พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการประนอมหนี้ในคดีล้มละลายต่อเจ้าหนี้รายอื่นและสิทธิในการเรียกร้องหนี้จากผู้สลักหลังเช็ค
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ให้ใช้เงินตามเช็คที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 2, 3, 4 เป็นผู้สลักหลัง ต่อมาจำเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ศาลชั้นต้นให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 เสียและอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จำเลยที่ 2 ที่ 3 แล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 4 ชำระเงินตามจำนวนในเช็ค คดีถึงที่สุด ดังนี้ แม้ต่อมาที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติพิเศษรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลยที่ 1 ซึ่งขอชำระหนี้เพียงร้อยละ 10 และศาลเห็นชอบด้วยแล้ว จำเลยที่ 4 ก็จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากจำเลยที่ 4 ตามคำพิพากษาเพียงร้อยละ 10 มิได้ เพราะตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 56 นั้น การประนอมหนี้ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ยอมรับและศาลเห็นชอบด้วยแล้ว ผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดในเรื่อง หนี้ซึ่งอาจขอรับชำระได้จากลูกหนี้ในคดีล้มละลายเท่านั้น ไม่มีผลผูกมัดถึงเจ้าหนี้ของลูกหนี้คนอื่นและในคดีอื่น ทั้งการที่เจ้าหนี้ต้องถูกผูกมัดตามข้อตกลงในการประนอมหนี้นั้น ก็ไม่ใช้การปลดหนี้ตามมาตรา 340 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะโจทก์มิได้แสดงเจตนาต่อจำเลยที่ 1 ว่าจะปลดหนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย ไม่ผูกมัดเจ้าหนี้ในคดีอื่น ผู้สลักหลังเช็คยังต้องรับผิดชอบตามคำพิพากษาเดิม
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ให้ใช้เงินตามเช็คที่จำเลยที่ 1เป็นผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 2,3,4 เป็นผู้สลักหลังต่อมาจำเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ศาลชั้นต้นให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 เสียและอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ 3 แล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 4 ชำระเงินตามจำนวนในเช็ค คดีถึงที่สุด ดังนี้ แม้ต่อมาที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติพิเศษรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลยที่ 1ซึ่งขอชำระหนี้เพียงร้อยละ 10 และศาลเห็นชอบด้วยแล้วจำเลยที่ 4 ก็จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากจำเลยที่ 4 ตามคำพิพากษาเพียงร้อยละ 10มิได้ เพราะตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 56 นั้นการประนอมหนี้ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ยอมรับและศาลเห็นชอบด้วยแล้ว ผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดในเรื่อง หนี้ซึ่งอาจขอรับชำระได้จากลูกหนี้ในคดีล้มละลายเท่านั้น ไม่มีผลผูกมัดถึงเจ้าหนี้ของลูกหนี้คนอื่นและในคดีอื่น ทั้งการที่เจ้าหนี้ต้องถูกผูกมัดตามข้อตกลงในการประนอมหนี้นั้นก็ไม่ใช่การปลดหนี้ตามมาตรา 340 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะโจทก์มิได้แสดงเจตนาต่อ จำเลยที่ 1 ว่าจะปลดหนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการประนอมหนี้ในคดีล้มละลายที่มีผลผูกพันเจ้าหนี้ การฟ้องเรียกหนี้ซ้ำจึงไม่ชอบ
หนี้ที่โจทก์ฟ้องจำเลยนี้โจทก์ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27, 91 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 และได้มีการประนอมหนี้ตามมาตรา 56 แล้วด้วย มาตรา 56 บัญญัติไว้ว่า การประนอมหนี้ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ได้ยอมรับและศาลเห็นชอบด้วยแล้ว ผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดในเรื่องหนี้ซึ่งอาจขอรับชำระได้ แต่ไม่ผูกมัดเจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งในเรื่องนี้ ซึ่งตามพระราชบัญญัตินี้ ลูกหนี้ไม่อาจหลุดพ้นโดยคำสั่งปลดจากล้มละลายได้ ฯลฯ" เมื่อหนี้ของโจทก์ไม่ใช่หนี้ดังที่ระบุไว้ในมาตรา 77 การประนอมหนี้ดังกล่าวมาข้างต้นจึงผูกมัดโจทก์ด้วย โจทก์จะฟ้องจำเลย (ลูกหนี้) ให้ต้องรับผิดในหนี้นั้นอีกไม่ได้ และกรณีนี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย: โจทก์ถูกผูกมัดตามการประนอมหนี้ ไม่สามารถฟ้องเรียกหนี้เดิมได้อีก
หนี้ที่โจทก์ฟ้องจำเลยนี้โจทก์ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27,91แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 และได้มีการประนอมหนี้ตามมาตรา 56 แล้วด้วย มาตรา 56 บัญญัติไว้ว่า "การประนอมหนี้ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ได้ยอมรับและศาล เห็นชอบด้วยแล้ว ผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดในเรื่องหนี้ซึ่งอาจขอรับชำระได้ แต่ไม่ผูกมัดเจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งในเรื่องหนี้ซึ่งตามพระราชบัญญัตินี้ ลูกหนี้ไม่อาจหลุดพ้นโดยคำสั่งปลดจากล้มละลายได้ ฯลฯ" เมื่อหนี้ของโจทก์ไม่ใช่หนี้ดังที่ระบุไว้ในมาตรา 77 การประนอมหนี้ดังกล่าวมาข้างต้นจึงผูกมัดโจทก์ด้วย โจทก์จะฟ้องจำเลย (ลูกหนี้) ให้ต้องรับผิดในหนี้นั้นอีกไม่ได้ และกรณีนี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้ตามข้อตกลงประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย เมื่อเจ้าหนี้รู้ถึงภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว
บริษัทลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ผู้ชำระบัญชีจึงตกลงประนอมหนี้กับเจ้าหนี้บางรายที่เป็นผู้ทรงเช็คโดยขอชำระหนี้ 21.2% เพื่อให้คดีอาญาที่เจ้าหนี้ตามเช็คบางรายฟ้องกรรมการบริษัทลูกหนี้เป็นอันระงับไป ดังนี้ เมื่อเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คดังกล่าวรับชำระหนี้ตามข้อตกลงในการประนอมหนี้นั้นโดยรู้ถึงภาระหนี้สินล้นพ้นตัวของบริษัทลูกหนี้ย่อมถือไม่ได้ว่าเจ้าหนี้รับชำระหนี้โดยสุจริตตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 114
มาตรา 114 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติล้มละลาย(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2511 มาตรา 10ระบุชัดแจ้งว่ามิได้ห้ามเฉพาะการโอนทรัพย์สินเท่านั้น แต่รวมถึงการกระทำใดๆ อันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ด้วยดังนั้น การชำระหนี้ของบริษัทลูกหนี้ตามข้อตกลงประนอมหนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ตามความหมายแห่งมาตรา ดังกล่าว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างบริษัทลูกหนี้กับเจ้าหนี้ให้เจ้าหนี้คืนเงินที่รับไปและให้เสียดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าวนับแต่วันศาลสั่งเพิกถอนไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เจ้าหนี้คืนเงินพร้อมดอกเบี้ยโดยมิได้กล่าวว่าให้ชำระตั้งแต่เมื่อใดถึงเมื่อใด ดังนี้ เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ไขเพิ่มความให้ครบได้
มาตรา 114 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติล้มละลาย(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2511 มาตรา 10ระบุชัดแจ้งว่ามิได้ห้ามเฉพาะการโอนทรัพย์สินเท่านั้น แต่รวมถึงการกระทำใดๆ อันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ด้วยดังนั้น การชำระหนี้ของบริษัทลูกหนี้ตามข้อตกลงประนอมหนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ตามความหมายแห่งมาตรา ดังกล่าว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างบริษัทลูกหนี้กับเจ้าหนี้ให้เจ้าหนี้คืนเงินที่รับไปและให้เสียดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าวนับแต่วันศาลสั่งเพิกถอนไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เจ้าหนี้คืนเงินพร้อมดอกเบี้ยโดยมิได้กล่าวว่าให้ชำระตั้งแต่เมื่อใดถึงเมื่อใด ดังนี้ เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ไขเพิ่มความให้ครบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่อยู่ภายใต้การประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย สิทธิเรียกร้องต้องยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 จำเลยที่ 1 ฝ่ายเดียวฎีกา เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกาว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 ที่ 2 เด็ดขาดจนได้ประนอมหนี้และศาลได้มีคำสั่งให้ปิดคดีเพราะชำระหนี้ตามประนอมหนี้แล้ว ดังนี้หนี้รายที่โจทก์ฟ้องคดีนี้อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องยื่นขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 27,91 แม้โจทก์ไม่ยื่นขอรับชำระหนี้ โจทก์ก็ถูกผูกมัดโดยการประนอมหนี้ด้วยตามมาตรา 56 โจทก์จึงจะฟ้องให้จำเลยรับผิดชำระหนี้เป็นคดีนี้อีกไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย: ผลกระทบต่อการลงมติของเจ้าหนี้และการชี้ขาดคำขอรับชำระหนี้
จำเลยขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ขอให้ลงมติ ไม่มีเจ้าหนี้รายใดคัดค้านการออกเสียง ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติยอมรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลย ต่อมาศาลได้ไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยแล้วมีคำสั่งเห็นชอบด้วยนั้นแม้ต่อมาโจทก์จะคัดค้านคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้อื่นที่ลงมติไปแล้ว แต่ศาลก็ยังไม่ได้ชี้ขาดถึงที่สุดว่าจะให้เจ้าหนี้ที่ถูกโจทก์คัดค้านรับชำระหนี้ได้หรือไม่ ดังนี้ จะถือว่าการประนอมหนี้เป็นกรณีที่ต้องห้ามมิให้ศาลมีคำสั่งเห็นชอบหาได้ไม่ เพราะเมื่อศาลวินิจฉัยชี้ขาดคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่โจทก์คัดค้านถึงที่สุดแล้วประการใด ก็เป็นเรื่องที่อาจดำเนินการไปตามผลของคำพิพากษานั้นอีกส่วนหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย: ผลกระทบต่อการลงมติของเจ้าหนี้และการพิจารณาคำขอรับชำระหนี้
จำเลยขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ขอให้ลงมติ ไม่มีเจ้าหนี้รายใดคัดค้านการออกเสียง ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติยอมรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลย ต่อมาศาลได้ไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยแล้วมีคำสั่งเห็นชอบด้วยนั้นแม้ต่อมาโจทก์จะคัดค้านคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้อื่นที่ลงมติไปแล้วแต่ศาลก็ยังไม่ได้ชี้ขาดถึงที่สุดว่าจะให้เจ้าหนี้ที่ถูกโจทก์คัดค้านรับชำระหนี้ได้หรือไม่ ดังนี้ จะถือว่าการประนอมหนี้เป็นกรณีที่ต้องห้ามมิให้ศาลมีคำสั่งเห็นชอบหาได้ไม่ เพราะเมื่อศาลวินิจฉัยชี้ขาดคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่โจทก์คัดค้านถึงที่สุดแล้วประการใด ก็เป็นเรื่องที่อาจดำเนินการไปตามผลของคำพิพากษานั้นอีกส่วนหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย: การนับคะแนนเสียงเจ้าหนี้และการพิจารณาคำขอรับชำระหนี้
จำเลยขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ขอให้ลงมติ. ไม่มีเจ้าหนี้รายใดคัดค้านการออกเสียง. ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติยอมรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลย ต่อมาศาลได้ไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยแล้วมีคำสั่งเห็นชอบด้วยนั้น.แม้ต่อมาโจทก์จะคัดค้านคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้อื่นที่ลงมติไปแล้ว. แต่ศาลก็ยังไม่ได้ชี้ขาดถึงที่สุดว่าจะให้เจ้าหนี้ที่ถูกโจทก์คัดค้านรับชำระหนี้ได้หรือไม่. ดังนี้ จะถือว่าการประนอมหนี้เป็นกรณีที่ต้องห้ามมิให้ศาลมีคำสั่งเห็นชอบหาได้ไม่. เพราะเมื่อศาลวินิจฉัยชี้ขาดคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่โจทก์คัดค้านถึงที่สุดแล้วประการใด ก็เป็นเรื่องที่อาจดำเนินการไปตามผลของคำพิพากษานั้นอีกส่วนหนึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการประนอมหนี้และผลกระทบต่อความรับผิดของผู้ค้ำประกันในคดีล้มละลาย
เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว หนี้ตามที่ลูกหนี้ขอประนอมและจำเลยเข้าทำสัญญาค้ำประกันก็เป็นอันระงับไปจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698
การใดที่ได้ทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ก่อนศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ การนั้นย่อมมีผลสมบูรณ์ แต่กิจการใดถ้ากระทำภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดี หรือที่จะกระทำต่อไปภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดี กิจการนั้นไม่มีผลผูกพันจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน เมื่อจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดชอบดังกล่าวข้างต้นแล้ว มูลหนี้ที่โจทก์อ้างเพื่อขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายก็เป็นอันระงับไปตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย หากจำเลยถูกฟ้องล้มละลายเกี่ยวกับหนี้ที่ค้ำประกันนี้ และร้องขอประนอมหนี้จนกระทั้งศาลมีคำสั่งเห็นชอบตามคำขอประนอมหนี้ คำสั่งนั้นก็ไม่ผูกพันจำเลยแต่อย่างใด
การพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเป็นเพียงวิธีการเพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) และดำเนินการตามพระราชบัญญัติล้มละลายก่อนที่ศาลจะพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายเท่านั้น มิได้ทำให้คดีเสร็จเด็ดขาดแต่อย่างใด เมื่อหนี้ที่โจทก์อ้างเป็นมูลฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายระงับไปแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องของโจทก์เสียได้
การใดที่ได้ทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ก่อนศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ การนั้นย่อมมีผลสมบูรณ์ แต่กิจการใดถ้ากระทำภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดี หรือที่จะกระทำต่อไปภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดี กิจการนั้นไม่มีผลผูกพันจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน เมื่อจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดชอบดังกล่าวข้างต้นแล้ว มูลหนี้ที่โจทก์อ้างเพื่อขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายก็เป็นอันระงับไปตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย หากจำเลยถูกฟ้องล้มละลายเกี่ยวกับหนี้ที่ค้ำประกันนี้ และร้องขอประนอมหนี้จนกระทั้งศาลมีคำสั่งเห็นชอบตามคำขอประนอมหนี้ คำสั่งนั้นก็ไม่ผูกพันจำเลยแต่อย่างใด
การพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเป็นเพียงวิธีการเพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) และดำเนินการตามพระราชบัญญัติล้มละลายก่อนที่ศาลจะพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายเท่านั้น มิได้ทำให้คดีเสร็จเด็ดขาดแต่อย่างใด เมื่อหนี้ที่โจทก์อ้างเป็นมูลฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายระงับไปแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องของโจทก์เสียได้