คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บอกล้างสัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 86 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบอกล้างสัญญาประกันภัย เริ่มนับแต่วันที่ทราบมูลอันจะบอกล้าง ไม่ใช่วันที่ทราบความจริง
อายุความบอกล้างสัญญาประกันภัยตอนแรกของมาตรา 865 วรรคสองนั้นหมายถึงว่า ผู้รับประกันภัยต้องใช้สิทธิบอกล้างภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันที่ผู้รับประกันภัยทราบมูลอันจะบอกล้างได้
โจทก์ยื่นคำขอรับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันชีวิตซึ่งผู้ตายทำไว้กับบริษัทจำเลยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2509 พร้อมด้วยรายงานของนายแพทย์โรงพยาบาลผู้รักษาผู้ตายครั้งสุดท้ายว่า ผู้ตายป่วยเป็นมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่และตายด้วยโรคดังกล่าว และได้ระบุไว้ในรายงานนั้นอีกว่าผู้ตายเคยรับการผ่าตัดด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นเวลาก่อนผู้ตายเอาประกันชีวิตไว้กับบริษัทจำเลย เช่นนี้ถือว่าบริษัทจำเลยย่อมมีเหตุควรทราบได้แล้วว่าผู้ตายได้ปกปิดข้อความจริงดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2509 บริษัทจำเลยจะอ้างว่ารายงานแพทย์ดังกล่าวนั้น ยังไม่แน่นอน บริษัทจำเลยยังต้องสืบสวนต่อไปจนได้ความจริงแน่นอนเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2509 ว่าผู้ตายได้ป่วยและรับการผ่าตัดด้วยโรคดังกล่าวมิได้ เพราะอายุความกฎหมายกำหนดให้เริ่มนับแต่วันที่ทราบมูลอันจะบอกล้างได้เท่านั้นมิใช่เริ่มนับแต่วันที่ทราบความจริง ฉะนั้นเมื่อบริษัทจำเลยบอกล้างโมฆียะกรรมเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2509 ซึ่งเป็นเวลาเกินหนึ่งเดือนแล้วกรมธรรม์ประกันชีวิตจึงมีผลบังคับบริษัทจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกล้างสัญญาของสามีภริยา: สัญญาใดๆ ที่ทำระหว่างเป็นสามีภริยา สิ้นความผูกพันเมื่อบอกล้าง แม้จะฟ้องร้องไปแล้ว
สัญญาทุกประเภท จะเป็นสัญญาในเรื่องใด ๆ ก็ตาม ที่สามีภริยาได้ทำต่อกันในระหว่างเป็นสามีภริยาแม้จะไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา สามีย่อมบอกล้างสัญญานั้นเสียในเวลาใด ๆ ก็ได้ ระหว่างที่ยังเป็นสามีภริยากันอยู่ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าจะต้องบอกล้างก่อนถูกภริยาฟ้อง
การที่สามียื่นคำร้องต่อศาลขอบอกล้างสัญญาดังกล่าวที่ภริยานำมาฟ้อง ในคำร้องขอให้ศาลส่งสำเนาคำร้องให้ภริยาด้วย และภริยาได้รับสำเนาคำร้องแล้วเท่ากับภริยาได้รับคำบอกล้างสัญญาจากสามีโดยตรง การบอกล้างจึงชอบด้วยกฎหมาย และย่อมมีผลให้สัญญาสิ้นความผูกพันเสมือนหนึ่งสามีภริยาไม่เคยทำสัญญาไว้ต่อกันเลย จึงไม่มีทางจะบังคับให้สามีปฏิบัติตามสัญญาในช่วงระยะเวลาก่อนบอกล้างได้อีก
อำนาจฟ้องคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ ศาลก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกล้างสัญญาของสามีภริยา: ผลกระทบต่ออำนาจฟ้องและผลผูกพันสัญญา
