พบผลลัพธ์ทั้งหมด 84 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานเห็นสภาพผู้เสียหายใกล้เวลาเกิดเหตุ ไม่ถือเป็นพยานบอกเล่า
พะยานอย่างไรเรียกว่าพะยานบอกเล่า พะยานที่ได้รับคำบอกเล่าจากเจ้าทุกข์และได้เห็นกิริยาของเจ้าทุกข์ในขณะใกล้ชิดกับเวลาเกิดเหตุ ไม่เรียกว่าพะยานบอกเล่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่ารับรองพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ลักทรัพย์ ฟังลงโทษได้
คดีเรื่องลักทรัพย์ โจทก์มีประจักษ์พะยานคนเดียวเบิกความ ก็ฟังลงโทษจำเลยได้พะยานบอกเล่ามาเบิกความรับรองก็รับฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าในคดีอาญา: จดหมายจากผู้ถูกกักขัง และการดำเนินคดีแม้โจทก์ไม่อยู่ในระวางพิจารณา
ลักษณะพะยาน พะยานบอกเล่าจดหมายที่ผู้ถูกกดขี่ กักขังเขียนถึงบิดามารดาและสามีเล่าถึงภัยที่ประสพให้ฟังนั้นเข้าอยู่ในลักษณพะยานบอกเล่า ฟังไม่ได้ตามกฎหมาย วิธีพิจารณาอาญาคดีที่ตัวโจทก์ไม่อยู่ในระวางพิจารณา แต่ได้แต่งทนายไว้แล้วพิจารณาต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าและการค้นพบของกลาง: ศาลฎีกาวินิจฉัยคำพยานบุตรจำเลยเชื่อมโยงการค้นสุราได้
ลักษณพะยาน คำพะยานบอกเล่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าประกอบพยานอื่นมีความน่าเชื่อถือในการพิสูจน์ความผิดทางอาญา
พยานบอกเล่าถ้ามีพยานอื่นประกอบฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8959/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพียงพอพิสูจน์ความผิดฐานพยายามฆ่าและมีอาวุธปืน
บันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของผู้เสียหายและคำเบิกความของพยานโจทก์ในส่วนของข้อเท็จจริงที่ได้รับการบอกเล่าจากผู้เสียหายเป็นพยานบอกเล่า แต่สภาพ ลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมของพยานบอกเล่า เช่นว่านี้ย่อมพิสูจน์ความจริงได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 วรรคสอง (1) ทั้งการที่โจทก์ไม่สามารถนำตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความในชั้นพิจารณาได้เพราะผู้เสียหายถูกคนร้ายยิงถึงแก่ความตายเสียก่อน นับว่ามีเหตุจำเป็นที่โจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ที่ได้เห็นและได้ยินในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนี้ด้วยตนเองโดยตรงมาเป็นพยานได้ กรณีเช่นนี้ย่อมมีเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะรับฟังคำให้การของผู้เสียหายประกอบคำเบิกความพยานโจทก์ทั้งสองซึ่งแวดล้อมกรณีใกล้ชิดเหตุการณ์ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 วรรคสอง (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าประกอบกับหลักฐานอื่นพิสูจน์ความจริงได้ การสนับสนุนการกระทำผิดฐานฆ่าโดยเจตนา
แม้บันทึกคำให้การของ ม. ในชั้นสอบสวนจะเป็นพยานบอกเล่าและมีลักษณะเป็นคำให้การซัดทอดของผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยก็ตาม แต่คำให้การดังกล่าวก็มีลักษณะของการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งผู้ให้ถ้อยคำก็มิได้ให้ถ้อยคำในลักษณะของการปัดความรับผิดไปให้จำเลยแต่เพียงฝ่ายเดียว หากแต่ยอมรับว่าตนเป็นผู้กระทำความผิดด้วย อีกทั้งเมื่อพิจารณาคำให้การของ ม. ประกอบกันกับคำเบิกความของ ช. เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งเป็นผู้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดที่ว่าได้ติดต่อขอบันทึกข้อมูลการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ ม. จากบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก็ปรากฏว่าในช่วงก่อนวันเกิดเหตุและในวันเกิดเหตุมีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ ม. ติดต่อกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยบ่อยครั้ง ซึ่งจำเลยก็เบิกความตอบโจทก์ถามค้านรับว่าหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของจำเลยจริง ประกอบกับ ม. ได้ให้ถ้อยคำตามบันทึกคำให้การ ต่อพนักงานสอบสวนโดยมี พ. ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านและเป็นบุคคลที่ ม. ให้ถ้อยคำในชั้นสอบสวนด้วยว่าเป็นบุคคลที่ ม. ไว้วางใจให้ร่วมฟังการสอบสวนด้วย ดังนั้นแม้บันทึกคำให้การดังกล่าวจะเป็นพยานบอกเล่าหรือเป็นพยานชั้นสองไม่ใช่พยานชั้นหนึ่ง แต่เมื่อพิเคราะห์ถึงลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมของบันทึกคำให้การดังกล่าว ซึ่ง ม. ได้ให้การไว้ต่อพนักงานสอบสวนโดยสมัครใจและเป็นการให้ถ้อยคำทันทีหลังจากถูกจับกุม รวมทั้งข้อเท็จจริงที่ปรากฏก็สอดคล้องต้องกันสมเหตุสมผลในอันที่จะเป็นเหตุให้มีการกระทำและสอดคล้องกันกับพยานหลักฐานอื่นที่ปรากฏ น่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้จึงเป็นพยานหลักฐานที่รับฟังได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 วรรคสอง (1)
ม. พยานโจทก์และจำเลยต่างก็เบิกความเจือสมกันว่าจำเลยกับ ม. หลังจากพบกันที่ร้านซ่อมรถยนต์แล้วจำเลยกับ ม. ก็พูดคุยกันในเชิงชู้สาวมาตลอด มีการลักลอบนัดพบกันที่รีสอร์ตและมีความสัมพันธ์กันในทางชู้สาวแสดงให้เห็นได้ว่าบุคคลทั้งสองมีความสนิทสนมชอบพอกัน ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดว่าก่อนและหลังเกิดเหตุบุคคลทั้งสองมีสาเหตุโกรธเคืองกัน จึงไม่มีเหตุผลใดที่ ม. จะเบิกความปรักปรำให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยว่าจำเลยเป็นผู้ที่ช่วยเหลือติดต่อหาคนมาฆ่าผู้ตาย รวมทั้งระบุว่าจำเลยเป็นผู้ที่พาคนร้ายมาพบที่รีสอร์ต ดังนั้นการที่ ม. เบิกความในทำนองว่าเคยพูดกับหลายๆ คนว่าหากใครช่วยจัดการฆ่าผู้ตายได้จะให้เงินนั้น ก็น่าจะเป็นคำเบิกความที่ต้องการเบี่ยงเบนให้ปรากฏข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่เพื่อให้เห็นว่าบุคคลที่ติดต่อผู้ที่มาฆ่าผู้ตายอาจไม่ใช่จำเลยก็ได้ หรือบุคคลที่มาฆ่าผู้ตายอาจไม่ใช่บุคคลที่จำเลยติดต่อมาซึ่งไม่ตรงกันกับที่ ม. เบิกความตอบโจทก์หรือที่เคยให้การในชั้นสอบสวน คำเบิกความของ ม. ดังกล่าวก็เป็นเพียงเพื่อช่วยจำเลยให้พ้นผิด ถ้อยคำที่ ม. เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
ม. พยานโจทก์และจำเลยต่างก็เบิกความเจือสมกันว่าจำเลยกับ ม. หลังจากพบกันที่ร้านซ่อมรถยนต์แล้วจำเลยกับ ม. ก็พูดคุยกันในเชิงชู้สาวมาตลอด มีการลักลอบนัดพบกันที่รีสอร์ตและมีความสัมพันธ์กันในทางชู้สาวแสดงให้เห็นได้ว่าบุคคลทั้งสองมีความสนิทสนมชอบพอกัน ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดว่าก่อนและหลังเกิดเหตุบุคคลทั้งสองมีสาเหตุโกรธเคืองกัน จึงไม่มีเหตุผลใดที่ ม. จะเบิกความปรักปรำให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยว่าจำเลยเป็นผู้ที่ช่วยเหลือติดต่อหาคนมาฆ่าผู้ตาย รวมทั้งระบุว่าจำเลยเป็นผู้ที่พาคนร้ายมาพบที่รีสอร์ต ดังนั้นการที่ ม. เบิกความในทำนองว่าเคยพูดกับหลายๆ คนว่าหากใครช่วยจัดการฆ่าผู้ตายได้จะให้เงินนั้น ก็น่าจะเป็นคำเบิกความที่ต้องการเบี่ยงเบนให้ปรากฏข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่เพื่อให้เห็นว่าบุคคลที่ติดต่อผู้ที่มาฆ่าผู้ตายอาจไม่ใช่จำเลยก็ได้ หรือบุคคลที่มาฆ่าผู้ตายอาจไม่ใช่บุคคลที่จำเลยติดต่อมาซึ่งไม่ตรงกันกับที่ ม. เบิกความตอบโจทก์หรือที่เคยให้การในชั้นสอบสวน คำเบิกความของ ม. ดังกล่าวก็เป็นเพียงเพื่อช่วยจำเลยให้พ้นผิด ถ้อยคำที่ ม. เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3148/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อส่งมอบยาเสพติด แม้เป็นพยานบอกเล่า แต่มีเหตุผลเชื่อได้ว่าใช้ในการกระทำผิด
ดาบตำรวจ ศ. ผู้ร่วมจับกุมเบิกความว่า จำเลยรับว่าใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางติดต่อในการขนส่งเมทแอมเฟตามีน และจำเลยให้การในชั้นสอบสวนว่า ชายที่ให้จำเลยขนเมทแอมเฟตามีนเป็นคนมอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางให้จำเลยใช้โดยให้รับสายอย่างเดียว แม้คำรับและคำให้การในชั้นสอบสวนดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่า แต่ตามสภาพ ลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมที่จำเลยมีหน้าที่ขับรถนำเมทแอมเฟตามีนจำนวนมากไปส่งให้แก่ผู้รับ เชื่อว่าผู้ว่าจ้างต้องมอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางให้จำเลยไว้ใช้ติดต่อในการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนดังกล่าว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยได้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางในการติดต่อส่งมอบเมทแอมเฟตามีน จึงต้องริบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15833/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานซัดทอดและพยานบอกเล่าในคดีเลือกตั้ง การกระทำความผิดฐานซื้อเสียง
แม้ ช. เป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยทั้งสอง และคำให้การของ ช. จะเป็นคำซัดทอดก็ตาม แต่ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227/1 มิได้ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานซัดทอด เพียงแต่ว่าในการรับฟังพยานดังกล่าวศาลจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและไม่ควรเชื่อพยานหลักฐานนั้นโดยลำพังเพื่อลงโทษจำเลย เว้นแต่มีเหตุผลอันหนักแน่น มีพฤติการณ์พิเศษแห่งคดีหรือมีพยานหลักฐานประกอบอื่นมาสนับสนุน
บันทึกถ้อยคำของ อ. ในชั้นสืบสวนสอบสวน แม้เป็นเพียงพยานบอกเล่า แต่กรณีมีเหตุจำเป็น เนื่องจากโจทก์ไม่สามารถนำ อ. มาเบิกความได้และมีเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานบอกเล่านั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 วรรคสอง (2) ศาลจึงนำมารับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้
บันทึกถ้อยคำของ อ. ในชั้นสืบสวนสอบสวน แม้เป็นเพียงพยานบอกเล่า แต่กรณีมีเหตุจำเป็น เนื่องจากโจทก์ไม่สามารถนำ อ. มาเบิกความได้และมีเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานบอกเล่านั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 วรรคสอง (2) ศาลจึงนำมารับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11331/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าประกอบหลักฐานอื่นได้ หากมีเหตุผล และการรับฟังพยานหลักฐานเกี่ยวกับการชำระหนี้
ป.วิ.พ. มิได้ห้ามโดยเด็ดขาดมิให้รับฟังพยานบอกเล่า หากพยานบอกเล่ากล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังพยานบอกเล่าประกอบพยานหลักฐานอื่นได้ ว. แม้มิได้เกี่ยวข้องรู้เห็นในการจัดทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี แต่เป็นพนักงานของโจทก์ย่อมสามารถตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำนิติกรรมรายนี้ได้ อันทำให้สามารถทราบที่มาที่ไปของหนี้สินรายนี้จนสามารถเบิกความให้ความกระจ่างในกรณีที่มีความคลุมเครือน่าสงสัยเกี่ยวกับหนี้สินรายนี้ได้ จึงสามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานประกอบพยานหลักฐานอื่นได้