พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงของผู้เช่าและบริวาร กรณีคดีเดิมต้องห้ามฎีกา
คดีบังคับบริวารของผู้เช่าที่ศาลพิพากษาขับไล่จากอสังหาริมทรัพย์ ถ้าคู่ความเดิมในคดีฟ้องขับไล่นั้นต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสองผู้ร้องซึ่งถูกบังคับคดีในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงด้วย ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา248 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเช่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า หากไม่ได้รับอนุญาต ผู้รับโอนยังคงเป็นบริวารของผู้เช่าเดิม
ผู้เช่าห้องแถวโอนสิทธิการเช่า แต่ผู้ให้เช่ายังไม่ได้อนุญาตตามที่ร้องขอผู้รับโอนเข้าอยู่ในห้องแถว ถือว่าผู้รับโอนเป็นบริวารของผู้เช่าศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าจึงบังคับถึงบริวารด้วย คดีของบริวารที่ถูกศาลบังคับฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ตาม มาตรา 248 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่6 พ.ศ.2518
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การบังคับใช้กับบริวารที่ไม่เข้าผูกพันสัญญา
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายนาพิพาทแล้วคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมส่งมอบนาพิพาทให้โจทก์ กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) แม้สัญญาประนีประนอมยอมความจะมีข้อความว่า จำเลยและบริวารจะไม่เกี่ยวข้องกับนาพิพาทต่อไป แต่บริวารของจำเลยก็มิได้ถูกฟ้องและมิได้ตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความด้วย โจทก์จะอาศัยสัญญาประนีประนอมยอมความนี้มาบังคับแก่บริวารของจำเลยด้วยมิได้ จึงไม่มีอำนาจร้องขอให้จับกุมและกักขังผู้ร้องซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นบริวารของจำเลยในการบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ของผู้อยู่อาศัยในที่ดินพิพาทที่อ้างสัญญาจองเช่ากับผู้ก่อสร้าง ย่อมไม่ใช่การเป็นบริวารของจำเลย
โจทก์ในฐานผู้จัดการมรดกของ น.ฟ้องจำเลยว่าทำการก่อสร้างอาคารลงในที่ดินของ น.โดยไม่มีอำนาจ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำขอของโจทก์สั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยและบริวารเข้าไปอยู่และทำการค้าในที่ดิน และอาคารที่กำลังก่อสร้างของ น. ต่อมาศาลชั้นต้นเห็นว่า ย. เป็นบริวารจำเลยมีคำสั่งให้ ย. ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามชั่วคราว ดังนี้เมื่อ ย. ต่อสู้ว่า ย. ได้จองเช่าอาคารจากจำเลยโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและด้วยความรู้เห็นยินยอมของเจ้าของที่ดิน จึงเป็นเรื่อง ย.ยกข้อต่อสู้ของตนเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก ในชั้นนี้ยังฟังไม่ได้ว่า ย.เป็นบริวารของจำเลย ศาลจะบังคับ ย.ตามคำร้องขอให้จับ ย. ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ผู้เช่าเป็นบริวารจำเลย ศาลบังคับคดีได้ แม้มีการยึดทรัพย์
ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย และให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่าของโจทก์ที่ให้จำเลยเช่า จำเลยจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา คือต้องออกและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดิน
การที่มีผู้เช่าสิ่งปลูกสร้างอยู่โดยจำเลยรับว่าผู้เช่าเป็นบริวารของจำเลยมาแต่ต้นจำเลยจะโต้เถียงภายหลังว่าผู้เช่าไม่ใช่บริวารย่อมไม่ได้