สัญญาทุกประเภท จะเป็นสัญญาในเรื่องใดๆก็ตาม ที่สามีภริยาได้ทำต่อกันในระหว่างเป็นสามีภริยา แม้จะไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา สามีย่อมบอกล้างสัญญานั้นเสียในเวลาใดๆ ก็ได้ ระหว่างที่ยังเป็นสามีภริยากันอยู่ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าจะต้องบอกล้างก่อนถูกภริยาฟ้อง
การที่สามียื่นคำร้องต่อศาลขอบอกล้างสัญญาดังกล่าวที่ภริยานำมาฟ้อง ในคำร้องขอให้ศาลส่งสำเนาคำร้องให้ภริยาด้วย และภริยาได้รับสำเนาคำร้องแล้วเท่ากับภริยาได้รับคำบอกล้างสัญญาจากสามีโดยตรง การบอกล้างจึงชอบด้วยกฎหมาย และย่อมมีผลให้สัญญาสิ้นความผูกพันเสมือนหนึ่งสามีภริยาไม่เคยทำสัญญาไว้ต่อกันเลย จึงไม่มีทางจะบังคับให้สามีปฏิบัติตามสัญญาในช่วงระยะเวลาก่อนบอกล้างได้อีก
อำนาจฟ้องคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ศาลก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์สินสมรสหลังยึดทรัพย์ชำระหนี้: สิทธิของสามีภริยาและการบอกล้างสัญญาประนีประนอม
ในกรณีที่ภริยาจำเลยร้องขัดทรัพย์แล้วทำยอมความในศาลกับโจทก์ให้ขายทรัพย์ที่ยึดเอาเงินครึ่งหนึ่งให้ผู้ร้องรับไป อีกครึ่งหนึ่งชำระหนี้โจทก์ เหลือก็คืนจำเลยนั้นหากปรากฏว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง ยินยอมให้ขายชำระหนี้โจทก์ได้แล้ว ก็ไม่มีปัญหาเรื่องจำเลยและผู้ร้องจะมีสิทธิในทรัพย์ที่ยึดอย่างไร คงมีปัญหาอยู่ที่ว่า ฝ่ายใดจะมีสิทธิรับทรัพย์ส่วนของผู้ร้องตามยอมคืนไปเท่าใด และฝ่ายใดจะเป็นผู้ดำเนินคดีแก่ฝ่ายใดเท่านั้น จำเลยจะร้องอ้างว่าไม่ได้อนุญาตให้ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์และทำยอม จึงขอบอกล้างเสียนั้นย่อมไม่ได้เพราะไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับกรณีร้องขัดทรัพย์นี้ ชอบที่จำเลยและผู้ร้องจะไปว่ากล่าวเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการบอกล้างสัญญากู้เงินโดยสามีต่อภรรยา และการสืบพยานขัดแย้งเอกสาร
ภรรยาทำสัญญากู้เงินของเขามาและสามีได้บอกล้างสัญญาแล้ว แม้การบอกล้างของสามีจะเป็นผลทำให้สัญญานั้นตกเป็นโมฆะได้ก็แต่เฉพาะเพียงเท่าที่ผูกพันสินบริคณฑ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 38 เท่านั้น หาได้กระทำให้ตกเป็นโมฆะทั้งหมดไม่ เพราะหญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ทำขึ้นจึงยังสมบูรณ์ผูกพันในทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยาตาม มาตรา 37 ประกอบด้วย มาตรา 1479 ผู้ให้กู้ก็มีสิทธิที่จะบังคับเอาจากทรัพย์สินส่วนของภรรยาได้
จำเลยรับว่า ได้ลงชื่อในใบยืนเงินไว้ในฐานะผู้กู้แล้วจะขอสืบข้อเท็จจริงว่า ที่จำเลยลงชื่อไว้นั้น ได้ลงในฐานผู้ค้ำประกันไม่ได้ เป็นการสืบเถียงฝ่าฝืนเอกสารท้ายฟ้อง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการบอกล้างสัญญากู้โดยสามีต่อภรรยา: สิทธิบังคับคดีจากทรัพย์สินส่วนตัว
ภรรยาทำสัญญากู้เงินของเขามาและสามีได้บอกล้างสัญญาแล้วแม้การบอกล้างของสามีจะเป็นผลทำให้สัญญานั้นตกเป็นโมฆะได้ก็แต่เฉพาะเพียงเท่าที่ผูกพันสินบริคณฑ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 38 เท่านั้น หาได้กระทำให้ตกเป็นโมฆะทั้งหมดไม่ เพราะหญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วนิติกรรมที่ทำขึ้นจึงยังสมบูรณ์ผูกพันในทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยาตาม มาตรา 37 ประกอบด้วย มาตรา 1479ผู้ให้กู้ก็มีสิทธิที่จะบังคับเอาจากทรัพย์สินส่วนของภรรยาได้
จำเลยรับว่า ได้ลงชื่อในใบยืมเงินไว้ในฐานะผู้กู้แล้วจะขอสืบข้อเท็จจริงว่าที่จำเลยลงชื่อไว้นั้น ได้ลงในฐานะผู้ค้ำประกันไม่ได้เป็นการสืบเถียงฝ่าฝืนเอกสารท้ายฟ้อง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดข้อมูลอาชีพและประวัติการประกัน ถือเป็นเหตุบอกล้างสัญญาประกันชีวิตได้
การปกปิดข้อความจริงในเรื่องอาชีพของผู้เอาประกันชีวิต ในเรื่องการชำระเบี้ยประกันของผู้เอาประกัน หรือแม้ในเรื่องที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตไว้ก่อนแล้ว ถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งถ้าบริษัทรับประกันชีวิตทราบความจริงแล้วย่อมจะบอกปัดไม่รับประกัน สัญญาประกันชีวิตเช่นว่านี้เป็นโมฆียะ
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชนในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างสัญญาและการผิดสัญญา ทำให้ผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมดได้
กู้เงิน สัญญาผ่อนชำระเป็นรายเดือนผู้กู้ปฏิเสธสัญญาก่อนครบกำหนดชำระงวดแรกผู้ให้กู้ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ได้ทั้งหมดพร้อมด้วยดอกเบี้ย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การหลอกลวง, การบอกล้างสัญญา, และค่าเสียหายจากการผิดสัญญา
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดิน ที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อจากผู้อื่นให้โจทก์สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยนี้ใช้ได้ถ้าจำเลยขายที่ดินให้โจทก์ไม่ได้เพราะเจ้าของที่ดินที่จะขายให้จำเลยโอนขายที่ดินให้คนอื่นไปเสีย จำเลยผิดสัญญา
จำเลยผิดสัญญาจะขายที่ดิน จำเลยต้องคืนมัดจำ และเสียค่าสินไหมทดแทนคือ ราคาที่คนภายนอกซื้อที่ดินไปสูงกว่าราคาที่จะขายให้โจทก์เท่าใด จำเลยต้องใช้ส่วนที่สูงกว่าให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกล้างสัญญาที่ทำระหว่างสามีภริยาตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1461 ไม่จำกัดประเภทสัญญาและมีระยะเวลาฟ้องร้องได้ภายใน 1 ปีหลังการสิ้นสุดการสมรส
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1461 ระบุไว้ว่า สัญญาใดที่สามีภริยาทำไว้ต่อกันในระหว่างเป็นสามรีภริยานั้น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
จะบอกล้างเสียก็ได้ กฎหมายระบุคำว่าสัญญาที่ทำกันไว้ลอย ๆ จึงย่อมมีความหมายว่า สัญญาใด ๆ ที่ทำไว้ต่อกันไม่ว่า
จะเป็นสัญญาที่จะต้องปฏิบัติกันต่อไปอีกหรือไม่ ก็ย่อมอยู่ในขอบข่ายที่จะบอกล้างได้ตามความในมาตรา 1461 ได้
ทั้งสิ้น.
และตามมาตรา 1461 นี้ ระบุให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบอกล้างสัญญาที่ทำไว้ต่อกันได้ในเวลาใด ๆ ในระหว่างที่เป็นสามีภรรยากันอยู่ หรือภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันขาดจากสามีภริยากัน ฉะนั้นแม้จะทำาสัญญา
ยกกรรมสิทธิที่ดินให้แก่กันเกิน 10 ปีแล้ว แต่มาบอกล้างสัญญานั้นเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันหย่าขาดจาก
การเป็นสามีภริยากัน คดีก็ยังไม่ขาดอายุความ./
of 9