พบผลลัพธ์ทั้งหมด 96 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ที่ดินขายฝาก: โจทก์จงใจไม่ไถ่ให้จำเลยเพื่อรักษากรรมสิทธิ์ ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ไถ่คืน
โจทก์ชนะคดีมา 2 ศาล จำเลยฎีกาอย่างคนอนาถา เมื่อจำเลยชนะคดีในชั้นฎีกา ศาลฎีกาให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาในนามของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1703/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำบังคับที่ไม่อาจทำได้เนื่องจากกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ ศาลไม่ถือว่าจงใจขัดขวาง
ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเช็คพิพาทให้โจทก์ แต่จำเลยไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ เนื่องจากเช็คพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลอื่นไปแล้วกรณียังถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ อันจะเป็นเหตุให้กักขังจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับทราบวันนัดพิจารณาคดีจากหมายเหตุในคำให้การ ถือเป็นหน้าที่ของจำเลย การขาดนัดจึงถือว่าจงใจ
เมื่อจำเลยลงชื่อท้ายคำให้การซึ่งได้หมายเหตุในช่องที่จำเลยลงชื่อว่า"ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องรอฟังคำสั่งศาล การที่ศาลมีคำสั่งอย่างใดในวันที่จำเลยยื่นคำให้การ ก็ต้องถือว่าจำเลยผู้ยื่นคำให้การนั้นได้รับทราบคำสั่งของศาลแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการดำเนินการตามกฎหมาย แม้ไม่ไต่สวนคำร้องก็ไม่ขัดต่อกระบวนการ
จำเลยยังคงมีสำนักงานทำการค้าขายอยู่ที่ตึกแถวพิพาท การส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้องก็ส่งให้จำเลย ณ ตึกแถวพิพาททั้งก็เป็นการส่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด จึงถือได้ว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง มิได้บังคับว่าศาลจะต้องทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยอีก ไม่ขัดกับกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2909/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้จงใจไม่แจ้งสิทธิจำนองเพื่อหวังเอาเปรียบเจ้าหนี้รายอื่น ศาลระงับสิทธิจำนองได้
ตามเอกสารที่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้อ้างส่งเป็นพยานชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ปรากฏว่าหนี้ตามสัญญากู้เงินรวม 7 ฉบับ ลูกหนี้นำที่ดินรวม 10 โฉนดจำนองเป็นประกัน (โดยระบุเลขโฉนด) และในหนังสือสัญญากู้เงินทุกฉบับระบุที่ดินที่ลูกหนี้จะนำมาจำนอง ทั้งสัญญาจำนองทุกฉบับก็อยู่ที่เจ้าหนี้ ดังนั้น การที่เจ้าหนี้ละเว้นไม่แจ้งในคำขอรับชำระหนี้ว่าหนี้ที่ขอรับชำระหนี้มีจำนองเป็นประกัน และไม่กรอกรายละเอียดแห่งทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันในบัญชีประกอบคำขอซึ่งจำเป็นต้องกรอก จึงเห็นได้ชัดว่าเจ้าหนี้ประสงค์ขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้ไม่มีประกัน ทั้งนี้ เพื่อจะเอาหลักประกันไว้บังคับชำระหนี้เป็นการเอาเปรียบเจ้าหนี้ผู้อื่นด้วย หาใช่ว่าการละเว้นนั้นเกิดขึ้นโดยพลั้งเผลอไม่คดีจึงไม่มีเหตุอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้มีประกันภายในเงื่อนไขตามมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ ศาลชอบที่จะสั่งให้สิทธิจำนองเหนือที่ดินนั้นเป็นอันระงับไปตามมาตรา 97
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2036/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนนัดพิจารณาคดีและการขาดนัดพิจารณา: จำเลยไม่จงใจขาดนัดหากไม่ทราบวันนัดใหม่
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 5 ตุลาคม 2520 ในวันที่4 ตุลาคม 2520 ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าติดว่าความที่ศาลอื่น ขอให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 14 พฤศจิกายน 2520ครั้นถึงวันนัดทนายจำเลยไปว่าความศาลอื่นตามที่อ้าง ดังนี้การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันที่ 5 ตุลาคม 2520 อันเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์อนุญาตให้เลื่อนคดีกำหนดวันนัดใหม่ ให้นัดสืบพยานโจทก์วันที่ 14พฤศจิกายน 2520 เวลา 8.30 น. อันเป็นวันที่ทนายจำเลยขอให้นัดไว้ แต่ไม่ปรากฏว่าทนายจำเลยได้ทราบคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานโจทก์ในวันนัดใหม่นั้นแล้ว แม้ทนายจำเลยจะไม่ได้ติดตามสอบถามเพราะหลงลืม และต่อมาจำเลยและทนายจำเลยไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ก็ยังไม่พอจะถือว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลตามนัดโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้แจ้งให้ศาลทราบ ถือเป็นการจงใจไม่มาศาล