เมื่อจำเลยเป็นผู้ให้เช่าสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินโจทก์ แม้คำพิพากษาจะมิได้สั่งให้ผู้เช่าซึ่งเป็นบริวารจำเลยออกไปจากที่ดินของโจทก์คำพิพากษาย่อมใช้บังคับขับไล่ผู้เช่าสิ่งปลูกสร้างได้ด้วย จำเลยจะอ้างเป็นเหตุไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ศาลพิพากษาให้รื้อหาได้ไม่
อ. โจทก์ในคดีแพ่งแดงที่ 82/2514 ยึดห้องแถวและสิ่งปลูกสร้างไว้ตามคำสั่งศาล ไม่เป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีนี้ เพราะการที่จำเลยจะต้องรื้อห้องแถวและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์เป็นการกระทำโดยคำสั่งศาล
การที่มีผู้เช่าสิ่งปลูกสร้างอยู่โดยจำเลยรับว่าผู้เช่าเป็นบริวารของจำเลยมาแต่ต้นจำเลยจะโต้เถียงภายหลังว่าผู้เช่าไม่ใช่บริวารย่อมไม่ได้
เมื่อจำเลยเป็นผู้ให้เช่าสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินโจทก์ แม้คำพิพากษาจะมิได้สั่งให้ผู้เช่าซึ่งเป็นบริวารจำเลยออกไปจากที่ดินของโจทก์คำพิพากษาย่อมใช้บังคับขับไล่ผู้เช่าสิ่งปลูกสร้างได้ด้วย จำเลยจะอ้างเป็นเหตุไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ศาลพิพากษาให้รื้อหาได้ไม่
อ. โจทก์ในคดีแพ่งแดงที่ 82/2514 ยึดห้องแถวและสิ่งปลูกสร้างไว้ตามคำสั่งศาล ไม่เป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีนี้ เพราะการที่จำเลยจะต้องรื้อห้องแถวและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์เป็นการกระทำโดยคำสั่งศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขับไล่บริวารของจำเลย แม้จำเลยออกไปแล้ว ศาลมีอำนาจออกหมายเรียกบริวารมาสอบถามได้
ศาลพิพากษาและออกคำบังคับให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์ แม้ต่อมาโจทก์จะแถลงว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว แต่ก็แถลงว่าคงเหลือแต่บริวารของจำเลย และตามสำเนาทะเบียนบ้านก็ปรากฏว่ามีชื่อผู้ร้องอยู่ในอาคารนี้ อันเป็นหลักฐานในเบื้องต้นว่าผู้ร้องอยู่ในอาคารของโจทก์ในฐานะเป็นบริวารของจำเลย โจทก์ย่อมขอและศาลมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ร้องมาสอบถามได้ ผู้ร้องจะอ้างว่าการที่ศาลหมายเรียกผู้ร้องไม่ชอบเพราะตนเป็นบุคคลนอกคดี คำบังคับที่ศาลออกบังคับแก่จำเลยมิได้บังคับรวมถึงบริวาร หรือบุคคลภายนอกด้วย และโจทก์ได้รับว่าจำเลยได้ออกไปแล้ว ทำให้คำบังคับสิ้นผลไปแล้ว ดังนี้ หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ไต่สวนพยานในประเด็นบริวาร และผลกระทบต่อการอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกามีอำนาจยกอุทธรณ์เมื่อไม่มีประเด็นขึ้นสู่ศาล
คดีมีปัญหาแต่เพียงว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยหรือไม่เมื่อผู้ร้องอุทธรณ์ว่าที่ศาลชั้นต้นฟังว่าผู้ร้องเป็นบริวารโดยไม่ไต่สวนพยานของผู้ร้องก่อนไม่ชอบ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อนี้ผู้ร้องก็มิได้อุทธรณ์คำสั่ง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งไว้ด้วยว่า นอกนั้นให้รับเป็นอุทธรณ์ แต่เมื่ออุทธรณ์ของผู้ร้องไม่มีประเด็นขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์เสียแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกอุทธรณ์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงตัวผู้เช่าทำให้สัญญาเช่าระงับสิ้นสุด ผู้เช่าเดิมไม่มีสิทธิในฐานะผู้เช่าอีกต่อไป
