คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเด็น

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 192 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3903/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ประเด็นต่างกัน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องแถวพิพาทของโจทก์ จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์ปลอมเอกสารเกี่ยวกับห้องแถวพิพาท จำเลยแจ้งความดำเนินคดีแก่โจทก์ โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยโดยตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเป็นเงิน 20,200 บาท เมื่อถึงกำหนดโจทก์เพิกเฉย จึงขอให้ศาลบังคับให้ ดังนี้ ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยเป็นคนละเรื่องกัน ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์ ชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบเนื่องจากผู้คัดค้านไม่ได้โต้แย้งประเด็นคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์อย่างชัดเจน
คดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าข้ออ้างของผู้คัดค้านไม่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดี พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านฎีกาโดยมิได้กล่าวอ้างว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบอย่างไร คงกล่าวมาในฎีกาเพียงว่า ทรัพย์ที่ผู้ร้องอ้างว่าเป็นของผู้ตายนั้น ผู้ตายได้ยกให้ผู้คัดค้านแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่รับวินิจฉัยโดยให้เหตุผลว่าไม่เป็นประเด็นแห่งคดีที่ผู้ร้องร้องขอมา ผู้คัดค้านก็มิได้ฎีกาว่าปัญหาที่ยกขึ้นมานั้นจะเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีหรือไม่ อย่างไร ถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 โดยชัดแจ้งตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรกบัญญัติไว้ เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าทายต่อศาล: ศาลต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่ตกลงกันไว้ หากฟังตามนั้นแล้วต้องพิพากษาตามนั้น
การที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านท้ากันในศาลแรงงานกลางเพียง ข้อ เดียวว่า "หากศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้านมีหน้าที่ทำ เพชรดิบ ให้เข้ารูปและมีหน้าที่ซ่อมแซมเพชรที่แผนกอื่นทำบกพร่อง และไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้แล้ว ให้เข้ารูปอีกครั้งแล้วส่งไปยัง แผนกอื่นต่อไป ให้ถือว่าผู้คัดค้านกระทำผิดตามคำร้องทุกประการ ผู้คัดค้านยอมแพ้และให้ศาลพิพากษาให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้าน ได้ตามคำร้อง..." นั้น เป็นการ ที่คู่ความตกลงกันกำหนดประเด็น เสนอศาลเพื่อให้กระบวนพิจารณาคดีเป็นไปโดยรวดเร็ว ซึ่งศาลแรงงานกลาง มีอำนาจกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138,183 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้าน มีหน้าที่ทำเพชรดิบ ให้เข้ารูปและมีหน้าที่ซ่อมแซมเพชรที่แผนกอื่น ทำบกพร่อง และไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ให้เข้ารูปอีกครั้ง แล้วส่งไปยังแผนกอื่นต่อไป ก็ต้องถือตามคำท้าว่าผู้คัดค้านกระทำผิด ตามคำร้อง กล่าวคือ ผู้คัดค้านฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ การทำงานอันเป็นกรณีร้ายแรงและจงใจขัดคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายของ ผู้ร้องตามคำร้อง และต้องถือตามคำท้าต่อไปว่าผู้คัดค้านยอมแพ้ ศาลแรงงานกลางต้องพิพากษาให้ผู้ร้อง เลิกจ้างผู้คัดค้านได้ตามคำร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานนอกประเด็นและการประวิงคดีในคดีซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงิน
จำเลยทั้งสองให้การแต่เพียงว่า ไม่เคยขายตั๋วสัญญาใช้เงิน กับโจทก์ไม่เคยทำสัญญาใด ๆ กับโจทก์ เอกสารท้ายคำฟ้องเป็นเอกสารปลอมจำเลยทั้งสองมิได้ให้การต่อสู้เกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ย หรือการ ซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ถูกต้องหรือผิดแบบประเพณีการค้า แต่อย่างใด การที่จำเลยทั้งสองขอให้ส่งประเด็นไปสืบ ผู้จัดการธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาขอนแก่น ในเรื่องการคิดดอกเบี้ย และวิธีการซื้อขายตั๋วสัญญาใช้เงิน จึงเป็นการขอสืบพยานนอกประเด็น พฤติการณ์ของจำเลยเห็นได้ชัดว่าเป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้น สั่งงดสืบพยานดังกล่าวจึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6383/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ใหม่และการบังคับจำนอง: ศาลวินิจฉัยได้ถูกต้องตามประเด็น
โจทก์จำเลยทำสัญญาแปลงหนี้ใหม่เปลี่ยนตัวเจ้าหนี้และลูกหนี้หนี้เดิมเป็นอันระงับ หนี้ใหม่เป็นหนี้เงิน จำเลยย่อมจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้ได้ ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้เงินกู้ตามฟ้องหรือไม่ แล้ววินิจฉัยว่าหนี้ระหว่างโจทก์จำเลยเกิดขึ้นจากการแปลงหนี้ใหม่ สัญญาจำนองจึงมีผลบังคับได้นั้น หาใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่เพราะการวินิจฉัยถึงการแปลงหนี้ใหม่ก็เพื่อให้ทราบถึงที่มาแห่งหนี้ของโจทก์จำเลยให้ชัดขึ้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5336/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การอุทธรณ์และฎีกานอกประเด็นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว หากไม่โต้แย้งในชั้นอุทธรณ์
คดีมีประเด็นพิพาทว่า การที่ธนาคารจำเลยไม่หักเงินตามเช็คเข้าบัญชีของธนาคารโจทก์ และไม่แจ้งให้ธนาคารโจทก์ทราบในวันรุ่งขึ้นหรือวันเปิดทำการนั้น จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ ซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เป็นความผิดของจำเลยแสดงให้ประจักษ์ต่อโจทก์ตามวิธีที่เคยปฏิบัติว่าจำเลยได้นำเงินตามเช็คเข้าบัญชีโจทก์แล้วการที่โจทก์จ่ายเงินตามเช็คให้ลูกค้าไปจึงมิใช่ความประมาทเลินเล่อของโจทก์ หรือเป็นการจ่ายเงินตามอำเภอใจ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ เช่นนี้ การที่จำเลยอุทธรณ์ในทำนองโต้แย้งว่า จำเลยได้นำเงินมาเข้าบัญชีของธนาคารโจทก์แล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องโดยมิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดอย่างไรในการที่ไม่แจ้งให้ทราบถึงเหตุที่ไม่สามารถหักเงินเข้าบัญชีโจทก์ได้ จึงเป็นอุทธรณ์นอกประเด็น แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิฎีกา ประเด็นพิพาทใดที่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้แล้วคู่ความมิได้อุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยในเรื่องดังกล่าวให้ด้วยก็ถือไม่ได้ว่าได้วินิจฉัยตามประเด็นคู่ความอุทธรณ์ คู่ความจึงไม่อาจฎีกาในปัญหาดังกล่าวได้ เพราะเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอคุ้มครองประโยชน์ต้องไม่เกินคำขอในฟ้อง การยื่นขอสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นในคำฟ้อง ศาลไม่อาจบังคับได้
โจทก์ฟ้องขอให้ใส่ชื่อ โจทก์เป็นเจ้าของสวนยางพิพาทร่วมกับกองมรดกของ จ. เท่านั้น มิได้ฟ้องขอเรียกค่าเสียหายมาด้วย การที่โจทก์ยื่นคำขอคุ้มครองประโยชน์ ในระหว่างพิจารณาโดย ขอให้ตั้ง ผู้จัดการสวนยางพิพาทให้เข้ากรีดยางแล้วนำรายได้7 ใน 8 ส่วนมาวางศาล หรือมีคำสั่งให้โจทก์จำเลยประมูลรายได้จากการทำสวนยาง หากฝ่ายใดชนะให้ฝ่ายนั้นเข้าทำประโยชน์ในสวนยางแปลงพิพาทแล้วนำเงินรายได้ที่ประมูลมาวางศาล เป็นการยื่นคำขอคุ้มครองประโยชน์เกินกว่าคำขอในคำฟ้อง เป็นเรื่อง นอกฟ้องนอกประเด็น แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายชนะคดีก็ไม่อาจขอให้ ศาลบังคับตาม คำขอได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4508/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น และการพิพากษาคดีหุ้นส่วนที่มิได้ยกเหตุเลิกสัญญา
โจทก์มิได้ฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์และจำเลยโดยอ้างว่ามีเหตุที่ทำให้ห้างหุ้นส่วนเหลือวิสัยที่จะดำรงอยู่ต่อไป และในชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นก็กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้แต่เพียงว่า สัญญาเข้าหุ้นส่วนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เท่านั้น ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์และจำเลยเลิกกันเพราะจำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินกิจการของหุ้นส่วนตามที่ตกลงกัน ทำให้กิจการของหุ้นส่วนเหลือวิสัยที่จะดำรงคงอยู่ต่อไป จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น ไม่ชอบด้วย กระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและฟ้องซ้อนในคดีจัดการมรดก: ประเด็นข้อพิพาทคนละกัน ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
คดีก่อนจำเลยทั้งสามกล่าวหาโจทก์ว่าละเลยไม่ทำบัญชีทรัพย์มรดกไม่รายงานแสดงบัญชีการจัดการและไม่แบ่งปันมรดกให้เสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย ให้ถอนโจทก์ออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย คดีถึงที่สุดแล้วคดีนี้โจทก์กล่าวหาจำเลยทั้งสามว่า ละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ของผู้จัดการมรดก มิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในเวลาและตามแบบที่กำหนดไว้ ไม่ทำรายงานแสดงบัญชีการจัดการและแบ่งปันมรดกให้เสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา จำเลยทั้งสามไม่สามารถเป็นผู้จัดการมรดก คดีก่อนกับคดีนี้จึงมีประเด็นข้อพิพาทคนละอย่างคนละเหตุกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ปัญหาที่ว่าคดีนี้เป็นฟ้องซ้อนกับคดีก่อนหรือไม่ จำเลยเพิ่งหยิบยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกา ไม่เห็นสมควรยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4565/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์นอกประเด็นต้องห้ามตามมาตรา 225 พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง กรณีตกลงประเด็นเฉพาะ
โจทก์จำเลยตกลงท้ากันเพียงประเด็นเดียวว่า โจทก์ได้ซื้อที่ดินพิพาทพร้อมบ้านพิพาทจาก ถ. จริงหรือไม่ และศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่า โจทก์ได้ซื้อที่ดินพิพาทพร้อมบ้านพิพาทจาก ถ. จริงจำเลยจึงเป็นฝ่ายแพ้คดี แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินพิพาทจาก ถ. สัญญาเช่าดังกล่าวเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา จำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทยังไม่ครบระยะเวลาตามสัญญา โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทพร้อมบ้านพิพาทจาก ถ. จึงเป็นการซื้อโดยไม่สุจริต ทำให้จำเลยเสียเปรียบโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยจำเลยไม่ได้อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้ซื้อที่ดินพิพาทพร้อมบ้านพิพาทจาก ถ. ตามประเด็นที่ตกลงกัน จึงเป็นอุทธรณ์ในเรื่องนอกประเด็น ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
of 20