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ถึงวันนัดพิจารณาคำร้องจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้ว ไม่มาศาล และไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ จำเลยอ้างว่าทนายจำเลยต้องไปตรวจตราทรัพย์ของลูกความคดีอื่นที่ถูกเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ ขากลับการจราจรติดขัด กลับมาไม่ทัน แต่ทนายจำเลยก็มิได้ยื่นคำร้องไว้เป็นหลักฐาน แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะดำเนินการเกี่ยวกับการร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ต่อไป ถือได้ว่าจำเลยจงใจไม่มาศาล ศาลย่อมสั่งยกคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2246/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและพิจารณาคดี การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้จงใจขาดนัด
จำเลยเดินทางออกจากประเทศไทยไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อศึกษาเล่าเรียนตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2512 และกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2515 โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าจ้างว่าความจากจำเลย เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2514 จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยจงใจขาดนัด รายงานของเจ้าพนักงานเดินหมายระบุว่าได้ส่งคำบังคับให้จำเลยรับ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2519 เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ในวันที่ 16 สิงหาคม 2519 จึงไม่เกินกำหนดตามกฎหมาย จำเลยมีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205
วันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และพยานโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว ในระหว่างพิจารณาคดีฝ่ายเดียวทนายจำเลยมาศาล แต่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสองและวรรคสามโดยเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้วก็นัดฟังคำพิพากษาเลยทีเดียว โดยมิได้วินิจฉัยว่าการขาดนัดของจำเลยเป็นไปโดยจงใจหรือไม่เสียก่อนจนเป็นเหตุให้จำเลยไม่ได้สืบพยานของตนและแพ้คดี อันเป็นกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2), 247พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสองและวรรคสามโดยให้วินิจฉัยว่าการขาดนัดของจำเลยเป็นไปโดยจงใจหรือไม่แล้วมีคำสั่งหรือดำเนินการพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1710/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอพิจารณาคดีใหม่ แม้ทิ้งคำร้องก่อนหน้า การขาดนัดพิจารณาคดีโดยไม่ได้จงใจ
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยไม่มาศาล โดยไม่ทราบเหตุขัดข้องศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณา ให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วโจทก์แถลงหมดพยาน ศาลสั่งนัดสืบพยานจำเลยก่อนถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ คำร้องของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นคำร้องที่อ้างว่าการขาดนัดพิจารณานั้น มิได้เป็นไปโดยจงใจ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 แม้เมื่อถึงวันนัดนั้นทนายจำเลยจะแถลงว่ายังไม่ได้ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์ ซึ่งถือว่าจำเลยทิ้งคำร้องก็ตาม ก็ไม่เป็นผลให้ตัดสิทธิจำเลยที่จะยื่นคำขอให้มีการพิจารณาใหม่หลังจากที่ศาลได้สั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและมีคำพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีในประเด็นที่พิพาทแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 และเมื่อจำเลยมีคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อีกโดยถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ก็ชอบที่ศาลจะรับคำร้องของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป