คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ธุรกิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 103 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการกีดกั้นการเข้าถึงที่ดินและสร้างความเสียหายต่อธุรกิจของผู้อื่น
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินและตึกแถวที่เช่าอยู่ติดกับตลาดสดเทศบาลที่จำเลยที่ 1 สร้างขึ้นบนที่ดินราชพัสดุซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยที่ 3 จนให้ที่ดินราชพัสดุกลายเป็นย่านชุมชนและย่านการค้า การที่จำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 สร้างกำแพงพิพาทสูงถึง 3 เมตรกั้นระหว่างที่ดินราชพัสดุกับที่ดินของโจทก์ เป็นการปิดกั้นหน้าที่ดินและตึกแถวของโจทก์ ทำให้ไม่สะดวกในการไปมาติดต่อระหว่างตึกแถวของโจทก์กับตลาดสดเทศบาล และเป็นเหตุขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นซื้อหรือเช่าตึกแถวของโจทก์ การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นการใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรหรือคาดหมายได้ จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์และโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 และมาตรา 1337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2441/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดินประกอบธุรกิจ: ลักษณะสัญญาเช่าธรรมดา
เช่าที่ดินปลูกบ้านอยู่และเป็นโรงงานคั่วกาแฟ โดยเสียเงินค่าตอบแทน 15,000 บาท และถมดินซึ่งทำเพื่อประโยชน์แก่ผู้เช่า เป็นสัญญาเช่าธรรมดา ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนอย่างอื่นนอกเหนือจากการเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายรถยนต์โดยให้เช่าซื้ออยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัท
วัตถุประสงค์ของบริษัทโจทก์มีการจำหน่ายรถยนต์ ถือว่าการที่โจทก์จำหน่ายรถยนต์โดยให้เช่าซื้อก็อยู่ในวัตถุประสงค์ของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานลงรายการเท็จในบัญชี ต้องพิสูจน์การออกประกาศรัฐมนตรี กำหนดประเภทธุรกิจที่ต้องทำบัญชีตามกฎหมาย
ข้อ 31 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 285 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายนพ.ศ. 2515 ระบุโยงไปให้ใช้พระราชบัญญัติการบัญชี พุทธศักราช 2482 บังคับในกรณีที่ยังไม่มีประกาศของรัฐมนตรีกำหนดธุรกิจที่ต้องขัดทำบัญชี ออกตามข้อ 5 ของประกาศคณะปฏิวัติดังกล่าวใช้บังคับ ซึ่งพระราชบัญญัติการบัญชีฯมาตรา 6 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบัญชี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2496มาตรา 3 ก็บัญญัติให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า กิจการประเภทใดในท้องที่ ใดที่จะต้องทำบัญชีขึ้น หาใช่ว่าบุคคลผู้ประกอบกิจการทุกประเภทจะต้องจัดทำบัญชีไม่ เหตุนี้ เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่ารัฐมนตรีผู้มีอำนาจหน้าที่ได้ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้มีการจัดทำบัญชีสำหรับการประกอบกิจการในประเภทที่โจทก์ฟ้องให้เป็นการถูกต้องตามข้อ 31 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 285 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติการบัญชีฯดังกล่าวแล้ว ฟ้องโจทก์จึงขาดความสำคัญซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดและผู้สนับสนุน
ห้างหุ้นส่วนจำกัดมีผู้เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดเป็นคนไทย 1 คน ผู้เป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดเป็นคนต่างด้าว 1 คน ถือเป็นคนต่างด้าวตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่281 ห้างหุ้นส่วนนี้ทำการค้าประกอบธุรกิจนายหน้า ตัวแทนค้าปลีกสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิด คนไทยผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้สนับสนุน
