พบผลลัพธ์ทั้งหมด 130 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3428-3429/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดเผยข้อมูลสำคัญในการขอประกันชีวิต หากไม่แจ้งความจริง สัญญาประกันอาจเป็นโมฆียะ
ข้อความจริงตามคำขอเอาประกันชีวิตที่เกี่ยวกับรายได้และความสามารถในการหารายได้ของผู้เอาประกันตลอดจนข้อที่ผู้เอาประกันเคยถูกบริษัทประกันชีวิตอื่นปฏิเสธหรือลดจำนวนเงินขอเอาประกันถือว่าเป็นข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญที่ผู้เอาประกันจะต้องเปิดเผยให้บริษัททราบเพราะอาจจะจูงใจให้บริษัทเรียกเก็บเบี้ยประกันสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาได้เมื่อผู้เอาประกันไม่เปิดเผยข้อความจริงดังกล่าวในเวลาทำสัญญาสัญญานั้นย่อมตกเป็นโมฆียะตามป.พ.พ.มาตรา865และเมื่อบริษัทได้บอกล้างภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วสัญญาย่อมตกเป็นโมฆะบริษัทไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3428-3429/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดเผยข้อมูลสำคัญในสัญญาประกันชีวิต การบอกล้างสัญญาและการตกเป็นโมฆะ
ข้อความจริงตามคำขอเอาประกันชีวิตที่เกี่ยวกับรายได้และความสามารถในการหารายได้ของผู้เอาประกันตลอดจนข้อที่ผู้เอาประกันเคยถูกบริษัทประกันชีวิตอื่นปฏิเสธหรือลดจำนวนเงินขอเอาประกันถือว่าเป็นข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญที่ผู้เอาประกันจะต้องเปิดเผยให้บริษัททราบเพราะอาจจะจูงใจให้บริษัทเรียกเก็บเบี้ยประกันสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาได้เมื่อผู้เอาประกันไม่เปิดเผยข้อความจริงดังกล่าวในเวลาทำสัญญาสัญญานั้นย่อมตกเป็นโมฆียะตามป.พ.พ.มาตรา865และเมื่อบริษัทได้บอกล้างภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วสัญญาย่อมตกเป็นโมฆะบริษัทไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีคม มุ่งหวังผลประโยชน์จากเงินบำเหน็จและประกันชีวิต
จำเลยใช้อาวุธมีคมปาดเชือดคอผู้เสียหายเป็นแผลฉกรรจ์ยาว 15 เซนติเมตร ลึก 6 เซนติเมตร ตัดเข้าหลอดอาหารส่วนต้นและเส้นประสาทกล่องเสียงด้านซ้าย อันเป็นอวัยวะสำคัญ อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากแพทย์ได้ทำการรักษาไว้ทัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย และจำเลยกระทำโดยมีการตระเตรียมและวางแผนการไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้หวังที่จะได้รับเงินบำเหน็จและ เงินประกันชีวิตของผู้เสียหายจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันชีวิตไม่เป็นโมฆียะ แม้ผู้เอาประกันเคยรักษาอาการแพ้และหวัด ไม่ได้เจ็บป่วยด้วยโรคหืดโดยตรง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต สภาพแห่งข้อหาคือสัญญาประกันชีวิต คำขอบังคับคือจำนวนเงินที่โจทก์เรียกร้องข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาคือการที่จำเลยรับประกันชีวิตร.ผู้ตายโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์และร.ตายโดยอุบัติเหตุโจทก์ได้บรรยายฟ้องในข้อที่กล่าวนี้ชัดแจ้งถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสองฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ ส่วนข้อที่ว่าสัญญาเป็นโมฆียะและจำเลยบอกล้างแล้ว เป็นเรื่องที่จำเลยจะยกขึ้นปฏิเสธฟ้องโจทก์ซึ่งถ้าหากจำเลยยกขึ้นก็เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องกล่าวโดยแจ้งชัดถึงข้อเท็จจริงที่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ หาใช่หน้าที่ของโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องแก้คำให้การของจำเลยไว้ล่วงหน้าไม่ฉะนั้น การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าผู้ตายมิได้ป่วยด้วยโรคหืดหลอดลมหรือคออักเสบมาก่อน หรือหากเคยป่วยโดยโรคดังกล่าวมาก่อนก็มีเหตุหลายประการดังที่โจทก์บรรยายในฟ้องที่ทำให้สัญญาไม่เป็นโมฆียะ จึงเป็นการบรรยายเกินเลยจากที่กฎหมายบังคับ แม้ข้อที่ว่า ร.ป่วยจริงหรือไม่โจทก์ยกขึ้นอ้างขัดกันก็ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ผู้ตายมิได้เป็นโรคหืด แต่มีอาการหอบหืดซึ่งเป็นอาการของการแพ้อากาศ และอาการดังกล่าวได้หายไปก่อนที่ผู้ตายยื่นคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว ผู้ตายไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นครั้งคราวด้วยเรื่องหวัดและแพ้อากาศซึ่งมิใช่โรคที่ระบุในแบบสอบถามให้ผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบ เห็นได้ว่าหากจำเลยทราบถึงการที่ผู้ตายเคยไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลและประวัติการเจ็บป่วยของผู้ตายดังกล่าวแล้วก็ไม่เป็นเหตุจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมรับประกันชีวิตผู้ตายหรือเรียกเบี้ยประกันภัยให้สูงขึ้น การที่ผู้ตายได้แจ้งในแบบสอบถามขณะเอาประกันชีวิตว่า ไม่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเคยปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคหรืออาการของโรคหืด จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ
ผู้ตายมิได้เป็นโรคหืด แต่มีอาการหอบหืดซึ่งเป็นอาการของการแพ้อากาศ และอาการดังกล่าวได้หายไปก่อนที่ผู้ตายยื่นคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว ผู้ตายไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นครั้งคราวด้วยเรื่องหวัดและแพ้อากาศซึ่งมิใช่โรคที่ระบุในแบบสอบถามให้ผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบ เห็นได้ว่าหากจำเลยทราบถึงการที่ผู้ตายเคยไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลและประวัติการเจ็บป่วยของผู้ตายดังกล่าวแล้วก็ไม่เป็นเหตุจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมรับประกันชีวิตผู้ตายหรือเรียกเบี้ยประกันภัยให้สูงขึ้น การที่ผู้ตายได้แจ้งในแบบสอบถามขณะเอาประกันชีวิตว่า ไม่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเคยปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคหรืออาการของโรคหืด จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501-503/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท ปลอมเอกสารหลอกลวงประกันชีวิต ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษตามกฎหมายที่หนักที่สุด
จำเลยปลอมใบสมัครสมาชิกประเภทสวัสดิการสงเคราะห์หนังสือรับรองวันมรณะ สำเนาใบมรณะ สำเนาทะเบียนบ้านและใช้เอกสารปลอมเหล่านั้น ก็โดยมีเจตนาที่จะใช้เป็นหลักฐานในการหลอกลวงบริษัทประกันชีวิต เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่จำเลยปลอมไปจนถึงวันที่ใช้เอกสารปลอมฉบับสุดท้ายเพื่อรับเงินจากบริษัท ไม่ว่าจะใช้เอกสารปลอมพร้อมกันครั้งเดียวหรือใช้คนละครั้ง จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายค่าประกันชีวิตกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ: ความหมายของ 'อุบัติเหตุ' ตามกรมธรรม์
สามีโจทก์เอาประกันชีวิตไว้กับจำเลย โดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตมีเงื่อนไขว่า ถ้าสามีโจทก์ถึงแก่ความตายโดยอุบัติเหตุจำเลยจะใช้เงินเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนที่เอาประกัน ระหว่างอายุสัญญา สามีโจทก์เป็นลมล้มลงศีรษะฟาดพื้นสมองได้รับความกระทบกระเทือนถึงแก่ความตาย ดังนี้เห็นได้ว่าที่ผู้ตายเป็นลมหกล้มเป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญปราศจากเจตนาและความคาดหมายของผู้ตาย จึงถือได้ว่าผู้ตายตายเพราะอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันชีวิต จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์สองเท่าตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายค่าประกันชีวิตกรณีตายจากอุบัติเหตุ: การล้มแล้วศีรษะกระแทกพื้นถือเป็นอุบัติเหตุตามกรมธรรม์
สามีโจทก์เอาประกันชีวิตไว้กับจำเลยโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิต มีเงื่อนไขว่า ถ้าสามีโจทก์ถึงแก่ความตายโดยอุบัติเหตุจำเลยจะใช้เงินเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนที่เอาประกัน ระหว่างอายุสัญญา สามีโจทก์เป็นลมล้มลงศีรษะฟาดพื้นสมองได้รับความกระทบกระเทือนถึงแก่ความตายดังนี้เห็นได้ว่าที่ผู้ตายเป็นลมหกล้มเป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญปราศจากเจตนาและความคาดหมายของผู้ตาย จึงถือได้ว่าผู้ตายตายเพราะอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันชีวิต จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์สองเท่าตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าเพื่อหวังเงินประกัน: ไตร่ตรองไว้ก่อนชัดเจน
จำเลยไปติดต่อกับบริษัทประกันภัย เพื่อเอาประกันชีวิตผู้ตายในแบบอุบัติเหตุส่วนบุคคล ระบุจำเลยเป็นผู้รับประโยชน์ แล้วจำเลยมิได้ให้ผู้ตายลงชื่อในคำขอเอาประกันภัย แต่ใช้วิธีปลอมลายมือชื่อผู้ตายลงในคำขอ และเมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้วก็ได้พยายามสร้างเหตุการณ์ขึ้นเพื่อทำให้ดูประหนึ่งว่าผู้ตายตายโดยอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรเพื่อจำเลยจะสามารถรับเงินประกันชีวิตได้แล้วจำเลยได้ไปแจ้งต่อบริษัทรับประกันภัยในวันรุ่งขึ้นจากที่ผู้ตายถูกจำเลยฆ่าตาย ดังนี้ พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีแผนมาตั้งแต่แรกที่จะฆ่าผู้ตายเพื่อหวังประโยชน์จากเงินประกันชีวิตผู้ตาย ถือได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกค่าเสียหายจากละเมิดแม้ได้รับเงินประกันชีวิต และการรับผิดในค่าซ่อมรถเช่าซื้อ
จำเลยขับรถยนต์โดยประมาททำให้คนตาย โจทก์เป็นทายาทฟ้องเรียกค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายเช่าซื้อมาและต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าซื้อได้โจทก์ได้รับเงินประกันชีวิตผู้ตายแล้ว ไม่ทำให้หมดสิทธิที่จะเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นค่าเสียหายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะจากการปกปิดเจ็บป่วยเรื้อรังของผู้ขอเอาประกัน
โรคถุงลมพองเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หายขาดและอาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายได้ โรคถุงลมพองจึงเป็นโรคที่มีความสำคัญอันอาจถือเป็นเหตุให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาประกันชีวิตผู้ขอเอาประกันได้ถ้าจำเลยผู้รับประกันได้ทราบข้อความจริงนี้มาก่อน การที่ผู้เอาประกันรู้ตัวดีว่าป่วยเป็นโรคถุงลมพองเรื้อรังมานานปี เคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลายแห่ง และเคยรับการฉายเอ็กซเรย์มาแล้ว แต่ตอบคำถามแพทย์ผู้ตรวจสุขภาพว่า ไม่เคยเจ็บป่วยเป็นโรคใดๆ ไม่เคยรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงเป็นการละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริง ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีความสำคัญที่จำเลยต้องการทราบเพื่อจะนำไปประกอบการวินิจฉัยว่าจะรับประกันชีวิตผู้ขอเอาประกันหรือไม่สัญญาประกันชีวิตที่ผู้เอาประกันทำไว้กับจำเลยจึงตกเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 วรรคแรก
การตรวจโรคถุงลมพองโดยวิธีธรรมดาจะพบได้ยาก นอกจากฉายเอ็กซเรย์หรือใช้สีฉีดเข้าไปในปอดแล้วฉายเอ็กซเรย์ แต่เมื่อผู้ขอเอาประกันปกปิดมิได้แจ้งเรื่องที่เจ็บป่วยให้แพทย์ผู้ตรวจสุขภาพทราบก็ไม่มีเหตุที่แพทย์จะต้องฉายเอ็กซเรย์ตรวจดูถุงลมของผู้เอาประกันเพราะไม่อาจรู้ได้ว่าผู้เอาประกันเป็นโรคถุงลมพอง นายแพทย์ได้ตรวจร่างกายผู้เอาประกันแล้วเห็นว่าสุขภาพปกติจึงรายงานเสนอความเห็นควรรับประกัน และการรับประกันชีวิตของจำเลยก็พิจารณาจากรายงานของแพทย์ประกอบกับคำขอเอาประกัน เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยผู้รับประกันประมาทเลินเล่อมิได้ กรณีไม่ต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 866
การตรวจโรคถุงลมพองโดยวิธีธรรมดาจะพบได้ยาก นอกจากฉายเอ็กซเรย์หรือใช้สีฉีดเข้าไปในปอดแล้วฉายเอ็กซเรย์ แต่เมื่อผู้ขอเอาประกันปกปิดมิได้แจ้งเรื่องที่เจ็บป่วยให้แพทย์ผู้ตรวจสุขภาพทราบก็ไม่มีเหตุที่แพทย์จะต้องฉายเอ็กซเรย์ตรวจดูถุงลมของผู้เอาประกันเพราะไม่อาจรู้ได้ว่าผู้เอาประกันเป็นโรคถุงลมพอง นายแพทย์ได้ตรวจร่างกายผู้เอาประกันแล้วเห็นว่าสุขภาพปกติจึงรายงานเสนอความเห็นควรรับประกัน และการรับประกันชีวิตของจำเลยก็พิจารณาจากรายงานของแพทย์ประกอบกับคำขอเอาประกัน เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยผู้รับประกันประมาทเลินเล่อมิได้ กรณีไม่ต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 866