คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
น.ส.3

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2389/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ซื้อขายที่ดิน ส.ค.1 ผู้ซื้อผิดสัญญาเมื่อไม่ไปรับโอนแม้ผู้ขายดำเนินการออก น.ส.3 แล้ว
ซื้อขายที่ดิน ส.ค.1 อาจขอ น.ส.3 พร้อมกับโอนขายได้การที่ผู้ขายไปหอทะเบียนเพื่อออก น.ส.3 กับขอขาย แต่ผู้ซื้อไม่ไปรับโอน ผู้ซื้อเป็นผู้ผิดสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินหลังออกโฉนด: สิทธิจำนองเป็นโมฆะเมื่อ น.ส.3 ถูกยกเลิกด้วยการออกโฉนด
การที่อำเภอได้ออกใบแทนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)ในที่พิพาทให้เจ้าของที่ดิน จนกระทั่งสำนักงานที่ดินได้ออกโฉนดที่ดินที่พิพาทให้เจ้าของที่ดินไปแล้ว ดังนี้ถือได้ว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ฉบับเดิมเป็นอันยกเลิกแล้วตามความในมาตรา 63 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ต่อมาเจ้าของที่ดินได้นำต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวไปจำนองไว้กับโจทก์ โดยจดทะเบียนการจำนอง ณ ที่ว่าการอำเภอ แล้วต่อมาเจ้าของที่ดินได้นำที่ดินแปลงเดียวกันนี้พร้อมโฉนดไปขายฝากให้บุตรจำเลยโดยจดทะเบียนการขายฝากที่สำนักงานที่ดินจังหวัด แล้วไม่ไถ่คืนภายในกำหนดดังนี้ แม้โจทก์จะรับจำนองไว้โดยจดทะเบียนถูกต้องและสุจริตก็ตามก็หามีผลบังคับแก่ที่ดินแปลงพิพาทไม่ โจทก์ผู้รับจำนองไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลย (ผู้รับโอนมรดกที่พิพาท) ไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทจากโจทก์
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินหลังออกโฉนด: น.ส.3 ถูกยกเลิกตามกฎหมาย ทำให้จำนองไม่สมบูรณ์
การที่อำเภอได้ออกใบแทนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)ในที่พิพาทให้เจ้าของที่ดิน จนกระทั่งสำนักงานที่ดินได้ออกโฉนดที่ดินที่พิพาทให้เจ้าของที่ดินไปแล้ว ดังนี้ถือได้ว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ฉบับเดิมเป็นอันยกเลิกแล้วตามความในมาตรา 63 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ต่อมาเจ้าของที่ดินได้นำต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวไปจำนองไว้กับโจทก์ โดยจดทะเบียนการจำนอง ณ ที่ว่าการอำเภอ แล้วต่อมาเจ้าของที่ดินได้นำที่ดินแปลงเดียวกันนี้พร้อมโฉนดไปขายฝากให้บุตรจำเลยโดยจดทะเบียนการขายฝากที่สำนักงานที่ดินจังหวัด แล้วไม่ไถ่คืนภายในกำหนด ดังนี้ แม้โจทก์จะรับจำนองไว้โดยจดทะเบียนถูกต้องและสุจริตก็ตามก็หามีผลบังคับแก่ที่ดินแปลงพิพาทไม่ โจทก์ผู้รับจำนองไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลย (ผู้รับโอนมรดกที่พิพาท) ไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทจากโจทก์
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1758/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินมือเปล่า: การโอนและการคุ้มครองสิทธิ แม้มี น.ส.3 ก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์
โจทก์ซื้อที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าจาก ต. และ ครอบครองทำกินมาเป็นเวลานานปีแล้ว แม้ ต. จะได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)ที่พิพาทแปลงนี้ และโอนขายให้จำเลยภายหลัง ซึ่งรับซื้อไว้โดยสุจริตดังปรากฏหลักฐานการโอนตามหนังสือ น.ส.3 ก็ตาม จำเลยก็หาได้ไปซึ่งสิทธิในที่พิพาทแต่อย่างใดไม่ เพราะ น.ส.3 หาใช่เป็นหลักฐานกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนเช่นโฉนดที่ดินไม่ จึงจะนำมาตรา 1299, 1300ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้แก่กรณีนี้มิได้ (เทียบเคียงฎีกาที่ 1076-1077-1078/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1758/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินมือเปล่า แม้มี น.ส.3 ก็ไม่ถือเป็นเจ้าของ การโอนต้องด้วยเจตนาสละการครอบครอง
โจทก์ซื้อที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าจาก ต. และครอบครองทำกินมาเป็นเวลานานปีแล้ว แม้ ต. จะได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)ที่พิพาทแปลงนี้ และโอนขายให้จำเลยภายหลัง ซึ่งรับซื้อไว้โดยสุจริตดังปรากฏหลักฐานการโอนตามหนังสือ น.ส.3 ก็ตาม จำเลยก็หาได้ไปซึ่งสิทธิในที่พิพาทแต่อย่างใดไม่ เพราะ น.ส.3 หาใช่เป็นหลักฐานกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนเช่นโฉนดที่ดินไม่ จึงจะนำมาตรา 1299, 1300 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้แก่กรณีนี้มิได้ (เทียบเคียงฎีกาที่ 1076-1078/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินพิพาท: การแจ้งการครอบครอง/น.ส.3 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิหากที่ดินเป็นทางสาธารณะ
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ เพราะมีหนังสือแจ้งการครอบครอง(ส.ค.1) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เป็นพยานหลักฐานจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นทางสาธารณะ แผนที่ที่ดินที่ปรากฏตามสำเนา ส.ค.1 และ น.ส.3 ท้ายฟ้องโจทก์ยังไม่ถูกต้อง เพราะความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ เป็นการตั้งประเด็นโต้แย้งโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ กับปฏิเสธแผนที่ตามสำเนา ส.ค.1 และ น.ส.3ท้ายฟ้องโจทก์ว่า ยังไม่ถูกต้อง จึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเพียงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จึงต้องเป็นฝ่ายนำสืบก่อน
ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของถนนหรือทางสาธารณะ แม้โจทก์จะแจ้งการครอบครองหรือมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินย่อมไม่เกิดจากการครอบครองทับทางสาธารณะ แม้มี ส.ค.1 หรือ น.ส.3
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ เพราะมีหนังสือแจ้งการครอบครอง(ส.ค.1) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เป็นพยานหลักฐานจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นทางสาธารณะ แผนที่ที่ดินที่ปรากฏตามสำเนา ส.ค.1 และ น.ส.3 ท้ายฟ้องโจทก์ยังไม่ถูกต้องเพราะความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ เป็นการตั้งประเด็นโต้แย้งโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ กับปฏิเสธแผนที่ตามสำเนา ส.ค.1 และ น.ส.3 ท้ายฟ้องโจทก์ว่า ยังไม่ถูกต้อง จึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเพียงว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จึงต้องเป็นฝ่ายนำสืบก่อน
ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของถนนหรือทางสาธารณะ แม้โจทก์จะแจ้งการครอบครองหรือมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ น.ส.3 ไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ์ที่ดิน แต่เป็นเพียงการรับรองการทำประโยชน์และสิทธิในการโอน
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เป็นเพียงคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าได้ทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว และให้โอนกันได้เท่านั้น หาใช่เป็นหลักฐานกรรมสิทธิ์ว่าผู้มีชื่อในหนังสือนั้นเป็นเจ้าของที่ดินทางทะเบียนเช่นโฉนดที่ดินไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13846/2553 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดคุ้มครองกว่าสิทธิของผู้ครอบครองทำประโยชน์ แม้มี น.ส.3
ธนาคาร ก. ผู้ซื้อที่ดินพิพาทโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลย่อมได้รับความคุ้มครองสิทธิมิให้เสียไป แม้ที่ดินพิพาทมิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้โดยคำพิพากษา ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1330 โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทจากธนาคาร ก. อีกทอดหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นผู้สืบสิทธิที่ได้รับความคุ้มครองสิทธิที่มีอยู่ตามมาตรา 1330 เช่นเดียวกัน แม้มิใช่ผู้ซื้อที่ดินดังกล่าวจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยตรงก็ตาม แม้โจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินพิพาทโดยทราบมาก่อนว่าจำเลยปลูกบ้านและสิ่งปลูกสร้างอื่นในที่ดินพิพาทเป็นเวลาเกินกว่า 20 ปีแล้ว โดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน และจำเลยมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เป็นหลักฐานจำเลยก็ไม่อาจยกสิทธิดังกล่าวขึ้นใช้ยันสิทธิของโจทก์ทั้งสองที่ได้รับความคุ้มครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1330 ได้ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าโจทก์ทั้งสองมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทดีกว่าสิทธิของจำเลย เมื่อโจทก์ทั้งสองบอกกล่าวด้วยวาจาไม่จำต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือให้จำเลยรื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้างอื่นกับให้ออกไปจากที่ดินพิพาทแล้ว จำเลยยังคงเพิกเฉย โจทก์ทั้งสองย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12639/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทแนวเขตที่ดิน: โจทก์ซื้อโฉนดถูกต้อง จำเลยอ้าง น.ส.3 ทับที่ดินเดิม ศาลยืนตามโฉนด
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์รับโอนที่ดินมาจาก ห. โดยไม่สุจริต โดยไม่ปรากฏว่าไม่สุจริตอย่างไร และทางนำสืบของจำเลยก็ไม่ปรากฏเรื่องนี้ ถือว่าคดีไม่มีประเด็นข้อพิพาทนี้
จำเลยให้การว่าจำเลยคัดค้านการขอรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ เนื่องจากเป็นที่ดินของจำเลย เป็นคำให้การที่ยืนยันว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินตาม น.ส.3 ของจำเลย จึงไม่มีประเด็นเรื่องจำเลยครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทหรือไม่ แม้จำเลยจะให้การด้วยว่า จำเลยกับมารดาร่วมกันครอบครองที่ดินพิพาทต่อเนื่องโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเป็นระยะเวลากว่า 40 ปีแล้วก็ตาม เพราะจะขัดกับคำให้การที่ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะการครอบครองปรปักษ์จะต้องกระทำต่ออสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเท่านั้น
โจทก์ยื่นคำขอรังวัดสอบเขตที่ดินพิพาท จำเลยยื่นคำคัดค้านว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินของจำเลย โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านการรังวัดที่ดินพิพาทของโจทก์ เท่ากับขอให้จำเลยรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์นั่นเอง ซึ่งจำเลยก็ให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย เมื่อคดีฟังได้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทอีกต่อไปตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (1)
of 8