คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กักขัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 122 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับโทษทางศุลกากร การกำหนดโทษปรับรายตัว การกักขังแทนค่าปรับ และการริบของกลาง
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 บัญญัติความว่าสำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ ให้ปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว ดังนั้น ถ้าจะปรับจำเลยเรียงตัวคนละ 4 เท่าของอัตราราคานั้น ก็จะเป็นการปรับจำเลยสำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ เกิน 4 เท่าย่อมขัดบทกฎหมายมาตราดังกล่าว และจะนำ มาตรา 31 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับไม่ได้ เพราะได้มีบัญญัติไว้เป็นพิเศษ โดยพระราชบัญญัติศุลกากรต่างหากแล้ว
ศาลอุทธรณ์กล่าวไว้ในคำพิพากษาว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่กำหนดวันกักขังแทน ค่าปรับไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 ควรจะกักขังได้นานกว่านั้นแต่โจทก์ไม่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่พิพากษาแก้ โจทก์ฎีกาขอให้แก้ไข ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าปรับบางส่วนและการหักวันกักขัง ศาลมีอำนาจแก้ไขการบังคับคดีได้
จำเลยขอให้ศาลสั่งคืนเงินค่าปรับบางส่วนที่ได้ชำระไปแล้วโดยจำเลยยอมให้กักขังแทนค่าปรับตามคำพิพากษา ศาลย่อมไม่คืนค่าปรับที่ชำระไปแล้วให้แก่จำเลย กรณีเช่นนี้ ศาลย่อมมีอำนาจสั่งแก้ไขหักวันกักขังให้ได้ตามสมควร หาใช่เป็นการแก้ไขคำพิพากษาไม่ หากแต่เป็นการแก้ไขในการบังคับค่าปรับตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าปรับและการหักวันกักขัง: ศาลมีอำนาจแก้ไขการบังคับคดีได้ แม้คำพิพากษาให้ปรับ
จำเลยขอให้ศาลสั่งคืนเงินค่าปรับบางส่วนที่ได้ชำระไปแล้วโดยจำเลยยอมให้กักขังแทนค่าปรับตามคำพิพากษาศาลย่อมไม่คืนค่าปรับที่ชำระไปแล้วให้แก่จำเลยกรณีเช่นนี้ศาลย่อมมีอำนาจสั่งแก้ไขหักวันกักขังให้ได้ตามสมควร หาใช่เป็นการแก้ไขคำพิพากษาไม่ หากแต่เป็นการแก้ไขในการบังคับค่าปรับตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องมีตัวจำเลยมาศาล แม้จำเลยถูกกักขังในคดีอื่น
จำเลยต้องกักขังตามอำนาจศาลอยู่ในคดีหนึ่ง แล้วหลบหนีไป ต่อมาอัยการจะมาฟ้องจำเลยผู้นั้นในอีกคดีหนึ่งโดยไม่มีตัวจำเลยมาส่งศาลพร้อมฟ้องนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาจำเลยที่อยู่ระหว่างกักขัง - การส่งตัวจำเลย
จำเลยต้องกักขังตามอำนาจศาลอยู่ในคดีหนึ่งแล้วหลบหนีไปต่อมาอัยการจะมาฟ้องจำเลยผู้นั้นในอีกคดีหนึ่ง โดยไม่มีตัวจำเลยมาส่งศาลพร้อมฟ้องนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ทำให้ผู้อื่นถูกจับกุม ไม่ถือเป็นการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังตามกฎหมาย หากเป็นการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
จำเลยเอาเครื่องมือปลอมเงินตราและเหรียญปลอมไปซุกใส่บ้านผู้เสียหาย แล้วจำเลยติดต่อให้ตำรวจมาจับ ตำรวจมาค้นได้ของกลาง และจับผู้เสียหายขัง 4 วัน จึงได้ประกันตัวเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานทำให้เลื่อมเสียอิสรภาพตาม มาตรา 270 เพราะการที่ผู้เสียหายถูกจับตัวไปกักขังนั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลยพินิจของตำรวจที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมตามควรแก่กรณี หาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายแต่ประการใดไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่นำไปสู่การจับกุมผู้อื่นโดยตำรวจ ไม่ถือเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังตามกฎหมาย
จำเลยเอาเครื่องมือปลอมเงินตราและเหรียญปลอมไปซุกใส่บ้านผู้เสียหายแล้วจำเลยติดต่อให้ตำรวจมาจับ ตำรวจมาค้นได้ของกลางและจับผู้เสียหายขัง 4 วัน จึงได้ประกันตัวเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตาม มาตรา 270 เพราะการที่ผู้เสียหายถูกจับตัวไปกักขังนั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของตำรวจที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมตามควรแก่กรณี หาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายแต่ประการใดไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าปรับแล้วไม่อาจขอคืนได้ แม้จำเลยเลือกถูกกักขังแทนค่าปรับที่เหลือ
ศาลลงโทษปรับจำเลย ๆ ชำระค่าปรับบางส่วนแล้ว จำเลยขอให้ศาลสั่งคืนค่าปรับโดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ โดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ เช่นนี้ ศาลจะสั่งคืนค่าปรับให้จำเลยหาได้ไม่ หากจำเลยเห็นว่า จำเลยได้ชำระค่าปรับไปบ้างแล้วและชอบที่จะถูกกักขังแทนค่าปรับน้อยกว่า กำหนดที่ศาลพิพากษาไว้ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องเรียนในแง่นั้น หาใช่มาขอคืนปรับซึ่งชำระไว้โดยถูกต้องแล้วไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าปรับและการกักขังแทนค่าปรับ ศาลไม่คืนเงินค่าปรับที่ชำระแล้ว แม้จำเลยเลือกถูกกักขัง
ศาลลงโทษปรับจำเลย จำเลยชำระค่าปรับบางส่วนแล้ว จำเลยขอให้ศาลสั่งคืนค่าปรับโดยจำเลยขอถูกกักขังแทนค่าปรับ เช่นนี้ ศาลจะสั่งคืนค่าปรับให้จำเลยหาได้ไม่ หากจำเลยเห็นว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับไปบ้างแล้วและชอบที่จะถูกกักขังแทนค่าปรับน้อยกว่ากำหนดที่ศาลพิพากษาไว้ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะร้องเรียนในแง่นั้น หาใช่มาขอคืนค่าปรับซึ่งชำระไว้โดยถูกต้องแล้วไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดต่อเสรีภาพต้องแสดงเจตนาข่มขืนใจหรือหน่วงเหนี่ยว กักขัง การกีดขวางทางเข้าออกที่ไม่สะดวกหรือปลอดภัยไม่ถือเป็นความผิด
การฟ้องขอให้ลงโทษฐานความผิดต่อเสรีภาพนั้น สำหรับมาตรา309 วรรคแรกจะต้องมีข้อเท็จจริงให้ปรากฏว่าจำเลยได้ข่มขืนใจ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพ ฯลฯ และสำหรับมาตรา 310 นั้น ก็จะต้องปรากฏว่าจำเลยได้มีเจตนาหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือทำให้ปราศจากเสรีภาพต่อร่างกายถ้าข้อเท็จจริงปรากฏตามฟ้องว่า โจทก์มีทางเข้าออกได้ แต่ไม่สะดวกและปลอดภัยเท่ากับทางเข้าออกทางประตูเดิม ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ยังไม่พอแสดงถึงการกระทำของจำเลยอันจะเป็นผิดทางอาญาตามขอได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2503)
of 13