เจตนาลาออกจากการถูกข่มขู่เป็นโมฆะ
แม้อายุสัมปทานที่จำเลยได้รับจากรัฐบาลจะกำหนดเวลาไว้แน่นอนแต่โจทก์กับจำเลยมิได้ตกลงจ้างกันจนกว่าจะหมดอายุสัมปทาน การจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงหาใช่การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาไว้แน่นอนไม่
การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์ลงชื่อในใบลาออกเพราะถูกคำขู่ตามประกาศของจำเลย ใบลาไม่มีผลบังคับเป็นเรื่องศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การแสดงเจตนาลาออกของโจทก์เสื่อมเสียไปเพราะเป็นเจตนาที่ได้มาจากการข่มขู่มิใช่วินิจฉัยว่าไม่มีข้อความว่าลาออกทั้ง ๆ ที่เอกสารมีข้อความแจ้งชัดว่าเป็นการลาออก จึงหาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่
การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์ลงชื่อในใบลาออกเพราะถูกคำขู่ตามประกาศของจำเลย ใบลาไม่มีผลบังคับเป็นเรื่องศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การแสดงเจตนาลาออกของโจทก์เสื่อมเสียไปเพราะเป็นเจตนาที่ได้มาจากการข่มขู่มิใช่วินิจฉัยว่าไม่มีข้อความว่าลาออกทั้ง ๆ ที่เอกสารมีข้อความแจ้งชัดว่าเป็นการลาออก จึงหาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3093-3094/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากเป็นโมฆะ หากมีเจตนาซ่อนเร้นการกู้เงิน
โจทก์ทำสัญญาขายฝากแก่จำเลย โดยโจทก์ยังไม่ได้รับเงินเป็นการอำพรางนิติกรรมการกู้เงินที่จะกู้เป็นงวด ๆ ในจำนวนใกล้เคียงกับจำนวนเงินในสัญญาขายฝาก สัญญาขายฝากจึงเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคแรก ส่วนนิติกรรมสัญญากู้เงินตามงวดที่ถูกอำพรางไว้เป็นอันใช้บังคับได้ แม้การกู้เงินบางงวดมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ย่อมถือได้ว่า เอกสารการขายฝากเป็นนิติกรรมสัญญากู้เงินที่ทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อนิติกรรมขายฝากเป็นโมฆะ จำเลยชอบที่จะคืนทรัพย์ตามสัญญาขายฝากและรับเงิน จำนวนที่ให้กู้ไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินที่เป็นโมฆะ และสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียในการตั้งผู้จัดการมรดก
ผู้ตายกู้ยืมเงินผู้ร้องไปโดยทำสัญญากับผู้ร้องว่าถ้าชำระหนี้ไม่ได้จะโอนที่ดินทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องเป็นการชำระหนี้แทน เป็นการตกลงกันให้เอาทรัพย์สินชำระหนี้แทนเงินกู้ยืม โดยมิได้คำนึงถึงราคาทรัพย์สินในเวลาและสถานที่ส่งมอบ ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง ตกเป็นโมฆะตามวรรคสาม ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิบังคับให้มีการโอนที่ดินมรดกเป็นการชำระหนี้แก่ผู้ร้องโดยเจาะจง คงมีแต่สิทธิขอให้บังคับชำระหนี้อันเป็นสิทธิของเจ้าหนี้โดยทั่วไป
ผู้มีสิทธิร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกนั้นถ้ามิใช่ทายาทหรือพนักงานอัยการก็จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งหมายความว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทางมรดกหรือในทางพินัยกรรม หรือเกี่ยวกับทรัพย์สินในกองมรดก ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้มิใช่เป็นผู้ที่จะได้ประโยชน์ถ้าหากกองมรดกมีผู้จัดการมรดก หรือเสียประโยชน์ถ้าหากกองมรดกไม่มีผู้จัดการมรดก คดีนี้ผู้ตายยังมีทายาทอยู่ ถึงแม้ไม่มีผู้จัดการมรดก ผู้ร้องก็สามารถฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีสิทธิร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้มีสิทธิร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกนั้นถ้ามิใช่ทายาทหรือพนักงานอัยการก็จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งหมายความว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทางมรดกหรือในทางพินัยกรรม หรือเกี่ยวกับทรัพย์สินในกองมรดก ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้มิใช่เป็นผู้ที่จะได้ประโยชน์ถ้าหากกองมรดกมีผู้จัดการมรดก หรือเสียประโยชน์ถ้าหากกองมรดกไม่มีผู้จัดการมรดก คดีนี้ผู้ตายยังมีทายาทอยู่ ถึงแม้ไม่มีผู้จัดการมรดก ผู้ร้องก็สามารถฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีสิทธิร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2445/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากไม่จดทะเบียน โมฆะ แต่สิทธิครอบครองเกิดได้จากการสละการครอบครองและแสดงเจตนา
เอกสารมีข้อความว่า ถ้าผู้ขายฝากไม่ไถ่ถอนตามกำหนดยินยอมยกที่ดินที่ขายฝากให้แก่ผู้รับซื้อฝากถือกรรมสิทธิ์ได้ต่อไป เมื่อ อ. ไม่ได้ไถ่ที่พิพาทคืนภายในกำหนดตามที่ตกลงกัน ก็เท่ากับ อ. ได้สละการครอบครองที่พิพาทแก่ ล. ล. ได้ ครอบครองต่อมา และแจ้ง ส.ค.1 ในนามของตนเอง เป็นการแสดงเจตนาเพื่อตน จึงได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ที่ดินขายฝาก: การชำระหนี้ไม่ครบถ้วนและการขยายกำหนดเวลาไถ่เป็นโมฆะ
ในวันครบกำหนดสัญญา โจทก์นำเงินไปชำระแก่จำเลยเป็นการไถ่ที่ดิน แต่เป็นการชำระหนี้บางส่วนไม่ถูกต้องตามสัญญา และจำเลยไม่ยอมรับ ถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้สิทธิไถ่ภายในกำหนดสัญญา การที่จำเลยยินยอมจะให้โจทก์ไถ่ที่ดินคืนหลังจากพ้นกำหนดไถ่ ก็หาใช่เป็นคำมั่นว่าจำเลยจะขายที่ดินคืนให้แก่โจทก์ไม่ แต่เป็นการตกลงขยายกำหนดเวลาไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝาก ซึ่งขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496 เป็นโมฆะ โจทก์จะขอให้บังคับโอนที่ดิน ที่ขายฝากคืนแก่โจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1645/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในสาระสำคัญของสัญญาซื้อขาย ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
โจทก์มีเจตนาจะขายที่พิพาทให้แก่จำเลยเพียงครึ่งหนึ่งแต่ลงลายมือชื่อทำนิติกรรมขายที่พิพาททั้งแปลงให้แก่จำเลย การทำนิติกรรมดังกล่าวเกิดจากความสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งนิติกรรม สัญญาซื้อขายที่พิพาทจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 119 โจทก์มีสิทธิยกขึ้นกล่าวอ้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินอัตรา: โมฆะเฉพาะดอกเบี้ย, ชำระหนี้ตามอำเภอใจไม่อ้างอิงได้, ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 329
การกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้นตกเป็นโมฆะเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้น ต้นเงินหาตกเป็นโมฆะไม่
เมื่อจำเลยนำสืบไม่ได้ว่าเงินที่ยังค้างชำระโจทก์อยู่จำนวนใดเป็นดอกเบี้ยและจำนวนใดเป็นต้นเงินกู้ ก็ต้องถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 329 ว่าเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์ไปแล้วจำนวนหนึ่งนั้นต้องเอาใช้เป็นดอกเบี้ยเสียก่อน ส่วนจำนวนหนี้ที่เหลือถือว่าเป็นต้นเงินกู้ที่ยังค้างชำระ
เมื่อถือว่าจำเลยได้ชำระดอกเบี้ยไปแล้ว แม้จะฟังว่าเป็นดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย ก็เท่ากับเป็นการชำระหนี้ตามอำเภอใจ โดยที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีความผูกพันต้องชำระ จำเลยไม่มีสิทธิยกขึ้นต่อสู้คดีให้หลุดพ้นความรับผิดไปได้
เมื่อจำเลยนำสืบไม่ได้ว่าเงินที่ยังค้างชำระโจทก์อยู่จำนวนใดเป็นดอกเบี้ยและจำนวนใดเป็นต้นเงินกู้ ก็ต้องถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 329 ว่าเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์ไปแล้วจำนวนหนึ่งนั้นต้องเอาใช้เป็นดอกเบี้ยเสียก่อน ส่วนจำนวนหนี้ที่เหลือถือว่าเป็นต้นเงินกู้ที่ยังค้างชำระ
เมื่อถือว่าจำเลยได้ชำระดอกเบี้ยไปแล้ว แม้จะฟังว่าเป็นดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย ก็เท่ากับเป็นการชำระหนี้ตามอำเภอใจ โดยที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีความผูกพันต้องชำระ จำเลยไม่มีสิทธิยกขึ้นต่อสู้คดีให้หลุดพ้นความรับผิดไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมขายฝากเป็นโมฆะเมื่อมีเจตนาลวงเพื่อนำไปจำนอง โจทก์มีสิทธิเรียกคืนที่ดิน
โจทก์ประสงค์จะจำนองที่พิพาทแต่ถ้าโจทก์จำนองด้วยตนเองจะไม่ได้เงินมากตามจำนวนที่ต้องการ จึงได้ตกลงทำเป็นจดทะเบียนขายฝากที่พิพาทไว้กับจำเลยก่อน แล้วให้จำเลยนำที่ดินไปจำนองบริษัท ท. ซึ่งผู้จัดการเป็นญาติกับจำเลยเอาเงินมาให้โจทก์ ดังนี้ นิติกรรมขายฝากดังกล่าวเป็นเพียงเจตนาลวงเพื่อให้จำเลยนำที่พิพาทไปจำนองเท่านั้นจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118คือไม่มีสัญญาขายฝากต่อกัน ที่พิพาทยังเป็นของโจทก์อยู่ โจทก์มีอำนาจเรียกที่พิพาทคืนจากจำเลยฐานลาภมิควรได้ จำเลยมีหน้าที่คืนที่พิพาทและโอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามเดิม เงินที่โจทก์ได้มาไม่ใช่เงินของจำเลยอันโจทก์จะพึงคืนให้แก่จำเลย แต่เป็นเงินซึ่งโจทก์จะต้องชำระคืนให้แก่ผู้รับจำนองซึ่งเป็นเจ้าหนี้โดยตรงส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใดนั้นย่อมเป็นไปตามมูลหนี้ที่ปรากฏอยู่ในสัญญาจำนอง