พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1437/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์: ฟ้องไม่เคลือบคลุม ศาลฎีกาตัดสินกลับ จำเลยมีความผิด
บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของโจทก์มีใจความว่าเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2524 เวลากลางวัน ผู้เสียหายได้นำรถจักรยานสองล้อ 1 คัน ของผู้เสียหายฝากจำเลยไว้และจำเลยครอบครองรถของผู้เสียหายตลอดมา ตามวันเวลาดังกล่าวหลังจากจำเลยรับฝากและครอบครองรถไว้แล้วจำเลยได้เบียดบังเอารถของผู้เสียหายมาเป็นของจำเลยโดยทุจริตดังนี้ ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 19 และครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา352 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3091-3092/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์: การกระทำผิดเป็นกรรม ๆ ไปตามจำนวนครั้งที่กระทำ
เจ้าอาวาสเจ้าของโรงเรียนมอบอำนาจให้ผู้มีชื่อไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาว่าจำเลยทุจริตยักยอกเงินของโรงเรียน เป็นการร้องทุกข์โดยถูกต้องแล้ว เจ้าอาวาสเบิกความต่อศาลว่า ที่ให้ไปแจ้งความก็เพื่อให้ได้เงินคืน ไม่ต้องการให้จำเลยรับโทษทางอาญา ไม่ทำให้การแจ้งความร้องทุกข์ที่ได้กระทำไว้แล้วโดยชอบเสียไป และไม่ใช่ถอนคำร้องทุกข์ด้วย
เมื่อสิ้นภาคเรียนจำเลยมีหน้าที่ต้องนำเงินของโรงเรียนมอบให้เจ้าอาวาสทุกครั้งไป ครั้งใดจำเลยไม่ส่งมอบแต่กลับยักยอกเอาเป็นประโยชน์ของตนเสีย ก็เป็นความผิดฐานยักยอกสำหรับครั้งนั้นสำเร็จขาดตอนไปเป็นกรรมหนึ่ง การยักยอกของจำเลยจึงเป็นความผิดเป็นกรรม ๆ ไปตามจำนวนครั้งที่จำเลยกระทำการยักยอก
เมื่อสิ้นภาคเรียนจำเลยมีหน้าที่ต้องนำเงินของโรงเรียนมอบให้เจ้าอาวาสทุกครั้งไป ครั้งใดจำเลยไม่ส่งมอบแต่กลับยักยอกเอาเป็นประโยชน์ของตนเสีย ก็เป็นความผิดฐานยักยอกสำหรับครั้งนั้นสำเร็จขาดตอนไปเป็นกรรมหนึ่ง การยักยอกของจำเลยจึงเป็นความผิดเป็นกรรม ๆ ไปตามจำนวนครั้งที่จำเลยกระทำการยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2840/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้หักเงินชำระหนี้ ไม่เป็นการบังคับคดี ยึดหรืออายัดทรัพย์
โจทก์ได้ตกลงยินยอมให้จำเลยหักเงินเดือนเดือนสุดท้ายเงินสะสมพร้อมดอกเบี้ย และเงินบำเหน็จของโจทก์เพื่อชดใช้หนี้เงินยืมที่โจทก์ยืมจากจำเลย ตามระเบียบขององค์การผลิตอาหารสำเร็จรูปว่าด้วยเงินสะสมของผู้อำนวยการและพนักงานอสร. พ.ศ.2516 การหักเงินดังกล่าวหาใช่เป็นการบังคับคดียึดหรืออายัดเงินดังกล่าวของลูกหนี้แต่ประการใดไม่ กรณีจึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 286 มาใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแลกบ้านที่มีลักษณะคล้ายเช่าทรัพย์ สัญญาเช่าต้องทำเป็นหลักฐานเป็นหนังสือจึงมีผลบังคับใช้
การที่โจทก์จำเลยตกลงแลกบ้านกันอยู่ โดยจำเลยเข้าอยู่ในบ้านพิพาทซึ่งเป็นของโจทก์ และโจทก์เข้าอยู่ในบ้านที่จำเลยเช่าจากผู้มีชื่อ โดยจำเลยต้องจ่ายเงินค่าเช่าให้แก่ผู้มีชื่อเดือนละ 300 บาท. และต้องจ่ายเงินให้แก่โจทก์อีกเดือนละ 200 บาทนั้นเป็นข้อตกลงที่เป็นสัญญาเช่าทรัพย์ หาใช่เป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทอื่นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ: ต้องเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ไม่ใช่แค่พาทรัพย์ที่ชิงไป
ความผิดตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 15 มาตรา 340 ตรี นั้น ต้องได้ความว่าได้ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด ฯลฯไม่ใช่ชิงรถจักรยานยนต์พาไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามวิ่งราวทรัพย์: การกระทำยังไม่บรรลุผล แต่มีเจตนาและร่วมวางแผน
ผู้เสียหายจับสร้อยที่สวมคอไว้ ม. กระชากสร้อยขาดแต่ยังติดมือผู้เสียหายอยู่ ยังเป็นแต่จะทำให้สร้อยขาดหลุดจากคอเท่านั้น การเอาไปยังไม่บรรลุผล ผู้เสียหายร้องขึ้น ม. วิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยติดเครื่องคอยอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามขับหนีไปตามแผนการณ์ที่ร่วมกันวางไว้เป็นการพยายามวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ จำเลยเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน2514 ข้อ 13 ด้วย
คดีที่ ม. เป็นจำเลย ศาลลงโทษตามคำรับสารภาพฐานวิ่งราวทรัพย์เป็นความผิดสำเร็จ คดีที่ศาลสั่งให้แยกฟ้องจำเลยนี้ได้ความว่าการกระทำเป็นเพียงพยายาม ศาลลงโทษคดีนี้ฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์
คดีที่ ม. เป็นจำเลย ศาลลงโทษตามคำรับสารภาพฐานวิ่งราวทรัพย์เป็นความผิดสำเร็จ คดีที่ศาลสั่งให้แยกฟ้องจำเลยนี้ได้ความว่าการกระทำเป็นเพียงพยายาม ศาลลงโทษคดีนี้ฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2406-2408/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนใจเอาทรัพย์, ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ, กรรโชกทรัพย์, และข่มขืนใจผู้เสียหาย
เจ้าพนักงานตำรวจได้ข่มขืนใจผู้เสียหายให้มอบเงินแก่ตน 500 บาท โดยกล่าวหาว่าเล่นการพนัน เมื่อผู้เสียหายขอให้เพียง 100 บาทก็ไม่พอใจ ทำร้ายผู้เสียหายและแกล้งจับโดยไม่มีอำนาจนำไปส่งสถานีตำรวจเช่นนี้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148,337 วรรคสอง,309 วรรคสอง และ295 โดยสำหรับความผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 309และความผิดฐานกรรโชกตามมาตรา 337 นั้น เมื่อผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้นแล้ว แม้จะยอมไม่เต็มตามที่ถูกเรียกร้องก็เป็นความผิดสำเร็จ ส่วนความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามมาตรา 148เพียงแต่ผู้กระทำผิดมีเจตนาจะให้เขาส่งมอบทรัพย์สินให้ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว แม้ผู้ถูกข่มขืนใจจะไม่ยอมตามนั้นก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์แล้วเกิดการยิงต่อสู้ ศาลตัดสินเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ใช่ชิงทรัพย์
คืนเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้เสียหายรู้ว่าได้มีคนร้ายลักกระบือของผู้เสียหายไป ผู้เสียหายกับพวกได้ออกติดตามไป ผู้เสียหายกับพวกได้ออกติดตามไปเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร จึงทันจำเลยกับพวกที่ลักกระบือกำลังจูงกระบือไป ผู้เสียหายกับพวกไม่ทราบว่าคนร้ายคนใดมีอาวุธปืนและใช้ยิงมาทางผู้เสียหาย 1 นัด ผู้เสียหายจึงยิงไปทางคนร้าย 1 นัด กระสุนปืนถูกคนร้ายคนหนึ่ง ทราบภายหลังว่าเป็นจำเลย การใช้กำลังประทุษร้ายได้เกิดขึ้นหลังจากการลักทรัพย์ได้ขาดตอนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ มิใช่ความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2157/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดี ยักยอกทรัพย์ แม้รายละเอียดทรัพย์แตกต่างเล็กน้อย ศาลไม่ถือว่าเป็นข้อแตกต่างสาระสำคัญ
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยยักยอกเงินที่ผู้เสียหายมอบให้นำไปเข้าบัญชีเงินฝากของผู้เสียหาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ผู้เสียหายเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมอบให้นำไปฝากเข้าบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัด เงินจำนวนดังกล่าวแม้จะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด แต่ก็เป็นเงินที่อยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของผู้เสียหาย ผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ และผู้ว่าคดีโจทก์มีอำนาจฟ้อง กรณีดังกล่าวไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความแตกต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องในข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้รับมอบเงินจากผู้เสียหายถือว่าจำเลยไม่ได้หลงต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2767/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดชิงทรัพย์ ต้องมุ่งต่อการเอาทรัพย์ หากมีเจตนาอื่น การกระทำนั้นเป็นเพียงลักทรัพย์
การลักทรัพย์ที่จะเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 นั้น ในขณะที่ผู้กระทำผิดใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเจตนาของผู้กระทำผิดจะต้องเป็นไปเพื่อให้ความสะดวกในการลักทรัพย์ เพื่อพาทรัพย์ไปเพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ หรือเพื่อยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าในขณะที่จำเลยขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย จำเลยมีเจตนาเพียงแต่จะข่มขู่ผู้เสียหายซึ่งเคยเป็นภรรยาจำเลยให้กลับไปอยู่กับจำเลยอีก แม้สร้อยคอของผู้เสียหายจะขาดติดมือจำเลยไปเมื่อจำเลยดึงคอเสื้อของผู้เสียหายก็ตาม การกระทำของจำเลยก็หาเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ไม่ แต่การที่จำเลยได้สร้อยคอของผู้เสียหายแล้วจำเลยเอาไว้เสียโดยทุจริตไม่คืนให้ผู้เสียหายถือได้ว่าเจตนาลักทรัพย์ได้เกิดขึ้นแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334