พบผลลัพธ์ทั้งหมด 127 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2437/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมมีสิทธิร้องขอแบ่งส่วนทรัพย์สินที่ถูกยึดแทนการขัดทรัพย์
ที่ดินมีโฉนดมีชื่อจำเลยและผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ร่วมกัน ผู้ร้องจะร้องขัดทรัพย์เพื่อให้ศาลปล่อยทรัพย์ที่ยึดหาได้ไม่ผู้ร้องซึ่งอยู่ในฐานะเป็นเจ้าของรวมใน โฉนดที่ดินที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ชอบที่จะร้องขอ ให้ศาลแบ่งส่วนหรือกันส่วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 หากข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่ดินมีโฉนดที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ผู้ร้องเป็นเจ้าของรวมอยู่1ใน 3 ผู้ร้อง ครอบครองเป็นส่วนสัดและปลูกบ้านอยู่อาศัยมา 37 ปีแล้วจำเลยและผู้ร้องได้ตกลงแบ่งแยกโฉนดออกเป็นส่วนของผู้ร้อง และส่วนของจำเลยทั้งได้แบ่งส่วนที่จำเลยและผู้ร้องถือ กรรมสิทธิ์ร่วมกันเพื่อใช้เป็นทางออกสู่ถนน เจ้าพนักงานที่ดินได้ดำเนินการแบ่งแยกโฉนดเสร็จแล้วเหลือเพียง แต่รอคำสั่งให้ไปจดทะเบียนรับโฉนดที่แบ่งแยกเท่านั้นดังนี้ เห็นได้ว่าที่ดินดังกล่าวได้มีการตกลงแยกกรรมสิทธิ์ ส่วนของเจ้าของรวมเป็นที่แน่นอนแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมไม่มีอำนาจที่จะขายส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3475/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมและการครอบครองแทน การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบุตรของโจทก์มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยในที่ดินพิพาท การครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยจึงเป็นการครอบครองแทนบุตรของโจทก์ ทั้งปรากฏจากจดหมายของจำเลยว่าจำเลยลงชื่อในโฉนดที่ดินพิพาทแทนหุ้นส่วนเท่านั้น แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะครอบครองที่พิพาทอย่างเป็นเจ้าของ จำเลย จึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2618/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินก่อนสมรส และสิทธิในการกันส่วนเงินจากการขายทอดตลาด
ผู้ร้องกับจำเลยจดทะเบียนสมรสเมื่อ พ.ศ.2520 แต่อยู่กินกันมาประมาณ 30 ปีแล้ว จำเลยกับผู้ร้องร่วมกันสร้างบ้านพิพาทก่อนจดทะเบียนสมรส จึงมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันคนละครึ่ง และถือว่าเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องครึ่งหนึ่ง หนี้ตามฟ้องจำเลยก่อให้เกิดขึ้นก่อนสมรส จึงมิใช่เป็นหนี้ร่วมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1490(4) ผู้ร้องมีสิทธิขอกันส่วนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาด บ้านพิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2199/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการร้องสอดของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินที่ถูกโต้แย้ง ผู้ร้องสอดมีสิทธิเลือกร้องสอดเป็นคู่ความฝ่ายที่สามหรือโจทก์ร่วม
ผู้ร้องสอดกับโจทก์มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามโฉนดตราจอง ร่วมกันซึ่งรวมทั้งที่พิพาทด้วย เมื่อจำเลยและจำเลยร่วมโต้แย้งสิทธิในที่พิพาทผู้ร้องสอดย่อมมีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ เพื่อยังให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ ส่วนจะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่สามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) หรือเข้าเป็นโจทก์ร่วมตามมาตรา57(2) ย่อมเป็นสิทธิของผู้ร้องสอดที่จะเลือก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรส และสิทธิในการได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินที่ถูกริบ
รถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลย (สามี) และผู้ร้อง (ภริยา) ซื้อมาด้วยเงินที่ได้มาระหว่างสมรส ผู้ร้องกับ จำเลยจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกันคนละครึ่ง เมื่อจำเลย นำเอารถยนต์ดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิดจนถูกศาล พิพากษาให้ริบไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งมิได้มีส่วนรู้เห็นเป็นใจใน การกระทำความผิดของจำเลยด้วย ย่อมมีสิทธิขอคืนได้กึ่งหนึ่ง ส่วนอีกกึ่งหนึ่งตกเป็นของอันพึงต้องริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสและการริบของกลางเฉพาะส่วนของจำเลย
รถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลย (สามี) และผู้ร้อง(ภริยา) ซื้อมาด้วยเงินที่ได้มาระหว่างสมรส ผู้ร้องกับจำเลยจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกันคนละครึ่ง เมื่อจำเลยนำเอารถยนต์ดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิดจนถูกศาลพิพากษาให้ริบไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งมิได้มีส่วนรู้เห็นเป็นใจใน การกระทำความผิดของจำเลยด้วย ย่อมมีสิทธิขอคืนได้กึ่งหนึ่ง ส่วนอีกกึ่งหนึ่งตกเป็นของอันพึงต้องริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งกรรมสิทธิ์ร่วม: สัญญาไม่ชัดเจน ไม่อาจบังคับได้ โจทก์มีสิทธิฟ้องให้แบ่ง
โจทก์และจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินพิพาท โดยโจทก์มีส่วนอยู่หนึ่งในสี่ โจทก์และจำเลยไปขอแบ่งแยกที่สำนักงานที่ดินโดยทำบันทึกตกลงกันไว้ในบันทึกดังกล่าวไม่มีข้อความกำหนดให้ชัดเจนว่าโจทก์ได้ส่วนแบ่งที่ดินตรงจุดไหน มีความกว้างยาวไปทางทิศใดเท่าไร จึงไม่อาจบังคับให้โจทก์ต้องยอมรับการแบ่งที่ดินดังกล่าวได้เมื่อโจทก์จำเลยยังตกลงกันไม่ได้โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยให้แบ่งที่พิพาทแก่โจทก์ตามคำขอท้ายฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องแบ่งแยกที่ดิน: ผู้ถูกโต้แย้งสิทธิคือผู้รับประโยชน์จากการแบ่งแยก ไม่ใช่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างโจทก์จำเลยให้แก่ ช. มิได้ขอให้แบ่งแยกให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ยอมแบ่งแยกให้ ผู้ที่ถูกโต้แย้งสิทธิคือ ช. หาใช่โจทก์ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1163/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านที่สร้างจากการรื้อถอนและปลูกสร้างใหม่โดยใช้เงินที่ได้มาจากการอยู่กินฉันสามีภรรยา
มารดาผู้ร้องยกบ้านให้ผู้ร้องในขณะที่ผู้ร้องอยู่กินกับจำเลยฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ผู้ร้องรื้อบ้านนั้นและขนย้ายเอามาปลูกขึ้นใหม่เป็นบ้านพิพาท ทั้งนี้ได้ใช้จ่ายเงินเป็นค่าซื้อไม้ฝาและสีทาเพิ่มเติม กับค่าตะปูและค่ารื้อถอนขนย้าย รวมทั้งค่าแรงปลูกสร้างด้วย โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเงินที่ผู้ร้องและจำเลยทำมาหาได้ระหว่างอยู่กินฉันสามีภรรยา และเมื่อปลูกสร้างเสร็จผู้ร้องกับจำเลยก็อยู่ร่วมกันในบ้านพิพาทตลอดมาดังนี้ ถือว่าผู้ร้องและจำเลยเป็นเจ้าของร่วมในบ้านนั้น โจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยนำยึดบ้านพิพาทส่วนของจำเลยได้ผู้ร้องมีสิทธิเพียงร้องขอกันส่วนของผู้ร้องเท่านั้นหามีสิทธิร้องขอให้ปล่อยบ้านพิพาทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินงอกริมตลิ่ง: เจ้าของที่ดินโฉนดมีกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินงอก เว้นแต่มีการแบ่งแยกการครอบครอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308 บัญญัติว่า ที่ดินแปลงใดเกิดที่งอกริมตลิ่ง ที่งอกย่อมเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น เมื่อโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ไม่ระบุว่าส่วนของคนใดมีเท่าใด และไม่มีข้อตกลงเรื่องที่งอกเป็นอย่างอื่น ต้องถือว่าโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์เท่า ๆ กัน เมื่อยังไม่มีการแบ่งแยกการครอบครองโดยเด็ดขาด จำเลยจะอ้างว่าครอบครองยึดถือที่งอกแต่ผู้เดียวมิได้ เพราะเป็นกรณียึดถือแทนโจทก์เจ้าของรวมด้วย โจทก์จำเลยจึงเป็นเจ้าของที่งอกจากที่ดินโฉนดนี้ร่วมกัน