คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิจารณาคดีใหม่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6314/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องระบุเหตุขาดนัดและคัดค้านคำตัดสินอย่างชัดเจน หากมิได้ระบุครบถ้วน ศาลไม่รับพิจารณา
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 วรรคสองนั้น จะต้องกล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยละเอียดชัดแจ้งทั้งสองประการ แต่คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยกล่าวแต่เพียงเหตุที่จำเลยขาดนัด ไม่ได้กล่าวคัดค้านถึงเนื้อหาแห่งคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นเพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไรบ้าง แม้จำเลยจะอ้างว่า โจทก์มิได้นำ อ. กรรมการของโจทก์ที่มีอำนาจทำนิติกรรมใด ๆ แทนโจทก์มาเบิกความ คงมีแต่ บ. ผู้ช่วยผู้จัดการด้านสินเชื่อซึ่งมิใช่พนักงานบัญชีเพียงผู้เดียวมาเบิกความ ทั้งมิได้นำเจ้าหน้าที่มาเบิกความรับรองถึงความถูกต้องแท้จริงของหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทฯ จึงฟังไม่ได้ว่า อ. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์และเป็นผู้แต่งตั้งทนายความดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีนี้ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ก็หาใช่เป็นการคัดค้านในเนื้อหาแห่งคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นอันจะทำให้จำเลยที่ 2 เป็นฝ่ายชนะคดีหากมีการพิจารณาใหม่ไม่ คำขอของจำเลยจึงไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 วรรคสอง ที่จะให้มีการพิจารณาคดีใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6206/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งอนุญาตพิจารณาคดีใหม่หลังมีคำพิพากษาต้องทำภายใน 1 เดือน หากเกินกำหนด อุทธรณ์ไม่ชอบ
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ ภายหลังที่ได้พิพากษาคดีแล้ว มิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (1)โจทก์ต้องอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำสั่ง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งพร้อมอุทธรณ์คำพิพากษาในวันที่เกินกำหนด 1 เดือน อุทธรณ์คำสั่งของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6206/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่อนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่หลังมีคำพิพากษาแล้ว ต้องยื่นภายใน 1 เดือน
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ภายหลังที่ได้พิพากษาคดีแล้วมิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา226(1)โจทก์ต้องอุทธรณ์ภายใน1เดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำสั่งโจทก์อุทธรณ์คำสั่งพร้อมอุทธรณ์คำพิพากษาในวันที่เกินกำหนด1เดือนอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5643/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องแสดงเหตุผลโต้แย้งคำตัดสินชัดเจน การกล่าวอ้างสัญญาเช่ายังไม่หมดอายุโดยไม่มีหลักฐานไม่เพียงพอ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวเพียงว่าสัญญาเช่ายังไม่ครบอายุยังมีอายุสัญญาเช่าอีก9ปีโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงสนับสนุนว่าเหตุใดจำเลยจึงยังคงมีสิทธิอยู่อีกทั้งๆที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าสัญญาเช่ามีผลบังคับตามกฎหมายได้เพียง3ปีซึ่งครบกำหนดไปแล้วและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้วคำร้องขอของจำเลยจึงมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นเห็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5643/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องระบุเหตุโต้แย้งคำพิพากษาชัดเจน การอ้างสัญญาเช่ายังไม่ครบอายุโดยไม่มีหลักฐานไม่อาจรับฟังได้
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวเพียงว่าสัญญาเช่ายังไม่ครบอายุยังมีอายุสัญญาเช่าอีก9ปีโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงสนับสนุนว่าเหตุใดจำเลยจึงยังคงมีสิทธิอยู่อีกทั้งๆที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าสัญญาเช่ามีผลบังคับตามกฎหมายได้เพียง3ปีซึ่งครบกำหนดไปแล้วและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้วคำร้องขอของจำเลยจึงมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นเป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5338/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่มีประโยชน์เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยการขอให้พิจารณาคดีใหม่
แม้ในขณะที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาฟ้องอุทธรณ์โจทก์ในคดีที่โจทก์ขอให้ยกคดีสำหรับจำเลยที่2ขึ้นพิจารณาใหม่นั้นศาลอุทธรณ์ยังมิได้พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์โจทก์ที่ขอให้ประทับฟ้องจำเลยทั้งสองตามฟ้องโจทก์ก็ตามแต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยที่2แล้วและคดีถึงที่สุดโดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นให้ประทับฟ้องดังนั้นการที่โจทก์ฎีกาฉบับนี้เพื่อขอให้ยกคดีของโจทก์สำหรับจำเลยที่2ขึ้นพิจารณาใหม่นั้นจึงไม่มีคดีของโจทก์สำหรับจำเลยที่2ที่จะให้ยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้ฎีกาโจทก์จึงไม่มีประโยชน์แก่คดีที่จะวินิจฉัยต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2389/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่และการขาดนัด: ศาลไม่ได้สั่งขาดนัด ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอพิจารณาคดีใหม่
กรณีที่ผู้ร้องจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้จะต้องเป็นเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัด แต่คดีนี้เมื่อผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดไต่สวน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา จึงให้ถือว่าผู้ร้องไม่ติดใจจะสืบพยานและนัดสืบพยานผู้คัดค้าน ต่อมามีคำสั่งให้ผู้ร้องแพ้คดี เห็นได้ว่าศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณา จึงไม่ใช่การพิจารณาโดยขาดนัด ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2389/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่ต้องเป็นการพิจารณาโดยขาดนัด ศาลไม่ถือว่าผู้ไม่มาศาลเป็นขาดนัดหากทราบและไม่ติดใจสืบพยาน
กรณีที่ผู้ร้องจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้จะต้องเป็นเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดแต่คดีนี้เมื่อผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาจึงให้ถือว่าผู้ร้องไม่ติดใจจะสืบพยานและนัดสืบพยานผู้คัดค้านต่อมามีคำสั่งให้ผู้ร้องแพ้คดีเห็นได้ว่าศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงให้ว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาจึงไม่ใช่การพิจารณาโดยขาดนัดผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องทำตามรูปแบบและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่เป็นไปตามจะถูกยกคำร้อง
ที่จำเลยฎีกาข้อแรกว่า จำเลยขอถือเอาอุทธณ์ของจำเลยเอกสารท้ายฎีกาเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาด้วย ไม่เป็นการกล่าวชัดแจ้งซึ่งข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างในฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องของจำเลยไม่กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งสาเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลตาม ป.วิ.พ.มาตรา208 วรรคสอง จึงมีอำนาจสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยได้โดยไม่จำต้องส่งสำเนาคำร้องให้แก่โจทก์เพื่อคัดค้านหรือไม่อย่างไรอีก
จำเลยได้ยื่นคำร้องฉบับที่ 2 เพื่อให้คำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยสมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้คำร้องฉบับที่ 2 จะต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกันกับฉบับแรกก็ตาม แต่เมื่อจำเลยยื่นคำร้องฉบับที่ 2 เมื่อพ้น 15 วัน นับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จำเลย จำเลยย่อมไม่มีสิทธิจะขอให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีตามคำท้าของคู่ความและการขอพิจารณาคดีใหม่ หากเห็นว่าศาลไม่มีอำนาจต้องอุทธรณ์ ไม่ใช่ขอพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษาไปตามคำท้าของคู่ความมิใช่เป็นกรณีการพิจารณาโดยขาดนัดอันจะเป็นเหตุให้คู่ความร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา207ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจวินิจฉัยไปตามคำท้าก็จะต้องอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานต่อไปจะขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้
of 28