พบผลลัพธ์ทั้งหมด 79 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งและทำให้เสียชื่อเสียง ถือเป็นการประพฤติเนรคุณ สิทธิในการถอนคืนการให้เกิดขึ้นได้
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยกกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของโจทก์ในที่ดินโฉนดที่ 530 ให้จำเลย ต่อมาจำเลยทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงเป็นการประพฤติเนรคุณ ขอให้ศาลสั่งถอนคืนการ+ จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ขายให้ และไม่ได้ประพฤติเนรคุณทางพิจารณาฟังเป็นยุติได้ว่าเป็นเรื่องโจทก์ยกให้มิใช่ขาย และได้ความต่อไปว่า เมื่อบิดาโจทก์จำเลยซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของร่วมในโฉนดดังกล่าวตายลง โจทก์ยื่นขอรับมรดกส่วนของบิดา จำเลยคัดค้านและฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่ง ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งมรดกของบิดาให้โจทก์คดีอยู่ระหว่างฎีกา โจทก์ให้คนมาเก็บหมากในที่พิพาทนั้น จำเลยจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ว่าโจทก์ลักหมาก แต่ชั้นนี้ไม่ติดใจเอาเรื่องเพราะโจทก์จำเลยเป็นพี่น้องกัน หมากที่หายราคาเล็กน้อย กับหลักฐานยังไม่เป็นผิด แต่ถ้าเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก จะเอาเรื่องให้ตำรวจจัดการต่อไป ต่อมาโจทก์ให้คนมาเก็บหมากอีก จำเลยจึงให้สามีไปแจ้งความ ครั้งสุดท้ายโจทก์ให้คนมาเก็บหมากอีกจำเลยจึงแจ้งตำรวจตู้ยามจับโจทก์หาว่าลักหมาก 1 ทะลาย ตำรวจจึงควบคุมตัวโจทก์ไว้เพื่อดำเนินคดี ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยได้ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 351(2)
เป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์พิพากษาให้ถอนคืนการใช้ได้
เป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์พิพากษาให้ถอนคืนการใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประพฤติเนรคุณและการถอนคืนการให้ กรณีแจ้งความเท็จทำให้เสียชื่อเสียง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยกกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของโจทก์ในที่ดินโฉนดที่ 530 ให้จำเลย ต่อมาจำเลยทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรง เป็นการประพฤติเนรคุณ ขอให้ศาลสั่งถอนคืนการให้ จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ขายให้และไม่ได้ประพฤติเนรคุณ ทางพิจารณาฟังเป็นยุติได้ว่า เป็นเรื่องโจทก์ยกให้มิใช่ขาย และได้ความต่อไปว่า เมื่อบิดาโจทก์จำเลยซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของร่วมในโฉนดดังกล่าวตายลง โจทก์ยื่นขอรับมรดกส่วนของบิดา จำเลยคัดค้านและฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่ง ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งมรดกของบิดาให้โจทก์ คดีอยู่ระหว่างฎีกา โจทก์ให้คนมาเก็บหมากในที่พิพาทนั้น จำเลยจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ว่าโจทก์ลักหมาก แต่ชั้นนี้ไม่ติดใจเอาเรื่องเพราะโจทก์จำเลยเป็นพี่น้องกัน หมากที่หายราคาเล็กน้อย กับหลักฐานยังไม่เป็นผิด แต่ถ้าเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก จะเอาเรื่องให้ตำรวจจัดการต่อไป ต่อมาโจทก์ให้คนมาเก็บหมากอีก จำเลยจึงให้สามีไปแจ้งความ ครั้งสุดท้ายโจทก์ให้คนมาเก็บหมากอีก จำเลยจึงแจ้งตำรวจตู้ยามจับโจทก์หาว่าลักหมาก1ทะลาย ตำรวจจึงควบคุมตัวโจทก์ไว้เพื่อดำเนินคดี ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยได้ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 351(2) เป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ พิพากษาให้ถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาเนื่องจากประพฤติเนรคุณ การชั่งน้ำหนักพยานในคดีแพ่ง
การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในคดีแพ่งควรเป็นไปโดยลักษณะความแพ่งกล่าวคือเทียบเคียงน้ำหนักคำพยานประกอบด้วยพฤติการณ์แห่งคดีว่าจะควรเชื่อฟังเป็นความจริงตามโจทก์ฟ้องได้เพียงใดจะถือเอาเพียงข้อแตกต่างแห่งคำพยานโจทก์บางคนที่เบิกความไม่ตรงกันมาเป็นเหตุยกฟ้องนั้นสำหรับคดีนี้ไม่ชอบ
บุตรได้ด่ามารดาว่า อีดอกทอง อีแก่เจ้าเล่ห์ เป็นคนร้อยลิ้นไม่นับถือเป็นแม่ ถือว่าเป็นถ้อยคำด่าหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นการประพฤติเนรคุณต่อมารดาผู้ให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) แล้วมารดาเรียกทรัพย์ที่ให้บุตรโดยเสน่หาคืนได้
บุตรได้ด่ามารดาว่า อีดอกทอง อีแก่เจ้าเล่ห์ เป็นคนร้อยลิ้นไม่นับถือเป็นแม่ ถือว่าเป็นถ้อยคำด่าหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงเป็นการประพฤติเนรคุณต่อมารดาผู้ให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) แล้วมารดาเรียกทรัพย์ที่ให้บุตรโดยเสน่หาคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้ทรัพย์สินเนื่องจากประพฤติเนรคุณ การชั่งน้ำหนักพยานในคดีแพ่ง
การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในคดีแพ่งความเป็นไปโดยลักษณะความแพ่ง กล่าวคือเทียบเคียงน้ำหนักคำพยานประกอบด้วยพฤติการณ์แห่งคดีว่าจะควรเชื่อฟังเป็นความจริงตามโจทก์ฟ้องได้เพียงใด จะถือเอาเพียงข้อแตกต่างแห่งคำพยานโจทก์บางคนที่เบิกความไม่ตรงกันมาเป็นเหตุยกฟ้องนั้นไม่ชอบ
บุตรได้ค่ามาตราว่า อีดอกทอง อีแก่เจ้าเล่ห์ เป็นคนร้อยลิ้นไม่นับถือเป็นแม่ ถือว่าเป็นถ้อยคำด่าหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง เป็นการประพฤติเนรคุณต่อมารดาผู้ให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) แล้ว มารดาเรียกทรัพย์ที่ให้บุตรโดยเสน่หาคืนได้
บุตรได้ค่ามาตราว่า อีดอกทอง อีแก่เจ้าเล่ห์ เป็นคนร้อยลิ้นไม่นับถือเป็นแม่ ถือว่าเป็นถ้อยคำด่าหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง เป็นการประพฤติเนรคุณต่อมารดาผู้ให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) แล้ว มารดาเรียกทรัพย์ที่ให้บุตรโดยเสน่หาคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ และการไถ่ถอนจำนองก่อนการให้เพื่อความสมบูรณ์ของนิติกรรม
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรปรากฎว่าที่ดินที่ยกให้นั้น ติดจำนองมาก่อนการจำนองมาแล้ว จึงทำยกให้แก่บุตร และเมื่อทำยกให้แล้ว ในวันเดียวกันนั้นบุตรก็จำนองที่ดินนั้นไว้แก่ผู้มีชื่ออีก ดังนี้ ถือได้ว่า ขณะเมื่อยกให้กัน หนี้จำนองอันติดอยู่กับที่ดินไม่มีแล้วเพราะได้ไถ่ถอนแล้ว ฉะนั้นเมื่อภายหลังบุตรประพฤติเนรคุณมารดาย่อมถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้บุตรหลังไถ่ถอนจำนองแล้ว และสิทธิในการถอนคืนกรณีบุตรประพฤติเนรคุณ