โทษปรับนิติบุคคลจะกักขังแทนเงินไม่ได้ จึงจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา29 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบธุรกิจค้ำประกันไม่เข้าข่ายนายหน้า/ตัวแทน เสียภาษีตามประเภทธุรกิจธนาคาร
โจทก์เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจการค้าหลายประเภทซึ่งรวมทั้งการเข้าทำสัญญาค้ำประกันต่อธนาคาร ในการประกอบธุรกิจในทางค้ำประกันโจทก์ได้ทำสัญญาต่อธนาคารกรุงเทพ จำกัด โดยโจทก์จะรับเข้าเป็นผู้ค้ำประกันในบรรดาธุรกิจต่างๆ ซึ่งธนาคารจะมอบหมายให้เป็นผู้ค้ำประกันผู้เคยค้าที่จะทำนิติกรรมผูกพันกับธนาคาร ซึ่งในการนี้ธนาคารได้ช่วยค่าใช้จ่ายให้โจทก์เป็นรายเดือนๆ ละไม่น้อยกว่า 5,000 บาททุกเดือน และยังแบ่งผลประโยชน์ที่ธนาคารจะพึงได้รับจากดอกเบี้ยที่โจทก์เข้าค้ำประกันให้อีก ทั้งธนาคารยอมให้โจทก์เรียกผลประโยชน์ในการค้ำประกันจากลูกหนี้ตามสมควร โดยได้รับความเห็นชอบจากธนาคาร เพื่อประกันความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของโจทก์ โจทก์ได้นำหลักทรัพย์มูลค่าสิบล้านบาทมาวางเป็นประกันไว้ต่อธนาคารการประกอบกิจการค้าของโจทก์ดังกล่าวแล้วเป็นเรื่องที่โจทก์ประกอบธุรกิจของโจทก์เองโดยโจทก์ใช้ทรัพย์สินเป็นการลงทุนวางเป็นประกันต่อธนาคารและในการที่โจทก์เข้าทำสัญญาค้ำประกันลูกหนี้กับธนาคารนั้น แม้โจทก์จะได้รับประโยชน์ตอบแทน โจทก์ก็เสี่ยงในการที่จะได้รับความเสียหายในฐานะร่วมรับผิดต่อธนาคารในฐานะเป็นผู้ค้ำประกันเป็นส่วนตัว การประกอบกิจการค้าของโจทก์จึงไม่เข้าลักษณะเป็นนายหน้าและตัวแทน ทั้งมิใช่เป็นการรับจัดธุรกิจให้ผู้อื่นตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 10 แต่เป็นการประกอบธุรกิจการค้าในประเภทการค้า 12 ธนาคาร โดยกิจการของโจทก์เข้าลักษณะกิจการของผู้ที่ประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาคมประกอบธุรกิจประกันชีวิตโดยผลประโยชน์จากค่าบำรุงและสงเคราะห์ศพ ถือเป็นการประกันชีวิต
วิธีดำเนินการของสมาคมซึ่งถือว่าเป็นการประกอบธุรกิจประกันชีวิตแล้ว(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2516 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการไม่คืนห้องเช่าและผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด โดยอ้างเหตุว่าจำเลยไม่คืนห้องที่เช่าไปให้โจทก์ ทำให้โจทก์ไม่อาจใช้ห้องเปิดสถานพยาบาลทำให้โจทก์ขาดรายได้จากการนี้เดือนละ1,500 บาท โจทก์ไม่ได้สืบว่าจำเลยรู้หรือควรจะได้รู้ว่าโจทก์จะใช้ห้องพิพาทเปิดสถานพยาบาลเมื่อศาลฟังว่าการที่จำเลยละเมิดทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ไป 1,500 บาทศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรับผิดในเงินจำนวนนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกเพื่อประกอบธุรกิจไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายควบคุมค่าเช่า แม้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย
จำเลยเช่าตึกพิพาทเพื่อประกอบการค้า ฉะนั้น ถึงแม้จำเลยจะใช้ตึกพิพาทอยู่อาศัยด้วย ตึกพิพาทก็มิใช่เคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ
คดีนี้ พิพาทกันก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ออกใช้ จึงต้องบังคับคดีตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 แต่อย่างไรก็ดี เมื่อฟังว่าจำเลยใช้ตึกพิพาทเพื่อประกอบธุรกิจการค้า จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภรรยาจากการทำธุรกิจร่วมกัน การรับรองหนี้โดยภรรยาผูกพันสามี
สามีเป็นผู้ผลิตแร่แล้วส่งไปให้ภรรยาจัดการจำหน่ายหนี้สินที่เกิดขึ้นถือได้ว่าเป็นหนี้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(3)
of 11