พบผลลัพธ์ทั้งหมด 254 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลตามนัดของโจทก์ และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
บทบัญญัติตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 และ 181 ได้กำหนดหน้าที่ของโจทก์ว่า ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาคดี โจทก์จะต้องมาศาลตามนัดมิฉะนั้นก็ให้ศาลยกฟ้องเสีย เว้นแต่จะมีเหตุสมควรศาลจึงจะให้เลื่อนคดีไป บทบัญญัติดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่จะเร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็วมิให้มีการประวิงคดี จึงกำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด
ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ไม่มาศาลเพราะทนายความจำเลยขอเลื่อนคดีไปโดยโจทก์ตกลงยินยอมกับทนายจำเลยไว้ และโจทก์เชื่อโดยสุจริตว่าศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีได้ เป็นการคาดคะเนของโจทก์ ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคสอง
ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ไม่มาศาลเพราะทนายความจำเลยขอเลื่อนคดีไปโดยโจทก์ตกลงยินยอมกับทนายจำเลยไว้ และโจทก์เชื่อโดยสุจริตว่าศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีได้ เป็นการคาดคะเนของโจทก์ ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม: การลดค่าเสียหายที่ศาลกำหนดไม่ถือว่าโจทก์ดำเนินคดีไม่สุจริต
ความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียม ป.วิ.พ. มาตรา 161 บัญญัติให้เป็นดุลพินิจของศาลโดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดีการที่ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดค่าเสียหายให้จำเลยชดใช้แก่โจทก์ต่ำกว่าที่โจทก์ขอมาในฟ้อง ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ดำเนินคดีโดยไม่สุจริต ศาลพิพากษาให้จำเลยรับผิดค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นแทนโจทก์ตามทุนทรัพย์ที่ฟ้อง เป็นการใช้ดุลพินิจที่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเกี่ยวกับเช็คที่ไม่มีมูลความผิด เพื่อให้ดำเนินคดีผู้อื่น เป็นความผิดอาญา
จำเลยมิได้แลกเช็คจาก ศ. เพียงแต่รับสมอ้าง จึงไม่เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยไปแจ้งความแก่พนักงานสอบสวนว่าเป็นผู้ทรงโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเช็คที่ไม่มีมูลความผิดเพราะโจทก์มิได้ลงวันที่สั่งจ่าย เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่โจทก์อันจะแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 ประกอบมาตรา 174 วรรคสอง เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173 ประกอบ มาตรา 174 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้วย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรา 137 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก และไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งยังดำเนินได้แม้ฟ้องเดิมถูกจำหน่ายคดี: สิทธิจำเลยในการเรียกร้องค่าเสียหายจากโจทก์
ศาลสั่งรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณา แม้ต่อมาโจทก์จะทิ้งฟ้องและศาลได้สั่งจำหน่ายคดีอันทำให้ไม่มีฟ้องเดิมที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปก็ตาม แต่ก็ยังมีตัวโจทก์ที่ยังคงเป็นจำเลยขอฟ้องแย้งอยู่ จึงมีคู่ความครบถ้วนทั้งสองฝ่ายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการมอบอำนาจดำเนินคดี: การเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจไม่ทำให้ฟ้องเสียหาย
การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม.ผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนคนเดิม ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียหายและหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทน โจทก์ก็ได้ยื่นต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้ว กรณีไม่จำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการมอบอำนาจดำเนินคดี: การเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจไม่ทำให้ฟ้องเสียหาย
โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม. ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียหาย และโจทก์ก็ได้ยื่นหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้ว หาจำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการมอบอำนาจดำเนินคดี: การเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจไม่ทำให้ฟ้องเสียหาย
ประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้เป็นเรื่อง เกี่ยวกับโจทก์มอบอำนาจให้ ม. ไม่ถูกต้อง เมื่อโจทก์มี ป. มาเบิกความยืนยันประกอบหนังสือมอบอำนาจว่าโจทก์ได้มอบอำนาจ ให้ ม.ดำเนินคดีแทน จำเลยมิได้สืบโต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นจึงฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ ม. ดำเนินคดีแทน การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม.เป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ ฟ้องของโจทก์เสียหาย และหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนโจทก์ได้ยื่นต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้วกรณีนี้ หาจำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6125/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องอุทธรณ์: ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจตามพฤติการณ์คดี หากผู้ร้องแสดงเหตุสมควรและประสงค์ดำเนินคดีต่อ
การทิ้งฟ้องที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามป.วิ.พ. มาตรา 132(1) นั้น มิได้บังคับโดยเด็ดขาดว่าจะต้องจำหน่ายคดีเสมอไป บทบัญญัติดังกล่าวให้ศาลใช้ดุลพินิจตามพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่อง ๆ ไป ได้ความว่าเหตุที่ผู้ร้องมิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในกำหนด เพราะมีเหตุอันสมควร ซึ่งต่อมาผู้ร้องได้แถลงขอให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้คัดค้านจนผู้คัดค้านได้รับและยื่นคำแก้อุทธรณ์แล้ว แสดงว่าผู้ร้องประสงค์ให้ดำเนินคดีต่อไป จึงไม่สมควรที่จะจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4260/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการร้องทุกข์ การดำเนินคดีต่อจำเลยที่ 2 แม้บันทึกจะระบุเฉพาะจำเลยที่ 1
ตามบันทึกการร้องทุกข์มอบคดีความผิดอันยอมความได้โจทก์ร่วมขอร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยที่ 1 คนเดียว และในบันทึกนั้นได้แจ้งพฤติการณ์แห่งความผิดต่อพนักงานสอบสวนไว้ว่านายโกและจำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกระทำความผิดต่อโจทก์ร่วมอย่างไรบ้าง แล้วพนักงานสอบสวนได้สั่งออกหมายจับทั้งนายโกและจำเลยทั้งสองไว้ ต่อมาเมื่อจำเลยที่ 2 เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนในวันนั้นเองโจทก์ร่วมก็ชี้ตัวจำเลยที่ 2 ยืนยันว่าร่วมกระทำผิดด้วยฟังได้ว่าโจทก์ร่วมร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนโดยมีเจตนาให้จำเลยที่ 2 ได้รับโทษด้วย มิใช่เจตนาที่จะให้จำเลยที่ 1 ได้รับโทษแต่เพียงคนเดียว การที่บันทึกการร้องทุกข์มอบคดีความผิดอันยอมความได้ระบุว่าโจทก์ร่วมขอร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยที่ 1 คนเดียวเป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนผู้จดบันทึกคำร้องทุกข์เองหาใช่โจทก์ร่วมไม่มีเจตนาจะให้จำเลยที่ 2 ได้รับโทษด้วยไม่การร้องทุกข์และการสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลยที่ 2 เป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1645/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา 15 วัน ซึ่งศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 วรรคท้ายทั้งกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดนั้นก็เป็นเวลาที่สมควรการที่โจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจึงถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2) ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตามมาตรา 132(1) ประกอบด้วยมาตรา 246 ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า ได้ไปเสียค่าใช้จ่ายในการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ไว้แล้วนั้น ถ้าแม้ข้ออ้างของโจทก์จะเป็นจริงก็ไม่ทำให้โจทก์หมดหน้าที่ ที่จะต้องจัดการนำส่งตามคำสั่งของศาลชั้นต้น