คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประทานบัตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1890/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่และการละเมิด: การคัดค้านขัดขวางการดำเนินการขอประทานบัตร
การดำเนินการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่เป็นสิทธิอย่างหนึ่งเมื่อโจทก์ใช้สิทธินั้นแล้ว หากผู้ใดเข้ามาคัดค้านขัดขวางทำให้การดำเนินการไปตามสิทธินั้นต้องหยุดชะงักลงย่อมอาจเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ได้ ทั้งนี้ ย่อมแล้วแต่ว่าการคัดค้านขัดขวางนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
การที่โจทก์ใช้สิทธิขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ในที่ดิน โจทก์ยังไม่มีสิทธิอะไรในที่ดินที่ขอประทานบัตร แม้จำเลยจะบุกรุกเข้ามาในที่ดิน โจทก์ก็ยังไม่มีเหตุอะไรที่ได้รับการโต้แย้งจากจำเลยในกรณีที่เกี่ยวข้องกับตัวที่ดินนั้นโดยตรง โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่ดินนั้น
อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 หมายถึงการฟ้องเรียกเอาค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดเท่านั้น ส่วนการฟ้องขอให้ห้ามขัดขวางการขอประทานบัตร เป็นการฟ้องขอให้ระงับหรือเพิกถอนการทำละเมิดที่ยังมีอยู่ มิใช่เป็นการเรียกเอาค่าเสียหายจึงไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งอายุความตามมาตราดังกล่าว
ฟ้องของโจทก์มีคำขอบังคับอยู่ 2 คำขอ ศาลล่างสั่งงดสืบพยานและพิพากษายกฟ้องทั้งหมด เมื่อศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยเพียงคำขอเดียวส่วนอีกคำขอหนึ่งเห็นว่าต้องทำการพิจารณาต่อไป ย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างเพียงบางส่วน ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาฟ้องของโจทก์ต่อไปในประเด็นข้อนั้น แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความส่วนคำขอตามฟ้องนอกจากนั้นคงเป็นอันให้ยกฟ้องดังที่ศาลล่างพิพากษามาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1890/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่และการคุ้มครองจากการขัดขวาง รวมถึงประเด็นสิทธิในที่ดินและการขาดอายุความ
การดำเนินการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่เป็นสิทธิอย่างหนึ่งเมื่อโจทก์ใช้สิทธินั้นแล้ว หากผู้ใดเข้ามาคัดค้านขัดขวางทำให้การดำเนินการไปตามสิทธินั้นต้องหยุดชะงักลงย่อมอาจเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ได้ ทั้งนี้ ย่อมแล้วแต่ว่าการคัดค้านขัดขวางนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
การที่โจทก์ใช้สิทธิขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ในที่ดิน โจทก์ยังไม่มีสิทธิอะไรในที่ดินที่ขอประทานบัตร แม้จำเลยจะบุกรุกเข้ามาในที่ดิน โจทก์ก็ยังไม่มีเหตุอะไรที่ได้รับการโต้แย้งจากจำเลยในกรณีที่เกี่ยวข้องกับตัวที่ดินนั้นโดยตรง โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่ดินนั้น
อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 หมายถึงการฟ้องเรียกเอาค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดเท่านั้น ส่วนการฟ้องขอให้ห้ามขัดขวางการขอประทานบัตร เป็นการฟ้องขอให้ระงับหรือเพิกถอนการทำละเมิดที่ยังมีอยู่ มิใช่เป็นการเรียกเอาค่าเสียหายจึงไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งอายุความตามมาตราดังกล่าว
ฟ้องของโจทก์มีคำขอบังคับอยู่ 2 คำขอ ศาลล่างสั่งงดสืบพยานและพิพากษายกฟ้องทั้งหมด เมื่อศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยเพียงคำขอเดียวส่วนอีกคำขอหนึ่งเห็นว่าต้องทำการพิจารณาต่อไป ย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างเพียงบางส่วน ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาฟ้องของโจทก์ต่อไปในประเด็นข้อนั้น แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความส่วนคำขอตามฟ้องนอกจากนั้นคงเป็นอันให้ยกฟ้องดังที่ศาลล่างพิพากษามาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินจากการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่: การรังวัดสอบสวนยังไม่ก่อให้เกิดสิทธิจนกว่าจะได้รับประทานบัตร
การที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรังวัด ไต่สวนสอบสวนที่ดินที่โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่นั้น ไม่ได้ทำให้โจทก์เกิดสิทธิครอบครองหรือสิทธิอื่นในที่ดินแปลงนั้นแต่อย่างใด เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่ได้แสดงว่าสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของโจทก์ ถูกโต้แย้งจากจำเลยแล้วโจทก์ก็ไม่ชอบที่จะนำคดีมาสู่ศาล หรือฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินจากการยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ยังไม่สมบูรณ์ การฟ้องต้องแสดงเหตุถูกโต้แย้งสิทธิ
การที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรังวัด ไต่สวนสอบสวนที่ดินที่โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่นั้น ไม่ได้ทำให้โจทก์เกิดสิทธิครอบครองหรือสิทธิอื่นในที่ดินแปลงนั้นแต่อย่างใด เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่ได้แสดงว่าสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของโจทก์ ถูกโต้แย้งจากจำเลยแล้วโจทก์ก็ไม่ชอบที่จะนำคดีมาสู่ศาล หรือฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการขุดแร่ในที่ดินประทานบัตร ศาลยืนตามผลคำพิพากษาเดิมที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายรายเดือน
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้จำเลยทั้งสองดำเนินการขุดหาแร่ในที่ดินประทานบัตรที่พิพาทถ้าจำเลยยังขุดหาแร่ต่อไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาท นับแต่วันพิพาทจนกว่าจะหยุดดำเนินการ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 1,202,000 บาท และห้ามจำเลยขุดแร่ในที่ดินประทานบัตรพิพาททั้ง 5 แปลงต่อไป นอกจากที่ดำเนินการอยู่แล้วใน 4 รางดังกล่าว และศาลฎีกาพิพากษายืนนั้น ย่อมอนุมานได้ว่าศาลอุทธรณ์มิได้ประสงค์จะพิพากษาให้จำเลยขุดแร่ใน 4 รางนั้นโดยไม่ต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เมื่อจำเลยยังดำเนินการขุดแร่ต่อไปเพราะโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยจำต้องชดใช้ค่าทดแทน ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาทด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการขุดแร่ในที่ดินประทานบัตร แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ค่าเสียหายเป็นยอดรวม แต่ยังคงต้องชดใช้ค่าเสียหายรายเดือนหากยังขุดแร่ต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้จำเลยทั้งสองดำเนินการขุดหาแร่ในที่ดินประทานบัตรที่พิพาท ถ้าจำเลยยังขุดหาแร่ต่อไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาท นับแต่วันพิพากษาจนกว่าจะหยุดดำเนินการ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 1,202,000 บาท และห้ามจำเลยขุดแร่ในที่ดินประทานบัตรพิพาททั้ง 5 แปลงต่อไป นอกจากที่ดำเนินการอยู่แล้วใน 4 รางดังกล่าว และศาลฎีกาพิพากษายืนนั้น ย่อมอนุมานได้ว่าศาลอุทธรณ์มิได้ประสงค์จะพิพากษาให้จำเลยขุดแร่ใน 4 รางนั้น โดยไม่ต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ เมื่อจำเลยยังดำเนินการขุดแร่ต่อไปเพราะโจทก์ได้รับความเสียหายจำเลยจำต้องชดใช้ค่าทดแทน ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาทด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่กับการขัดขวางการทำเหมือง ประทานบัตรไม่ได้ให้สิทธิครอบครองที่ดิน
ตามมาตรา 50, 73 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้น ไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินอยู่ในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำเหมืองแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้ว ผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่กับการขัดขวางการทำเหมือง ผู้รับประทานบัตรมีสิทธิฟ้อง แม้ประทานบัตรจะหมดอายุแต่ยังอยู่ในระหว่างต่ออายุ
ตามมาตรา 50,73 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้น ไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินอยู่ในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำเหมืองแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้ว ผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่และการขัดขวางการทำเหมือง ผู้รับประทานบัตรมีอำนาจฟ้องได้ แม้ประทานบัตรจะหมดอายุและอยู่ระหว่างต่ออายุ
ตามมาตรา 50,73 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้น. ไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินอยู่ในเขตประทานบัตรด้วย. แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำเหมืองแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้ว. ผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีที่ดินสวน และขอบเขตสิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่
เมื่อที่พิพาทเป็นที่สวนที่กฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 แล้ว แม้โจทก์ฟ้องคดีภายหลังที่จำเลยเข้าครอบครองเก็บผลประโยชน์เกิน 1 ปีแล้วก็ตาม ฟ้องโจทก์หาขาดอายุความไม่
พระราชบัญญัติเหมืองแร่ พ.ศ. 2461 มาตรา 51 ให้ผู้ถือประทานบัตรมีอำนาจทำเหมืองแร่ คือ ขุด ล้าง และจำหน่ายแร่ตามที่อนุญาตไว้ในประทานบัตรนั้นเท่านั้นประทานบัตรทำเหมือนแร่ไม่ได้ให้อำนาจแก่ผู้ถือประทานบัตรหวงห้ามหรือถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่แผ่นดินในเหมืองแร่นั้นเลย
of 11