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรปรากฏว่าที่ดินที่ยกให้นั้น ติดจำนองมาก่อนทำยกให้ แต่มารดาได้ไถ่ถอนการจำนองมาแล้วจึงทำยกให้แก่บุตร และเมื่อทำยกให้แล้ว ในวันเดียวกันนั้นบุตรก็จำนองที่ดินนั้นไว้แก่ผู้มีชื่ออีกดังนี้ถือได้ว่า ขณะเมื่อยกให้กัน หนี้จำนองอันติดอยู่กับที่ดินไม่มีแล้ว เพราะได้ไถ่ถอนแล้ว ฉะนั้นเมื่อภายหลังบุตรประพฤติเนรคุณมารดาย่อมถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ: การด่าทอและขับไล่ผู้ให้
โจทก์ฟ้องจำเลยขอเพิกถอนการให้ เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณโดยได้ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายต่าง ๆ และขับไล่โจทก์ จนต้องไปอยู่ที่อื่น ได้รับความเดือดร้อนอดหยาก แม้คำด่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องจะเป็นการกล่าวคำหมิ่นประมาทซึ่งหน้าก็ตาม ศาลก็ควรฟังพยานหลักฐานแห่งพฤตติการณ์ต่อไป เพราะการกระทำของจำเลยดั่งที่โจทก์อ้างเป็นข้อเท็จจริงในคำฟ้องนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการประพฤติเนรคุณตามความในมาตรา 531
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากผู้รับประพฤติเนรคุณ: การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในลักษณะแพ่ง
คดีเรียกถอนคืนการให้ เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น การชั่งน้ำหนักพะยานหลักฐานแห่งคดี จึงควรเป็นไปโดยลักษณะความแพ่ง กล่าวคือเทียงเคียงน้ำหนักคำพะยานทั้งสองฝ่ายประกอบกับพฤตติการณ์แห่งคดีว่าควรจะเชื่อฝ่ายใด ศาลไม่จำต้องพิเคราะห์คำพะพยาน หลักฐานอย่างคดีอาญาอันว่าด้วย การที่จำเลยจะต้องรับโทษ
พฤตติการณ์ที่ถือได้ว่า ผู้รับประพฤติเนรคุณ โดยผู้รับได้หมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง ตามมาตรา 531(2).
พฤตติการณ์ที่ถือได้ว่า ผู้รับประพฤติเนรคุณ โดยผู้รับได้หมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง ตามมาตรา 531(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกถอนคืนการให้เพราะผู้รับประพฤติเนรคุณ: การพิจารณาพยานหลักฐานตามลักษณะความแพ่ง
คดีเรียกถอนคืนการให้ เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานแห่งคดี จึงควรเป็นไปโดยลักษณะความแพ่งกล่าวคือเทียบเคียงน้ำหนักคำพยานทั้งสองฝ่ายประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีว่าควรจะเชื่อฝ่ายใด ศาลไม่จำต้องพิเคราะห์คำพยานหลักฐานอย่างคดีอาญาอันว่าด้วย การที่จำเลยจะต้องรับโทษ
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่า ผู้รับประพฤติเนรคุณ โดยผู้รับได้หมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง ตามมาตรา 531(2)
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่า ผู้รับประพฤติเนรคุณ โดยผู้รับได้หมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง ตามมาตรา 531(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินระหว่างบิดาบุตรและประพฤติเนรคุณ ศาลฎีกาตัดสินว่าการขายราคาต่ำกว่าปกติเป็นเรื่องธรรมดา และการกล่าวหาไม่ถึงขั้นทำให้เสียชื่อเสียง
บุตร์มีจดหมายถึงบิดาแสดงความน้อยอกน้อยใจที่บิดาเกลียดชังดุด่ากล่าวว่าประจานต่าง ๆ ในที่สุดหาว่าบิดาโกงเครื่องเรือนแลขอให้บิดาออกไปอยู่กับบุตร์คนอื่นที่อื่น ดังนี้ บิดาจะฟ้องเรียกถอนคืนการให้ไม่ได้ กรณีไม่เข้าเข้าใน ม.531(2) และ (3) บิดาขายที่ให้บุตร์ด้วยราคาต่ำกว่าปกติยังไม่พอถือว่าเป็นการขายให้โดยสมยอม