พบผลลัพธ์ทั้งหมด 82 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลต้องคำนวณจากทุนทรัพย์ที่ฟ้องทั้งหมด แม้คำขอท้ายฟ้องจะระบุจำนวนน้อยกว่า
ฟ้องโจทก์ระบุรายการทรัพย์เป็นจำนวนเงินมาก แต่คำขอท้ายฟ้องขอเอาแต่น้อยโดยไม่ปรากฏว่า โจทก์ประสงค์จะเรียกร้องเอาเงินจำนวนไหนเท่าไร ดังนี้ ต้องเรียกค่าขึ้นศาลเต็มรายการทุกจำนวนไม่ใช่เสียค่าขึ้นศาลเฉพาะจำนวนที่ขอท้ายฟ้อง ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำขอท้ายฟ้องหลังศาลพิพากษาแล้ว เป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
คำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีแดงของศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 1637/2484 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นับโทษตามนั้น ต่อมาโจทก์ขอให้แก้เรื่องนับโทษต่อเป็นให้นับต่อจากคดีแดงที่ 1637/2483 เพื่อให้ตรงกับความจริงเช่นนี้ถือว่าศาลได้พิพากษาตรงตามคำขอของโจทก์แล้ว ไม่ใช่เป็นการเขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด จึงแก้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การระบุเวลาและความสอดคล้องกับคำขอท้ายฟ้อง
ฟ้องต้องระบุวันเดือนและเวลา แต่ถ้าไม่ปรากฎเวลาก็ต้องระบุไว้ การที่ระบุเวลากลางวันหรือกลางคืน แต่ตามคำขอท้ายฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นมาตราที่ลงโทษผู้กระทำผิดในเวลากลางวันนั้น เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องซึ่งศาลควรสั่งให้โจทก์แก้เสีย ให้ถูกต้องได้ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237-1238/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีวิวาททำร้ายร่างกายและถึงแก่ความตาย ศาลลงโทษตามคำขอในฟ้องได้
เมื่อมีผู้ถูกบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้ระหว่างคน+แต่ 3 คนขึ้นไป แต่ปรากฎว่าจำเลยเป็นผู้ทำร้ายดังนี้ ก็ลงโทษจำเลยตาม ม.256 ได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฝ่ายหนึ่ง+ตายกับพวกอีก 2 คนฝ่ายหนึ่งวิวาททำร้ายกันเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงตาย อ้าง ม.251+ด้วย และในฟ้องก็กล่าว+จำเลยเป็นผู้ทำร้ายเมื่อปรากฎว่าจำเลยเป็นผู้ทำร้ายผู้ตายถึงตายดังนี้ศาลก็ลงโทษจำเลยตาม ม.251 ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลย: การขาดคำขอท้ายฟ้องและบทกฎหมายอ้างอิง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว แลต้องโทษมาแล้วมากระทำผิดภายในกำหนด แต่มิได้มีคำขอท้ายฟ้องและอ้างบทขอให้เพิ่มโทษจำเลยศาลจะเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1579/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานมีสตางค์ปลอมไว้จำหน่าย การตีความคำขอท้ายฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เครื่องมือทำสตางค์ปลอมขึ้นไว้เพื่อจำหน่ายแลจับสตางค์ปลอมได้ที่จำเลยทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมีสตางค์ปลอมไว้จำหน่ายดังนี้ ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7509/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธุระจัดหาการค้าประเวณี: การตีความคำขอท้ายฟ้องและการลงโทษตามกฎหมายที่ถูกต้อง
โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยฐานเป็นธุระจัดหาให้ผู้อื่นกระทำการค้าประเวณี ครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 9 วรรคหนึ่ง ส่วนคำขอท้ายฟ้องแม้จะอ้างพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี แต่ความผิดฐานเป็นธุระจัดหาให้ผู้อื่นกระทำการค้าประเวณีตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง มีบัญญัติเป็นความผิดอยู่ในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ส่วนตาม พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503 บัญญัติเป็นความผิดอยู่ในมาตรา 8 มิใช่มาตรา 9 ดังนี้ การที่ระบุขอให้ลงโทษตามมาตรา 9 ย่อมแปลได้ว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 นั่นเอง มิใช่ประสงค์ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503 แต่อย่างใด จึงหาใช่เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างกฎหมายที่ถูกยกเลิกแล้วมาขอให้ลงโทษจำเลย อันจะมีผลเท่ากับโจทก์มิได้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (6) ไม่ ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 9 วรรคหนึ่ง ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4340/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำขอท้ายฟ้อง และการปรับบทกฎหมายอาญาที่แก้ไขใหม่ ศาลไม่ถือว่าเป็นการพิพากษาเกินคำขอ
โจทก์บรรยายฟ้องได้ความว่า จำเลยขับรถจักรยานยนต์ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องดังกล่าว กล่าวถึงการกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 160 ตรี วรรคสี่ ซึ่งเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2550 มาตรา 11 โดยชัดแจ้งแล้วการที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 160 ตรี ย่อมหมายถึงมาตรา 160 ตรี ที่เพิ่มเติมแล้วนั่นเอง แม้โจทก์ไม่ได้อ้าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2550 มาตรา 11 ก็เป็นเพียงโจทก์อ้างบทกฎหมายไม่ครบถ้วนชัดเจนเท่านั้น และถือว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 160 ตรี ซึ่งเพิ่มโดย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2550 มาตรา 11 แล้ว ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12603/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดฉ้อโกง แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 341 โดยตรง ศาลลงโทษตามมาตรา 343 ได้
ตามคำฟ้องของโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 343 โดยไม่ได้อ้าง ป.อ. มาตรา 341 แต่ความผิดฐานดังกล่าวก็เป็นการกระทำที่มีองค์ประกอบมาจากความผิดฐานฉ้อโกงตาม ป.อ. มาตรา 341 เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 343 วรรคแรกได้ ไม่เป็นการเกินคำขอตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8281/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอท้ายฟ้องอาญา การพิพากษาเกินคำขอ และการยกข้อกฎหมายใหม่ในชั้นฎีกา
รายการในฟ้องส่วนที่เป็นคำขอท้ายฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (6) ระบุแต่เพียงให้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดเท่านั้น หาได้บังคับว่าต้องระบุวรรคมาด้วยไม่ ดังนั้น แม้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 339 โดยไม่ได้ระบุวรรคมาด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ดังฟ้อง ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคสอง ได้ มิได้เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
ปัญหาดังกล่าวแม้เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น แต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้
ปัญหาดังกล่าวแม้เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น แต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้