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่า ขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสามออกจากอาคารที่เช่าจำเลยที่ 2 ให้การว่า เดิม ช. สามีจำเลยที่ 2 เป็นผู้เช่าจากโจทก์ ต่อมาจำเลยหย่าขาดจาก ช. จำเลยที่ 2 ขอเป็นผู้เช่าจากโจทก์ โจทก์ยินยอม ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้จำเลยที่ 1 เป็นสามีใหม่ จำเลยที่ 2 จึงขอเปลี่ยนชื่อจำเลยที่ 2 เป็นจำเลยที่ 1 เช่า โจทก์ก็ยินยอมอีกดังนี้ สัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยระงับไปด้วยการเปลี่ยนตัวผู้เช่า จำเลยที่ 2 ไม่มีฐานะเป็นผู้เช่าอีกต่อไป คงเป็นบริวารของจำเลยที่ 1 ศาลย่อมงดสืบพยานจำเลยที่ 2 เสียได้
ข้อที่ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้มีเจตนาที่จะให้จำเลยที่ 1เป็นผู้เช่าอย่างแท้จริง ทั้งโจทก์ก็ได้ทราบถึงเจตนาที่แท้จริงระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ด้วยนั้น ไม่มีในคำให้การ จำเลยเพิ่งอ้างมาในฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 จะได้ทำหนังสือให้คำมั่นแก่โจทก์ไว้อย่างไร จำเลยที่ 2 ไม่รับรอง ประเด็นข้อนี้โจทก์ไม่ต้องนำสืบเพราะการที่โจทก์อ้างหนังสือให้คำมั่นของจำเลยที่ 1 มาในฟ้องก็เพื่อฟ้องจำเลยที่ 1 เท่านั้น เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1 ออกไปแล้ว โจทก์จึงถอนฟ้องจำเลยที่ 1 เสีย คำให้การของจำเลยที่ 2 ในข้อนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลยที่ 2 ในเมื่อจำเลยที่ 2 อยู่ในฐานะบริวารของจำเลยที่ 1
ข้อที่ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้มีเจตนาที่จะให้จำเลยที่ 1เป็นผู้เช่าอย่างแท้จริง ทั้งโจทก์ก็ได้ทราบถึงเจตนาที่แท้จริงระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ด้วยนั้น ไม่มีในคำให้การ จำเลยเพิ่งอ้างมาในฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 จะได้ทำหนังสือให้คำมั่นแก่โจทก์ไว้อย่างไร จำเลยที่ 2 ไม่รับรอง ประเด็นข้อนี้โจทก์ไม่ต้องนำสืบเพราะการที่โจทก์อ้างหนังสือให้คำมั่นของจำเลยที่ 1 มาในฟ้องก็เพื่อฟ้องจำเลยที่ 1 เท่านั้น เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1 ออกไปแล้ว โจทก์จึงถอนฟ้องจำเลยที่ 1 เสีย คำให้การของจำเลยที่ 2 ในข้อนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลยที่ 2 ในเมื่อจำเลยที่ 2 อยู่ในฐานะบริวารของจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะบริวารตามทะเบียนบ้านและการสิ้นสุดสิทธิอยู่ครองเมื่อถูกขับไล่
จำเลยแต่งงานกับ ฉ. แล้วจำเลยขึ้นทะเบียนอยู่บ้านพิพาทกับ ฉ.โดยลงว่าจำเลยเป็นหัวหน้าครอบครัวฉ. เป็นภริยา. จำเลยเช่าที่ดินซึ่งบ้านพิพาทปลูกอยู่จากบิดาโจทก์ได้เสียค่าเช่าตลอดมา. เมื่อจำเลยกับ ฉ. จดทะเบียนหย่ากันแล้ว จำเลยก็ยังไปมาหาสู่ ฉ..ดังนี้ถือว่าฉ.เป็นบริวารจำเลย. เมื่อศาลพิพากษาขับไล่จำเลยให้รื้อเรือนออกไปจากที่ดินโจทก์แล้ว ฉ. ไม่มีสิทธิจะอยู่ได้ต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บังคับคดีตามคำพิพากษา: การบังคับคดีต่อบริวารของผู้เช่า แม้เลขที่ห้องไม่ตรงกับคำพิพากษา
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยและบริวารยอมออกไปจากห้องเลขที่ 34 ของโจทก์ ศาลพิพากษาตามยอม เมื่อโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยออกจากห้อง ผู้ร้องคัดค้านว่าห้องที่ผู้ร้องอยู่คือห้องเลขที่ 35 คนละเลขที่กับคำพิพากษา เมื่อฟังได้ว่า ห้องนี้ก็คือห้องที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าเป็นห้องเลขที่ 34 นั่นเอง ไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา