พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,140 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7635/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบุคคลภายนอกคดีพิสูจน์กรรมสิทธิ์ที่ดิน แม้ศาลมีคำสั่งถึงที่สุดแล้ว
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 และคดีถึงที่สุดแล้วนั้น เมื่อผู้คัดค้านอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้คัดค้าน โดยผู้คัดค้านมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ในขณะที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ผู้คัดค้านจึงเป็นบุคคลภายนอกคดีมีอำนาจที่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 (2) ผู้คัดค้านชอบที่จะเสนอคดีต่อศาลอย่างคดีมีข้อพิพาทเป็นคดีใหม่ และกรณีนี้มิใช่เป็นกรณีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 7 (4) เพราะคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งให้ที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ไม่ใช่คำสั่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งตามความหมายของ ป.วิ.พ. มาตรา 7 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาซื้อขายที่ดินและการครอบครอง: จำเลยมีสิทธิครอบครองต่อเนื่องหากโจทก์ผิดนัดชำระราคา
โจทก์ครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก. อันเป็นที่ดินพิพาทมาก่อนทำสัญญาซื้อขายจากจำเลย แต่เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาซื้อขายโดยไม่ชำระราคาที่ดินส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2540 จำเลยก็กลับเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา แสดงว่าจำเลยไม่ได้มีเจตนาสละการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ในวันทำสัญญาซื้อขาย การครอบครองของโจทก์ดังกล่าวเป็นการครอบครองแทนจำเลย จำเลยจึงยังคงเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6500/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและทุนทรัพย์: ศาลฎีกาวินิจฉัยการฟ้องครอบครองที่ดินซ้ำหรือไม่ พิจารณาจากขอบเขตที่ดินพิพาทและมูลค่า
คดีก่อนจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ออกจากที่ดินเนื้อที่ 25 ตารางวา ซึ่งมีบ้านปลูกอยู่โจทก์ให้การต่อสู้อ้างสิทธิครอบครองและศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินเนื้อที่ 25 ตารางวา คดีถึงที่สุดแล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเพื่อขอแสดงสิทธิครอบครองในที่ดินเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน ซึ่งรวมทั้งที่ดินพิพาทในคดีก่อนด้วย ดังนี้ ในคดีก่อนย่อมไม่มีประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินพิพาทส่วนที่นอกเหนือจากเนื้อที่ 25 ตารางวา ฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินพิพาทนอกเหนือจากเนื้อที่ 25 ตารางวา ที่พิพาทกันในคดีก่อนจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5683/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาครอบครองยาเสพติดต่างกัน ถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวน 10 เม็ด และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับไปทั้งหมด ต่อมาเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมจำเลยพบว่ายังมีเฮโรอีนอยู่ในครอบครองที่ตัวจำเลยอีกจำนวน 1 หลอดนั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จำเลยมีเจตนาครอบครองเมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในลักษณะต่างกัน ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5683/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงบทกฎหมายยาเสพติดกระทบต่อการกำหนดโทษและการพิจารณาความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองและจำหน่าย
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวน 10 เม็ด และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับไปทั้งหมด ต่อมาเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมจำเลยพบว่ายังมีเฮโรอีนอยู่ในครอบครองที่ตัวจำเลยอีกจำนวน 1 หลอด แสดงว่าจำเลยมีเจตนาครอบครองเมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในลักษณะต่างกัน ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5238/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินโดยเจตนาซ่อนเร้น ไม่อาจได้สิทธิภาระจำยอม แม้ครอบครองนาน
การที่จำเลยสร้างฐานรากของโรงเรือนซึ่งเป็นส่วนที่ฝังอยู่ใต้ดินรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ โดยมีเจตนาซ่อนเร้นปกปิดการกระทำที่ไม่ชอบของตน จึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยทั้งสองครอบครองที่ดินส่วนที่รุกล้ำของโจทก์โดยเปิดเผยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 ประกอบมาตรา 1401 แม้จะมีการครอบครองมานานเท่าใด จำเลยทั้งสองก็ไม่ได้สิทธิภาระจำยอมในที่ดินดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5039/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง: การรับเลี้ยงชั่วคราวเพื่อส่งมอบ ไม่ถือเป็นความผิด
คำว่า "ครอบครอง" ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มิได้บัญญัติให้มีความหมายเป็นพิเศษ ต้องถือว่ามีเจตนายึดถือเพื่อตนตามหลักกฎหมายทั่วไป การที่จำเลยรับเลี้ยงดูหมีควายหรือหมีดำของกลางซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ชั่วคราวเพื่อรอให้สถานีเพาะเลี้ยสัตว์ป่ามารับไปในภายหลังนั้น จำเลยไม่มีเจตนายึดถือเพื่อตน จึงหาใช่เป็นการมีไว้ในครอบครองอันเป็นความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างมาในคำฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5030/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้จับกุมก่อนรับเงิน แต่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์แล้ว
จำเลยทั้งห้าตกลงจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่ผู้ล่อซื้อ โดยจำเลยทั้งห้าตรวจดูเงินที่ใช้ในการล่อซื้อและพาสิบตำรวจเอก อ. ไปตรวจรับเมทแอมเฟตามีนของกลางที่ซ่อนไว้ในบังกาโล จากนั้นได้นำของกลางทั้งหมดขึ้นรถยนต์กระบะคันที่จำเลยที่ 1 ขับ และวางเมทแอมเฟตามีนของกลางอยู่ที่วางเท้าด้านซ้าย ซึ่งเป็นด้านที่สิบตำรวจเอก อ. นั่งมาเพื่อส่งมอบต่อให้แก่ร้อยตำรวจเอก บ. ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า แม้จำเลยทั้งห้าจะถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมก่อนรับเงินค่าซื้อขายของกลาง การซื้อขายเมทแอมเฟตามีนของกลางซึ่งตรวจนับจำนวนแน่นอนและส่งมอบแล้ว ย่อมเป็นอันเสร็จบริบูรณ์ ไม่ใช่เป็นแต่เพียงพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4793/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน การครอบครองประโยชน์ใช้สอย และสิทธิยึดหน่วงบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์
โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายที่ดินพิพาท โดยมีข้อตกลงว่าจะไปจดทะเบียนแบ่งแยกและโอนให้โจทก์เมื่อจำเลยนำที่ดินพิพาทไปออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้ว จึงเป็นสัญญาจะซื้อขายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคสองโจทก์ชำระเงินให้จำเลยครบถ้วนและจำเลยมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้วแม้สิทธิครอบครองจะยังไม่โอนมาเป็นของโจทก์เพราะคู่สัญญาประสงค์จะให้มีการโอนทางทะเบียน แต่โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิยึดหน่วงที่ดินพิพาทไว้จนกว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ได้ โจทก์ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงย่อมมีสิทธิบังคับให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ได้ตามมาตรา 193/27 และ 241 แม้โจทก์จะฟ้องคดีเกิน 10 ปี คดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ
แม้โจทก์จะมีคำขอท้ายฟ้องขอให้จำเลยไปแบ่งแยกที่ดินด้านทิศใต้ส่วนที่โจทก์ครอบครอง แล้วโอนให้โจทก์เป็นเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ ก็เป็นเพียงประมาณการเท่านั้นเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินให้ช่างรังวัดสอบเขตและทำแผนที่พิพาทตามคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยโจทก์และจำเลยเป็นผู้นำชี้ซึ่งช่างรังวัดที่ดินพิพาทส่วนที่โจทก์ครอบครองได้เนื้อที่27 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตามเนื้อที่ซึ่งปรากฏในแผนที่พิพาทได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
แม้โจทก์จะมีคำขอท้ายฟ้องขอให้จำเลยไปแบ่งแยกที่ดินด้านทิศใต้ส่วนที่โจทก์ครอบครอง แล้วโอนให้โจทก์เป็นเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ ก็เป็นเพียงประมาณการเท่านั้นเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินให้ช่างรังวัดสอบเขตและทำแผนที่พิพาทตามคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยโจทก์และจำเลยเป็นผู้นำชี้ซึ่งช่างรังวัดที่ดินพิพาทส่วนที่โจทก์ครอบครองได้เนื้อที่27 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตามเนื้อที่ซึ่งปรากฏในแผนที่พิพาทได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2744/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินเช่าที่กลายเป็นที่ชายตลิ่ง สิทธิของผู้เช่าสิ้นสุดเมื่อสัญญาหมดอายุ
จำเลยปลูกบ้านในที่ดินพิพาทที่เช่าจากโจทก์ ต่อมาที่ดินพิพาทใต้บ้านถูกน้ำกัดเซาะเป็นเหตุให้ตลิ่งพังทลายลงสู่แม่น้ำกลายสภาพเป็นที่ชายตลิ่งโดยที่จำเลยยังคงทำสัญญาเช่าที่ดินพิพาทกับโจทก์ตลอดมาและโจทก์ยังคงสงวนสิทธิแห่งความเป็นเจ้าของเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เป็นค่าเช่าที่ดินพิพาทอยู่ มิได้ปล่อยทิ้งให้เป็นที่ชายตลิ่งที่ประชาชนทั่วไปจะเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ดังนั้น ที่ดินพิพาทจึงมิใช่ที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304(2) เมื่อสัญญาเช่าที่ดินพิพาทสิ้นสุดลงจำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในที่ดินพิพาทของโจทก์อีกต่อไป โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้