พบผลลัพธ์ทั้งหมด 70 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1800/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า – การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินเช่า – สัญญาไม่ได้จำกัดวัตถุประสงค์ – การใช้เพื่อเจียรนัยพลอยไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
จำเลยทำสัญญาเช่าห้องโจทก์ ในสัญญามิได้ระบุว่าเช่าเพื่อใช้เฉพาะเป็นที่อยู่อาศัย แม้จำเลยทำการเจียรนัยพลอยที่ห้องนั้น โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยใช้ห้องเช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในสัญญามิได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องของโจทก์ แล้วเปลี่ยนแปลงใช้ห้องเช่าเป็นโรงเจียรนัยพลอย ดังนี้ เป็นเรื่องหาว่าใช้ห้องเช่าผิดไปจากสัญญา จึงไม่มีประเด็นถึงเรื่องใช้ห้องผิดประเพณีนิยม หรือทำการดัดแปลงต่อเติมทรัพย์ที่เช่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องของโจทก์ แล้วเปลี่ยนแปลงใช้ห้องเช่าเป็นโรงเจียรนัยพลอย ดังนี้ เป็นเรื่องหาว่าใช้ห้องเช่าผิดไปจากสัญญา จึงไม่มีประเด็นถึงเรื่องใช้ห้องผิดประเพณีนิยม หรือทำการดัดแปลงต่อเติมทรัพย์ที่เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ผนังอาคารศาลเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งปลูกสร้าง: สิทธิในการฟ้องร้องและคำบังคับของศาล
โจทก์ระบุในคำฟ้องว่า ในการที่จำเลยเป็นเจ้าของอาคารห้องแถวรายนี้ จำเลยไม่ได้ทำฝากั้นห้องทางด้านหลังโดย(จำเลย) ใช้ตึกศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องของจำเลย และตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ก็ได้ขอให้จำเลยรื้อห้องแถว หรือถ้าขัดข้อง จะบังคับเช่นนั้นไม่ได้ ก็ขอบังคับไม่ให้จำเลยใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้องของจำเลย ดังนี้การที่โจทก์ขอให้บังคับไม่ให้ใช้ฝาผนังศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องแถวด้านหลังของจำเลยนั้น เป็นประเด็นข้อหนึ่งที่โจทก์กล่าวมาในฟ้อง ซึ่งถ้าศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้นศาลก็จำต้องมีคำบังคับในเรื่องนี้ด้วยและคำบังคับในกรณีเช่นนี้อาจเป็นการสั่งให้จำเลยจัดการกั้นฝาห้องของจำเลยเสีย เพื่อให้พ้นจากสภาพใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้อง หรือถ้าจำเลยไม่ทำ ก็อาจให้รื้อสิ่งปลูกสร้างส่วนข้างหลังออกตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าสวนทุเรียนและการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินตามประเพณี: ข้อพิพาทเกี่ยวกับวิธีใช้สวนทุเรียนที่ขัดต่อประเพณี
ประเพณีนิยมปรกติเป็นอย่างไรในการเช่าสวนทุเรียนนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องเลิกสัญญาเช่าและเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์แก้ฉะเพาะให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นแก้น้อยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
โจทก์ฟ้องเลิกสัญญาเช่าและเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์แก้ฉะเพาะให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นแก้น้อยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางน้ำส่วนบุคคลยังไม่เป็นทางสาธารณะ การปิดกั้นไม่ผิดกฎหมาย
ทางน้ำซึ่งมีน้ำไหลเข้าออกได้แต่ไม่มีผู้ใดใช้สายทางนี้ ยังไม่เป็นทางสาธารณ เมื่อจำเลยปิดกั้นทางนี้ จึงไม่มีผิดตามกฎหมายข้างต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 550/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางที่ใช้ในการต้มกลั่นสุราเถื่อน: ศาลต้องริบหากเป็นเครื่องมือโดยตรง แม้เคยใช้ประโยชน์อื่น
ของกลางซึ่งใช้เป็นเครื่องต้มกลั่นสุราต้องริบตามกฎหมายข้างบน แลกฎหมายบทนี้มิได้ให้อำนาจแก่ศาลว่าควรใช้ดุลพินิจให้ริบหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินส่วนบุคคลที่ราษฎรเคยใช้สัญจรตามฤดูกาล ไม่ถือเป็นทางสาธารณะ แม้จะใช้งานมานาน
ที่ดินทางเดินสาธารณะให้เดินชั่วฤดูกาลไม่เรียกว่าทางสาธารณะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางน้ำสาธารณะประโยชน์และการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยมิอาจขัดขวางการไหลของน้ำ แม้ผ่านที่ดินส่วนตัว
ที่ดิน ทางน้ำสาธารณะประโยชน์ที่ไหลมานมนานวิธีพิจารณาแพ่ง ฟ้องตัดสิน ค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4946/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสรีภาพชุมนุมต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่นและกฎหมาย การใช้พื้นที่สาธารณะต้องเหมาะสมตามปกติวิสัย
แม้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 44 วรรคหนึ่ง ซึ่งใช้บังคับขณะเกิดเหตุจะบัญญัติให้บุคคลมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธก็ตาม แต่ก็มิได้หมายความว่าประชาชนจะสามารถใช้เสรีภาพของตนโดยปราศจากขอบเขตหรือไปละเมิดต่อสิทธิของประชาชนผู้อื่นด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่ใช้เสรีภาพดังกล่าวถึงขั้นเป็นการละเมิดหรือกระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง เพราะกฎหมายที่ตราออกมาใช้บังคับต่อประชาชนทุกคนย่อมมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจัดระเบียบและรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น หากมีการกระทำอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย ก็จะอ้างว่าเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยถือเป็นการชุมนุมโดยสงบหาได้ไม่ การที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 กับพวกใช้ไหล่ทางของถนนเพชรเกษมอันเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงเป็นที่ตั้งเต็นท์รวมทั้งวางสิ่งของต่าง ๆ จึงเป็นการกีดขวางและอาจเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือยานพาหนะที่สัญจรไปมาในทางหลวงแล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จะอ้างว่าไม่มีเจตนาเนื่องจากถูกเจ้าพนักงานตำรวจขัดขวางมิให้เดินต่อไปหาได้ไม่ เพราะจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ย่อมเล็งเห็นผลจากการกระทำของตนว่าการตั้งสิ่งของเหล่านั้นกีดขวางและอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและยานพาหนะที่สัญจรไปมาบนทางหลวงได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 กระทำไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการทางหลวง การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จึงเป็นความผิดตามฟ้อง
แม้ไหล่ทางถนนเพชรเกษมจะเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ก็ตาม แต่การใช้ประโยชน์ของประชาชนย่อมต้องกระทำไปตามปกติวิสัย เช่นการใช้สัญจรไปมาอย่างบุคคลทั่วไป แต่การที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 กับพวกกางเต็นท์และวางสิ่งของไว้บริเวณไหล่ทางของถนนตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2547 เป็นเวลาเกือบสามเดือน จึงไม่ใช่เป็นการใช้ประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยชอบ
แม้ไหล่ทางถนนเพชรเกษมจะเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ก็ตาม แต่การใช้ประโยชน์ของประชาชนย่อมต้องกระทำไปตามปกติวิสัย เช่นการใช้สัญจรไปมาอย่างบุคคลทั่วไป แต่การที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 กับพวกกางเต็นท์และวางสิ่งของไว้บริเวณไหล่ทางของถนนตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2547 เป็นเวลาเกือบสามเดือน จึงไม่ใช่เป็นการใช้ประโยชน์จากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5226/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินกรณีสายส่งไฟฟ้า: การชดเชยค่าทดแทนและขอบเขตอำนาจตามกฎหมาย
พ.ร.บ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยฯ มาตรา 28 ให้อำนาจจำเลยที่ 1 ที่จะใช้สอยหรือเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในความครอบครองของบุคคลใดๆ ซึ่งมิใช่เคหสถานเป็นการชั่วคราวเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า และมาตรา 29 ให้อำนาจจำเลยที่ 1 เดินสายส่งไฟฟ้าใต้ เหนือ ตาม หรือข้ามพื้นดินของบุคคลใด ปักหรือตั้งเสาลงในหรือบนพื้นดินของบุคคลใดซึ่งมิใช่เป็นที่ตั้งโรงเรือน ทั้งนี้ให้จำเลยที่ 1 แจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทราบ ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 เดินสายส่งไฟฟ้าผ่านเหนือที่ดินทั้งสองแปลงของโจทก์และปักเสาไฟฟ้าลงในที่ดินดังกล่าวโดยมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ผู้ครอบครองทราบแล้ว เป็นการกระทำภายใต้กรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ และถึงแม้ว่าโจทก์จะคัดค้านการกระทำของจำเลยที่ 1 ก็ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดเผยความลับทางการค้าต้องเป็นการเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ มิใช่แค่ใช้ภายในบริษัท หรือขายสินค้าที่ผลิตโดยใช้ความลับนั้น
กรณีจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ความลับทางการค้า พ.ศ.2545 มาตรา 33 ข้อเท็จจริงต้องได้ความว่าจำเลยทั้งหกได้เปิดเผยความลับทางการค้าของโจทก์ให้เป็นที่ล่วงรู้โดยทั่วไปในประการที่ทำให้ความลับทางการค้านั้นสิ้นสภาพการเป็นความลับทางการค้า แต่ตามคำฟ้องโจทก์เป็นเรื่องที่โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 นำข้อมูลที่โจทก์อ้างว่าเป็นความลับทางการค้าไปเปิดเผยแก่จำเลยที่ 6 ซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมา แม้ตามกฎหมายจะถือว่าจำเลยที่ 6 เป็นบุคคลซึ่งแยกออกมาต่างหากจากจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ผู้ร่วมกันจัดตั้งจำเลยที่ 6 ก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่า กรณีเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 นำข้อมูลที่โจทก์อ้างว่าเป็นความลับทางการค้าไปใช้เองโดยวิธีการจัดตั้งบริษัทจำเลยที่ 6 ขึ้นมาเพื่อประโยชน์ในธุรกิจการค้าของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 เท่านั้น ข้อมูลทางการค้าหรือความลับทางการค้านั้นก็คงอยู่ในความรับรู้ของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 หรือจำเลยที่ 6 เท่านั้น มิได้เป็นการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้เป็นที่ล่วงรู้แก่บุคคลอื่นโดยทั่วไปตามความในมาตรา 33 ดังกล่าว แต่อย่างใด